logo-heading
รอบปี 2562 ถือเป็นอีกหนึ่ง “ปีทอง” ของนักตบลูกขนไก่ประเภทคู่ในแคมป์ “เอสซีจี แบดมินตัน อคาเดมี่” 3 นักแบดมินตันที่เป็นเป้าหมายในการเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายโอลิมปิกเกมส์ 2020 ในปีหน้าอันประกอบด้วย "ปอป้อ" ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย, "บาส"เดชาพล พัววรานุเคราะห์, "เอิร์ธ" พุธิตา สุภจิรกุล ต่างทำผลงานคว้าแชมป์ได้ทั้ง 3 คน โดยในประเภทคู่ผสม เดชาพล-ทรัพย์สิรี เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ 6 รายการ และคว้าแชมป์ได้ถึง 3 รายการ คือ สิงคโปร์ โอเพ่น 2019, วิคเตอร์ โคเรีย โอเพ่น 2019, มาเก๊า โอเพ่น 2019 โดยเฉพาะในรอบชิงชนะเลิศ รายการวิคเตอร์ โคเรีย โอเพ่น 2019 สามารถเอาชนะ เจิ้ง ซี เหว่ย - หวง ย่า เฉียง คู่มือ 1 ของโลกจากจีนได้ และก่อนหน้านั้นในรายการสิงคโปร์ โอเพ่น สามารถปราบคู่มือ 1 ของโลกในรอบรองชนะเลิศ และก้าวไปคว้าแชมป์ได้เช่นกัน ส่วนรองแชมป์อีก 3 รายการ คือ ปริ๊นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2019, เปโรดัว มาเลเซีย มาสเตอร์ส 2019 และรองแชมป์แบดมินตันชิงแชมป์โลก 2019 สำหรับรายการชิงแชมป์โลกนั้น คู่ผสมของไทยสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแบดมินตันประเภทคู่ของไทยคู่แรกที่ผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศในรายการชิงแชมป์โลกได้ นอกจากนั้นยังมีผลงานผ่านเข้าถึงรอบรองชนะเลิศอีก 4 รายการ คือ เซลคอม เอเชียต้า มาเลเซีย โอเพ่น 2019, แบดมินตันชิงแชมป์เอเชีย 2019, โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2019, วิคเตอร์ ไชน่า โอเพ่น 2019 อันดับโลกสิ้นสุดปี 2019 ของเดชาพล-ทรัพย์สิรี รั้งอันดับ 4 และก่อนหน้านี้เคยขยับไปอยู่ในอันดับ 3 ของโลกมาแล้ว ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ขณะที่ผลงานของหญิงคู่ ทรัพย์สิรี-พุธิตาคว้าแชมป์ 1 รายการ คือ ปริ๊นเซส สิริวัณณวรี ไทยแลนด์ มาสเตอร์ส 2019 รั้งอันดับ 18 ของโลก นอกจากนี้พุธิตาร่วมทีมชาติไทยคว้าเหรียญทองประเภททีมหญิง กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ อีกด้วย นายณปภัช ประไพตระกูล ผู้จัดการโครงการ “เอสซีจี แบดมินตัน อคาเดมี่” เปิดเผยว่า ผลงานของนักแบดมินตันในโครงการ “เอสซีจี อคาเดมี” ที่เป็นเป้าหมายในการเข้ารอบสุดท้ายโอลิมปิกเกมส์ 2020 อยู่ในระดับที่น่าพอใจ เพราะนักกีฬามีพัฒนาการและปรับแก้ไขข้อบกพร่องตัวเองตลอดเวลาตามแผนของทีมงาน โดยในส่วนของคู่ผสม “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย สามารถต่อกรกับมือระดับต้นๆ ของโลกได้ ส่วนหญิงคู่ ทรัพย์สิรี กับ “เอิร์ธ” พุธิตา สุภจิรกุล ก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน “ปีหน้าจะเป็นปีสำคัญที่เรามีเป้าหมายสูงสุดเพื่อการคว้าเหรียญโอลิมปิกเกมส์ มีการเตรียมความพร้อมฝึกซ้อมเข้มข้นยิ่งขึ้นรวมทั้งแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ เพื่อให้มีความสมบูรณ์มากที่สุด ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่ เราจะให้นักกีฬาหยุดพักเพียง 2-3 วันเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับรายการแข่งขันเก็บคะแนนแรกของต้นปีหน้า” “นักกีฬาจะชนะหรือแพ้ ขึ้นอยู่กับ ในวันนั้นนักกีฬามีความพร้อมมากกว่า และผิดพลาดน้อยกว่าคู่แข่งไหม ที่ผ่านมา ทีมงานเราได้มีการวางแผนและแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ เพื่อให้นักกีฬามีความพร้อมมากที่สุดก่อนทำศึกสำคัญ” นายณปภัช กล่าว วันแห่งการรอคอยของนักกีฬาทั่วโลกขยับใกล้เข้ามาเรื่อยๆ วันเวลาของทีมงานแคมป์ “เอสซีจี แบดมินตัน อคาเดมี่” ลดน้อยลงเรื่อยๆ กับภารกิจที่ยิ่งใหญ่ ดังนั้น ทุกวัน ทุกวินาที นับจากนี้คือ เวลาอันมีค่า ....ในการพยายามสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้เกิดขึ้น กับวงการแบดมินตันไทย.
logoline