logo-heading

ฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล 2023/24 เดินทางมาถึง 4 เกมสุดท้าย ซึ่งก็ใกล้จะได้บทสรุปกันแล้วว่าทีมไหนจะคว้าแชมป์ซีซั่นนี้ไปครอง

และหลังจากที่ ทรู แบงค็อก รองจ่าฝูงและผู้ท้าชิงอันดับหนึ่งของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทำได้แค่เสมอกับ พีที ประจวบ ในเกมนัดมันเดย์ไนท์ เมื่อวันจันทร์ที่ 29 เม.ย.ที่ผ่านมา 0-0 ก็ยิ่งทำให้ทุกอย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น

โดยสถานการณ์ตอนนี้ บุรีรัมย์ นำเป็นจ่าฝูง มีอยู่ 59 คะแนน จากการชนะ 17 เสมอ 8 แพ้ไปแค่ 1 นัด ขณะที่ บียู ตามมาเป็นที่ 2 มีอยู่ 54 คะแนน จากการชนะ 15 เสมอ 9 แพ้ไป 2 นัด

จะเห็นว่าช่องว่างห่างกันอยู่ 5 คะแนน จะมองว่าเยอะก็เยอะกับโปรแกรมที่เหลือแค่ 4 นัดสุดท้าย แต่ถ้าจะมองว่าไม่เยอะ มีโอกาสพลิกได้ มันก็พอมีความเป็นไปได้เหมือนกัน แต่ก็น้อยมาก

จริงๆ ถ้าเราดูจากผลงานของ ทรู แบงค็อก ก็ไม่ได้แย่ พวกเขาแพ้ไปแค่ 2 เกมในฤดูกาลนี้ ซึ่งแชมป์ไทยลีก ฤดูกาลก่อนๆ แพ้มากกว่านี้อีก แต่ก็ต้องยอมรับว่าบุรีรัมย์ แข็งแกร่งจริง พวกเขาแพ้ไปแค่เกมเดียวเท่านั้น

จุดที่ทำให้ บียู คะแนนตามหลังอยู่ 5 แต้ม และโอกาสจะพลิกแซงคว้าแชมป์น้อยลงไปก็น่าจะเป็นเพราะไปหลุดเสมอถึง 9 นัด แต่ถ้าจะมองที่บุรีรัมย์ พวกเขาก็เสมอเยอะเหมือนกันถึง 8 นัด ซึ่งถ้าโปรแกรมเหลือเยอะกว่านี้ การลุ้นแชมป์อาจจะยังเปิดกว้าง แต่พอเหลือแค่ 4 เกม ก็เลยทำให้ บุรีรัมย์ แถบจะนอนมา

ในส่วนของสถานการณ์การเป็นแชมป์ของทั้งสองทีม บุรีรัมย์ หลังจากนี้ถ้าชนะอีก 2 เกม แทบจะแบเบอร์ โดยสองนัดสุดท้ายขออีก 1 แต้ม หรือบางทีถ้า แบงค็อก ไปสะดุดเองอีกนัดหรือสองนัด ทุกอย่างอาจจะจบเร็วกว่าที่คิดก็ได้

ส่วนทาง บียู เอง โอกาสแม้จะยังมีแต่เงื่อนไขก็อยากอยู่ เพราะพวกเขาต้องชนะทั้ง 4 เกมที่เหลือ และแช่งให้บุรีรัมย์ แพ้ถึง 2 เกม ถึงจะมีโอกาสแซงคว้าแชมป์โค้งสุดท้าย

ถามว่า บุรีรัมย์ แพ้ 2 นัดเป็นไปได้ไหม บอลยังไม่เตะมันเป็นไปได้ทั้งนั้น แต่ดูจากฟอร์มและโปรแกรมที่เหลือ มันเป็นไปได้ยากมาก 

คิดดูง่ายๆ ทีมปราสาทสายฟ้า ลงเตะมาแล้ว 26 เกม เพิ่งจะแพ้ไปแค่เกมเดียว นี่เหลืออีก 4 เกม จะให้แพ้เกมเดียวก็ยังมองว่ายากเลย ยิ่งผลงานในชั่วโมงนี้ ภายใต้การคุมทัพของกุนซือคนใหม่ชาวแซมบ้าอย่าง จอร์จินโญ่ ที่เข้ามาปรับเปลี่ยนรูปแบบ และวิธีการเล่น ทำให้ทีมเซราะกราวดูจะลงตัว และแข็งแกร่งมาขึ้นกว่าตอน ปาปาส คุมทีมเสียอีก

เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เราลองมาเทียบโปรแกรม 4 นัดสุดท้ายของทั้งสองทีม ว่ามันจะมีโอกาสพลิก หรือบุรีรัมย์ จะได้แชมป์เร็วสุดเมื่อไหร่ 

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

  • 4 พ.ค.67 นครปฐม ยูไนเต็ด พบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
  • 12 พ.ค.67 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ การท่าเรือ เอฟซี
  • 18 พ.ค.67 อุทัยธานี เอฟซี พบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
  • 26 พ.ค.67 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ ขอนแก่น ยูไนเต็ด

ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด

  • 5 พ.ค.67 ขอนแก่น ยูไนเต็ด พบ ทรู แบงค็อก
  • 12 พ.ค.67 ทรู แบงค็อก พบ ตราด เอฟซี
  • 17 พ.ค.67 โปลิศ เทโร พบ ทรู แบงค็อก
  • 26 พ.ค.67 นครปฐม ยูไนเต็ด พบ อุทัยธานี เอฟซี

จากโปรแกรมด้านบน บุรีรัมย์ จะมีหนักก็คือนัดที่ 2 หลังจากนี้ โดยพวกเขาจะเปิดบ้านรับการมาเยือนของการท่าเรือ เอฟซี ที่เป็นทีมเดียวที่เอาชนะ บุรีรัมย์ ได้ในเลกแรก แต่เกมนี้เล่นที่ช้างอารีน่า บ้านของบุรีรัมย์ ดูแล้วโอกาสที่พวกเขาจะเก็บสามแต้มก็คงจะไม่ยากจนเกินไป แต่สมมติว่าสะดุด อาจจะเสมอ อาจจะทำให้การลุ้นแชมป์ยังไม่จบ ต้องไปว่ากันต่อในสองเกมสุดท้าย

แต่เกมต่อไปที่บุรีรัมย์ จะออกไปเยือน อุทัยธานี อาจจะเป็นเกมที่ได้บทสรุปแชมป์ของฤดูกาลนี้

ขณะที่โปรแกรมของ บียู เอาจริงมีโอกาสสะดุดตั้งแต่เกมต่อไปที่ต้องออกไปเยือน ขอนแก่น เพราะบียู เกมเยือนไม่ค่อยดี มีโอกาสสูงที่อาจจะทำได้แค่เสมอ และการลุ้นแชมป์ก็อาจจะจบเร็วขึ้น

และถ้าทุกอย่างเป็นไปตามที่คาดไว้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จะเป็นแชมป์ไทยลีก สมัยที่ 9 หลังจากเทคโอเวอร์สโมสรการไฟฟ้าฯ มา และก็จะเป็นครั้งที่ 2 ที่พวกเขาเป็นแชมป์ไทยลีก 3 ฤดูกาลติดต่อกัน ซึ่งครั้งแรกเคยทำได้ ฤดูกาล 2012, 2013 และ 2014 โดยก่อนหน้านี้ได้แชมป์มา 2 ฤดูกาลติด 2021/22, 2022/23 และถ้าปีนี้ได้ 2023/24 ก็จะสามฤดูกาลติดต่อกัน ซึ่งอยากมากที่จะมีสโมสรไหนทำลายสถิตินี้ลงได้

และนอกจากไทยลีก แล้ว ฤดูกาลนี้ทีมเซราะราวยังมีลุ้นแชมป์อีกหนึ่งรายการ นั่นคือ รีโว่ คัพ ซึ่งดูแล้วก็คงไม่ยอมให้ถ้วยนี้หลุดมือไปง่ายๆ แน่ เพราะถ้วยใหญ่อย่างเอฟเอ คัพ นั้นพวกเขาตกรอบไปแล้ว

สมมติถ้าในเอฟเอ ยังไม่จบ แล้วบุรีรัมย์ มีลุ้นสามถ้วย ได้แชมป์ 3 ถ้วย 3 ปีติด จะเป็นอะไรที่เวอร์และสุดยอดมาก น่าเสียดายที่มันไม่เกิดขึ้น

แต่สำหรับ ทรู แบงค็อก แล้ว แม้จะไม่สามารถคว้าแชมป์ไทยลีก ในฤดูกาลนี้ได้ แต่พวกเขาก็มีโอกาสจะคว้าแชมป์แรกในประวัติศาสตร์ แบบที่ไม่ใช่ถ้วยพิเศษอย่าง ไทยแลนด์ แชมเปี้ยน คัพ ที่พวกเขาได้มาก่อนเปิดฤดูกาล นั่นก็คือ ฟุตบอลช้างเอฟเอ คัพ ที่เข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศ และเป็นทีมเดียวจากไทยลีก นอกนั้นเป็นทีมจาก T2 และ T3

ซึ่งถ้าไม่พลาดเอง ทรู แบงค็อก น่าจะคว้าแชมป์รายการนี้ไปครองได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ฟุตบอลถ้วยนัดเดียว อะไรก็เกิดขึ้นได้ และเอฟเอ คัพ ฤดูกาลนี้ ทีมจากลีกสูงสุดก็ตกกันไปหมดแล้วด้วย

ทั้งหมดนี้ก็เป็นสถานการณ์ล่าสุดและการคาดการจากความน่าจะเป็น ท้ายที่สุดแล้วทั้งไทยลีก และเอฟเอ คัพ จะจบแบบไหน มาลุ้นกันช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่นนี้

#ชิชาริเต่า

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline