"อันเชล็อตติ" เบื้องหลังคนสำคัญพา "วินิซิอุส" ถึงยอดนักเตะ

สถานะของ วินิซิอุส จูเนียร์ ในตอนนี้กลายเป็นแนวรุกคนสำคัญของ เรอัล มาดริด ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย จากประตูที่ทำ และจากแอสซิสต์มากมายที่รังสรรค์ขึ้น

ช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปีเปลี่ยนชีวิตเด็กหนุ่มจาก เซา กอนซาโล่ ได้เป็นอย่างมาก ซึ่งหนึ่งในผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดก็คือ คาร์โล อันเชล็อตติ ที่เปลี่ยนทัศนคติ เปลี่ยนวิธีการของ วินิซิอุส ไปจากเดิม

อันเช่ มีส่วนกับผลงานของ วินิซิอุส อย่างไรบ้าง ขอบสนาม ในวันนี้จะพาไปเจาะลึกประเด็นนี้กันครับ

ย้อนกลับไป วินิซิอุส คงเป็นเหมือนกับเด็กบราซิลหลายๆ คน มีความฝัน และความต้องการอยากเป็นนักฟุตบอลชีพ และด้วยพรสวรรค์ที่เขามี ความสามารถที่โดดเด่นทำให้ถูกดึงตัวเข้าไปสู่อคาเดมี่ของ ฟลาเมงโก

เวลาผ่านไป วินิซิอุส เริ่มเฉิดฉายมากยิ่งขึ้น พร้อมเดินหน้าล่ารางวัลต่างๆ มาครอง ทั้งนักเตะยอดเยี่ยมศึก โคปา เซา เปาโล ในฐานะปีกซ้าย ซึ่งทัวร์นาเมนต์นี้มีรุ่นพี่ทีมชาติบราซิลหลายคนผ่านมาแล้วทั้ง กาเซมิโร่, เนย์มาร์, ลูคัส ลูร่า หรือ กาเบรียล เชซุส

หลังจบรายการดังกล่าว วินิซิอุส ต่อยอดด้วยการพา บราซิล คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอเมริกาใต้รุ่น U17 ปี พ่วงด้วยเขาเป็นดาวซัลโวของทัวร์นาเมนต์ที่จำนวน 7 ประตู และได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยม

ในช่วงเวลาดังกล่าว วินิซอุส เริ่มมีผลงานที่จับต้องได้กับ ฟลาเมงโก้ บ้างแล้ว ได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ และยิ่งผลงานในระดับเยาวชนทีมชาติโดดเด่นก็ไม่แปลกที่เนื้อตัวจะหอม ได้รับความสนใจจากทีมในยุโรป

จากนั้นไม่นาน เรอัล มาดริด ได้ต่อสายตรงหา ฟลาเมงโก เพื่อเจรจาดึงตัวแข้งรายนี้ไปร่วมทีม แม้โปรไฟล์อาจจะยังไม่ได้เลิศหรู แต่ทัพ ราชันชุดขาว พร้อมซื้ออนาคต และมั่นใจว่าเด็กคนนี้สามารถต่อยอดได้มากกว่าปัจจุบัน

45 ล้านยูโรคือเงินที่ เรอัล มาดริด ลงทุนไป ซึ่ง วินิซิอุส ได้ออกมายอมรับเลยว่าทุกอย่างมันเกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัว เขาเพิ่งนั่งเป็นตัวสำรองของ ฟลาเมงโก้ ลงเล่นในรายการเยาวชน และจู่ๆ ชีวิตกำลังจะพลิกผันได้ย้ายไปเล่นในยุโรปกับสโมสรใหญ่จาก ลาลีกา สเปน

ช่วงกลางปี 2018 วินิซิอุส เปิดตัวกับ เรอัล มาดริด อย่างเป็นทางการ ชีวิตนักฟุตบอลของเขากำลังจะเปลี่ยนไป ทว่ามันไม่ได้ง่ายเลยกับเด็กหนุ่มผู้ออกจากดินแดนบ้านเกิดครั้งแรก พบกับวัฒนธรรมใหม่ๆ อาหารการกิน วิถีชีวิต 

ขวบปีแรกของ วินิซิอุส เริ่มต้นกับทีมระดับ กาสติย่า หรือทีมสำรองของ เรอัล มาดริด เพราะด้วยปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะการปรับตัวเพื่อให้คุ้นชินกับฟุตบอลใหม่ๆ มากยิ่งขึ้น

ในซีซั่น 2018-19 วินิซิอุส เจอเรื่องราวมากมายทั้งโค้ที่ต้องเปลี่ยนแปลงหลายครั้งจาก ฆูเลน โลเปเตกี มาเป็น ซานติอาโก้ โซลารี่ ก่อนลงเอยที่ ซีเนดีน ซีดาน โอกาสของเขาก็แตกต่างกันออกไป ตัวจริงบ้าง สำรองบ้าง แต่ในภาพรวมต้องยอมรับว่ามันไม่ค่อยสวยงามเท่าไหร่นัก

ซึ่งมันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกกับเด็กที่ก้าวกระโดดจากบราซิลมาสู่ ลาลีกา สเปน การมาเจอของแข็งกว่าเดิมย่อมต้องปรับตัว และทัศนคติตามๆ กันไปด้วย

ช่วงแรกของ วินิซิอุส กับ มาดริด มีเสียงวิจารณ์มากพอสมควรเกี่ยวกับผลงาน และมันบานปลายไปถึงขั้นวิจารณ์สโมสรที่ทุ่มเงินมหาศาลกับเด็กที่เพิ่งลงเล่นให้ ฟลาเมงโก้ เพียง 2 ปี เป็นดีลที่กำลังเดินหน้าสู่ความล้มเหลว

ในตอนนั้น วินิซิอุส คงอยู่ในห้วงเวลาของการอยากโชว์ อยากแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าเขานั้นเจ๋งมากขนาดนั้น จนบางทีมันเยอะเกินไปจนถูกนิยามว่าเป็นฟุตบอลชายเดี่ยว

ชอบเลี้ยง ชอบฝ่าคู่แข่ง ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง จบสกอร์ได้ห่วยแตก มักตกม้าตายในจังหวะสุดท้ายบ้าง สิ่งเหล่านี้คือปัญหาที่แฟนบอลมองเห็น

ซึ่งมันสอดคล้องกับที่ครั้งหนึ่งอดีตนักเตะของ ฟลาเมงโก้ อย่าง เดยัน เพ็ตโควิช ได้ออกมาพูดว่า วินิซิอุส เป็นพวกขี้เลี้ยง และเห็นแก่ตัว

โดย เพ็ตโควิช เคยกล่าวไว้ว่า “วินิซิอุส เห็นแก่ตัวมาก เขาเลี้ยงบอลมากเกินไป และเสียการครองบ่อยครั้ง เขาเป็นคนดีมาก แต่ไม่ใช่ในฐานะผู้เล่นในทีมที่ยอดเยี่ยม”

จนกระทั่งถึงวันที่ คาร์โล อันเชล็อตติ หวนกลับมาทำงานกับ เรอัล มาดริด อีกครั้ง สิ่งแรกๆ ที่อันเช่ จัดการลงมือทำคือการพยายามปรับทัศนคติของ วินิซิอุส เพื่อดึงศักยภาพออกมาช่วยทีมให้ได้มากที่สุด

 

จากภาพที่แฟนบอลเคยเห็น วินิซิอุส ครองบอลนาน ไม่ช่วยเกมรับ หรือขาดการประสานงาน อันเช่ จัดการเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านั้น จนกลายเป็นว่า คาริม เบนเซม่า ได้คู่ขารุ่นน้องที่ช่วยเหลือกันจนผลิตประตูได้อย่างมากมายในซีซั่น 2021-22

ฤดูกาลดังกล่าว เบนเซม่า ซัดไป 44 ประตู ส่วน วินิซิอุส ทำไป 22 ประตู พ่วงกับอีก 20 แอสซิสต์ ตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกได้เลยว่า เด็กหนุ่มจากบราซิลเปลี่ยนไปทั้งวิธีการ ผลงาน และทัศนคติ

สิ่งที่ อันเช่ ลงมือทำกับลูกทีมคนนี้ไม่ใช่การเรียกมาดุด่า หรือวิจารณ์ผ่านสื่อ แต่ใช้วิธีการค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป ใช้จิตวิทยาในการควบคุมนักเตะ ปรับหมากในสนามเพื่อเข้ากับสถานการณ์ และบุคคลนั้นๆ

ประมาณว่านี่คือคำแนะนำจากเขา ถ้าคุณอยากยกระดับตัวเองก็นำไปปรับใช้ แต่ถ้าคุณไม่สนใจนั้นก็คือชุดความคิดของคุณ และมันก็ไม่ได้การันตีแล้วว่าคุณจะดีพอต่อการเป็นตัวเลือกของนายใหญ่คนนี้

 

อย่างในเคสของ วินิซิอุส ทุกอย่างมันเริ่มตั้งแต่ในสนามฝึกซ้อม การครองบอล การจ่ายเลือกจ่ายในจังหวะที่คู่ควร การวิ่งไลน์ที่ควรจะทำ ก่อนลงลึกในรายละเอียดที่มากขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่นขวบปีที่ประสานงานกับ เบนเซม่า 

ภาพมันชัดเจนว่า อันเช่ ใช้ความเร็วของ วินิซิอุส ในการโจมตีคู่แข่ง โดยให้หัวหอกรุ่นพี่คอยเปิดช่องว่าง เปิดพื้นที่ในการใช้สปีดของเขาโจมตีคู่แข่ง ซึ่งผลลัพธ์คือการซัดกันกระจายของทั้งสองคน

สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ของ อันเช่ ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาทุกลีกใหญ่ของยุโรป ร่วมงานกับเด็กดาวรุ่งมานับร้อย สิ่งที่เขาเปลี่ยน วินิซิอุส จึงไม่ใช่งานที่ยาก และที่สำคัญคือตัวของนักเตะเลือกที่จะเปิดรับ เชื่อฟัง เชื่อใจ และให้ความเคารพ

เชื่อว่า อันเช่ มองเห็นอะไรหลายๆ อย่างในตัวของ วินิซิอุส ครั้งหนึ่งเคยถึงขั้นออกมาให้สัมภาษณ์กล่าวว่านี่คือนักเตะที่ดีที่สุดในโลกไปแล้ว 

อีกอย่างคือ อันเช่ เป็นคนที่ออกตัวแทน วินิซิอุส อยู่ตลอดทั้งเรื่องในสนามที่โดนเตะ โดนโห่ หรือนอกสนามที่โดนเหยียดหยามต่างๆ มากมาย ครั้งหนึ่งนายใหญ่คนนี้ได้กล่าวลูกทีมไว้ว่า

“ผมลองมองย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ และผมไม่เคยเห็นนักเตะที่โดนจ้องเล่นงานหนักเท่า วินิซิอุส มาก่อน เขาโดนเตะ, โดนโห่, โดนดูถูก และเขาทำอะไรล่ะ? เขาทำประตู ทำแอสซิสต์” 

“ผมควรจะไปพูดคุยกับเขาเรื่องทัศนคติของเขาน่ะเหรอ? ไม่ล่ะ! คนอื่นต่างหากที่ควรเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อ วินิซิอุส”

ณ ตอนนี้ วินิซิอุส เปรียบเหมือนหนึ่งในนักเตะที่ อันเช่ ชื่นชอบเบอร์ต้นๆ แต่มันไม่ใช่เรื่องของความเสน่ห์หาในการมอบตำแหน่งตัวจริงแบบถาวรให้ แต่มันตอบด้วยผลงานของ วินิซิอุส ที่พัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ จากนักเตะที่ลงเล่นเพื่อตัวเอง สู่การเล่นเพื่อทีม เพื่อตราสโมสร

เมื่อ วินิซิอุส มั่นใจในตัวเอง ไม่มีเหตุผลอะไรที่ อันเช่ จะขัดขวาง ที่เหลือคือการส่งเสริมเพียงเท่านั้น

อันเช่ คือคนที่เข้ามาเปลี่ยนแปลง วินิซิอุส ไปจากเดิม เขาเป็นมากกว่าเจ้านาย แต่เหมือนคุณครูที่สอนวิธีการต่างๆ เพื่อการเติบโตที่มากกว่าเดิม

อันเช่ คือหนึ่งในคนบุคคลเบื้องหลังที่พา วินิซิอุส ยกระดับกลายเป็นแนวรุกเบอร์ต้นๆ ของวงการ เป็นดาวยิงคนสำคัญของ เรอัล มาดริด