logo-heading

ฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล 2023/24 มาถึงช่วงโค้งสุดท้าย โดยเหลือโปรแกรมอีกเพียง 3 นัดเท่านั้น เรื่องของการลุ้นแชมป์ตอนนี้ไม่น่ามีปัญหาสำหรับ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ต้องการอีกเพียง 3 แต้มเท่านั้น แต่ที่ยังคงลุ้นกันสนุก และยังไม่รู้ว่าสุดท้ายจะจบแบบไหน นั่นก็คือการลุ้นหนีตกชั้น

27 เกมที่ผ่านมา ตอนนี้ยังไม่มีทีมไหนที่ตกชั้นแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถ้าเป็นฤดูกาลก่อนๆ จะต้องมีแล้วอย่างน้อย 1 ทีม หรือบางปีก็มี 2 ทีมแล้ว ที่ต้องตกชั้น ส่วนอีกทีมอาจจะไปลุ้นกันถึงนัดสุดท้าย

แต่ในซีซั่นนี้อย่างที่บอกว่า มาถึง 3 เกมสุดท้ายยังไม่มีทีมไหนที่สามารถกาชื่อออกจากลีกสูงสุดได้ เนื่องจากตารางคะแนนโซนท้ายตารางนั้นใกล้เคียงกันมาก และทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ทุกสัปดาห์ 

เมื่อ \"ชลบุรี เอฟซี\" ต้องมาหนีตกชั้น อะไรพาพวกเขามาสู่จุดนี้ได้?

แต่ถ้าจะตีวงให้แคบตอนนี้ทีมที่ยังสุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้นน่าจะมีอยู่ไม่เกิน 6 ทีม ไล่ตั้งแต่อันดับ 11 ลงมา นั่นคือ ลำพูน วอริเออร์ ที่มีอยู่ 31 คะแนน ตามด้วย พีที ประจวบ 30 คะแนน, สุโขทัย 29, ชลบุรี 26, ตราด และ โปลิศ เทโร 25 คะแนนเท่ากัน

ซึ่ง 2 ทีมแรกอย่าง ลำพูน กับ พีที ประจวบ ตามทฤษฎีขอเพียงชนะอีกคนละนัดก็นะจะรอดแล้ว คือถ้าทีมไหนมีคะแนน 33-35 คะแนน ก็จะรอดตกชั้น ดังนั้นถ้าจะว่ากันตามความเป็นจริง ตอนนี้ 4 ทีมสุดท้ายน่าเป็นห่วงมาก แม้จะมีโอกาสทำแต้มหนีขึ้นไปได้ แต่ถ้าดูจากผลงานและโปรแกรมที่เหลือ ยากมากที่จะชนะทุกนัด

ทีมที่น่าเป็นห่วง และถูกพูดถึงมากในเวลานี้ก็คือ "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี อดีตแชมป์ไทยลีก และถือเป็นทีมต้นแบบของสโมสรอาชีพในเมืองไทย ที่ต้องมาดิ้นรนหนีตกชั้นในช่วงท้ายฤดูกาลแบบนี้

นี่ถือเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่พวกเขาต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ และน่าจะเป็นฤดูกาลที่ยากลำบากที่สุดด้วย ก่อนหน้านี้ ฉลามชล เคยต้องหนีตกชั้นมาแล้วเมื่อฤดูกาล 2020/21 แต่สุดท้ายก็รอดมาได้หวุดหวิด โดยจบอันดับที่ 12 ของตาราง เก็บได้ 32 คะแนน

ในครั้งนี้พวกเขายังมีโอกาสรอด เพียงแต่ต้องชนะให้ได้ 2 ใน 3 เกมสุดท้าย หรือต้องชนะรวดทุกนัด และยังต้องลุ้นผลงานของทีมอื่นๆ ด้วย แต่ถ้านัดต่อไปยังไม่ชนะอีก บอกเลยว่าเตรียมเก็บข้าวของได้

ลองไปดูโปรแกรม 3 เกมสุดท้ายของชลบุรี หลังจากนี้ เริ่มด้วยพบกับ พีที ประจวบ นัดสุดสัปดาห์หน้า ซึ่งนี่น่าจะเป็นเกมที่สำคัญที่สุด ชลบุรี ต้องชนะสถานเดียวเพื่อทำแต้มเป็น 29 คะแนน และบีบให้ พีที ประจวบ ยังต้องลุ้นต่อไป

จากนั้นต้องไปเยือนเมืองทอง ที่สนามศุภชลาศัย ซึ่งกิเลนผยองชั่วโมงนี้ก็ฟอร์มร้อนแรงมากๆ ถือเป็นงานที่หนักเลยทีเดียว ก่อนจะปิดท้ายฤดูกาล ด้วยการพบกับ ตราด เอฟซี ทีมหนีตกชั้นด้วยกัน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนั้นจะเป็นอย่างไร

ดูๆ แล้ว อาการของ "ฉลามชล" น่าเป็นห่วงมากๆ เกมสำคัญอยู่ที่นัดต่อไปเลย ถ้าไม่สามารถเก็บสามแต้มจากพีที ประจวบได้ ผมว่าโอกาสตกชั้นสูงถึงสูงมาก

สำหรับชลบุรี เอฟซี ถือเป็นทีมที่เป็นหนึ่งในการขับเคลื่อนวงการฟุตบอลไทยมาโดยตลอด เป็นทั้งสีสัน เป็นทั้งต้นแบบ เป็นทั้งเสาหลักของไทยลีก โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริหาร ที่ไม่ว่าจะยุคไหน ชลบุรี ก็จะเป็นแกนของวงการฟุตบอลไทย 

ผมเข้ามาทำข่าวฟุตบอลไทยจริงจังก็ตั้งแต่ฤดูกาล 2009 ก็เห็นชลบุรี อยู่ในลีกสูงสุดมาโดยดลอด ตั้งแต่ช่วงเฟื่องฟู จนมาถึงช่วงปรับเปลี่ยนนโยบาย

ใครที่ติดตามไทยลีกมานาน ยิ่งเป็นแฟนคลับของชลบุรี ก็น่าจะทราบดีอยู่แล้ว ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ฉลามชลมาอยู่ตรงจุดนี้ก็คือเรื่องของงบประมาณในการทำทีม จริงอยู่ว่าชื่อของ ชลบุรี เอฟซี เหมือนจะเป็นทีมใหญ่ เป็นทีมระดับท็อปของไทยลีก แต่จริงๆ แล้วพวกเขาไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง หรือมีนายทุนที่เงินหนาอะไรขนาดนั้น

ชลบุรียังต้องพึ่งเงินจากสปอนเซอร์ และระบบฟุตบอลลีกอาชีพในการทำทีมในทุกๆ ฤดูกาล และเมื่อช่วงหลังไม่ค่อยประสบความสำเร็จอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอัน เงินจากสปอนเซอร์ หรือรายได้ต่างๆ มันก็ค่อยๆ หายไป จนนำมาซึ่งการปรับเปลี่ยนนโยบายในการปั้นเด็ก และก็ขายซูเปอร์สตาร์ของทีมออกไป เพื่อให้ทีมยังอยู่รอดและเดินหน้าต่อไปได้ โดยที่ไม่ได้มองถึงการลุ้นแย่งแชมป์ไทยลีกอีกต่อไป

มาในซีซั่นนี้หลังจากพวกเขาเสียนักเตะเสาหลักของทีมไปอย่าง กฤษดา กาแมน เหมือนทุกอย่างมันเริ่มแย่ไปทั้งหมด ต้องดันเด็กหลายๆ คนขึ้นมา อีกทั้งตัวเก๋าที่มีอยู่ในทีมตอนนี้ก็โรยรา ตัวต่างชาติก็เทียบกับทีมอื่นๆ ไม่ได้ ผลงานมันก็ออกมาอย่างที่เห็น

ตอนนี้สิ่งที่ชลบุรี ต้องการมากที่สุดก็คือจุดเปลี่ยนของทีม ยกตัวอย่างเมืองทอง ยูไนเต็ด ที่จริงๆ แล้วประสบปัญหาเดียวกันในเลกแรก ที่ผลงานดิ่งมาก แต่พอมาเลกสองพวกเขาเจอจุดเปลี่ยน และผลงานดีขึ้นมาจนกลับไปอยู่หัวตาราง

แต่ดูจากผลงานของชลบุรี ในตอนนี้ ก็ต้องบอกตามตรงว่าคงจะกลับมายาก ถ้าจะมีอะไรที่เป็นจุดเปลี่ยนก็คงจะเป็นการเอาตัวรอดในซีซั่นนี้ไปก่อน และไปว่ากันใหม่ฤดูกาลหน้า

แต่ก็ไม่รู้ว่าจุดเปลี่ยนนั้นมันจะเกิดขึ้นหรือไม่ หรืออาจจะต้องกลับไปเริ่มกันใหม่ในศึกไทยลีก 2 

อย่างไรก็ตาม ขอเป็นกำลังใจให้ทีมฉลามชลเอาตัวรอดไปได้ในฤดูกาลนี้ เพราะตอนนี้ยังก็ยังนึกไม่ออกว่าถ้าไทยลีก ฤดูกาลหน้าไม่มีชลบุรี จะเป็นยังไง??

 

#ชิชาริเต่า

 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline