“พลังกาญจน์ เอฟซี” กับการประเมินไทยลีก ที่ต่ำเกินไป!!

ก่อนเปิดฤดูกาลทีมม้าเหล็ก สร้างความฮือฮาด้วยการเสริมทัพผู้เล่นต่างชาติฝีเท้าระดับพระกาฬมาหลายตัว ที่ดังที่สุดก็คือ “แอนดรอส ทาวน์เซนด์” อย่างที่เรารู้กัน

บวกกับการประกาศตั้งเป้ากับ 3 เกมแรกบนลีกสูงสุดต้องเป้นจ่าฝูง และเป้าหมายสูงสุดหลังจบฤดูกาลคือท็อปทรี 1 ใน 3 

เข้าใจเข้าว่าเป็นการตั้งเป้าให้สูงเพื่อให้เห็นถึงความทะเยอทะยาน และความมุ่งมั่นที่จะไปถึงให้ได้ ซึ่งทุกๆ ทีมก้ตั้งเป้ากันแบบนี้

แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่า พอประกาศว่าจะเป็นจ่าฝูงให้ได้ 3 นัดแรก แล้วมันไม่ได้ แถมไม่ชนะใครด้วย 

ผ่านมา 5 เกมมีอยู่ 3 คะแนน ยังห่างไกลกับท็อปทรีหลายขุม มันก็ทำให้แฟนบอลกลับไปนึกย้อนคำพูดในตอนก่อนเปิดฤดูกาลไม่ได้

ถ้าจะมองว่าเป็นสีสันของไทยลีก ก็มองได้ แต่ถ้าคิดแบบเอาจริงเอาจัง ก็เป็นไปได้ว่าทีมพลังกาญจน์ เอฟซี อาจจะประเมินการแข่งขันบนลีกสูงสุดของเมืองไทยต่ำเกินไป และอาจจะประเมินศักยภาพของตัวเองสูงเกินไปด้วย

สำหรับทีมที่เคยเล่นอยู่ในไทยลีกอยู่แล้ว หรือผู้บริหาร โค้ช หรือใครก็ดีที่เคยทำทีมในไทยลีก ทุกคนรู้ดีว่า ลีกนี้มันไม่ง่ายอย่างที่คิด

ครั้งนึงตอนที่ “มาดามแป้ง” โดดตัวเองลงมาในไทยลีก ด้วยการเป็นประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี ก็ได้รับการต้อนรับจากลุงเนวินว่า “ขอต้อนรับสู่นรกไทยลีกมาแล้ว” ซึ่งขนาดมาดามแป้ง ก็เคยไปไม่รอดมาแล้วกับการท่าเรือ จนต้องตกชั้นไป ก่อนจะกลับมาได้

ทีมอย่างบีจี ปทุมฯ เอง ที่เป็นยักษ์ใหญ่ในไทยลีกมานาน วันนึงก็เคยต้องตกชั้นไป เช่นเดียวกับ ชลบุรี เอฟซี ทีมระดับตำนานก็เพิ่งจะกลับเลื่อนชั้นขึ้นมาในปีนี้

แต่ในขณะเดียวกัน มันก็มีทีมน้องใหม่ในทุกๆ ฤดูกาล ที่มักจะสร้างเซอร์ไพรส์ ทะลุปล้องขึ้นมาได้ ด้วยการจบหัวตารางหรือท็อปไฟว์ ท็อปโฟร์ มันก็เคยมีมาแล้ว

ซึ่งพลังกาญจน์ ก็อาจจะคิดว่าจะเป็นทีมน้องใหม่ทีมนั้นก็เป็นได้ บวกกับการเสริมทัพที่ได้ตัวต่างชาติดีๆ มาหลายคน ซึ่งก็ยอมรับว่าดีจริง แถมโค้ชอย่างโค้ชโอ่ง ก็เคยคว้าแชมป์ไทยลีก กับ บีจี มาแล้ว

แต่ก็นั่นแหละ ฟุตบอลมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น มันมีปัจจัยหลายอย่าง บางทีมันก็หาคำตอบไม่ได้ ทีมที่มีนักเตะดีๆ โค้ชดีๆ บางทีก็เล่นไม่ได้เรื่อง ผลงานไม่ดีอย่างที่คิด

บางทีมนักเตะไม่ได้ดังอะไรมาก โค้ชก็โลว์โปร์ไฟล์ แต่เล่นไปเล่นมากลับดี ซึ่งบางทีมันก็เป็นเรื่องของโชคและจังหวะเหมือนกัน

เอาจริงผมก็ติดตามผลงานของพลังกาญจน์ มาตั้งแต่เกมแรก จนถึงนัดล่าสุด จริงๆ ก็เล่นได้ดีทุกนัด สู้กับคู่แข่งได้ดี แต่บางทีดชคก็ไม่ค่อยเข้าข้างเท่าไหร่ และผลการแข่งขันก็ไม่มา เล่นดีอย่างเดียวไม่พอ ผลการแข่งขันต้องมาด้วย

ผมว่าตอนนี้พลังกาญจน์ มาถูกทางแล้ว อาจจะต้องรอจังหวะให้มันเข้าทาง หรือหาจุดเปลี่ยนปลดล็อคหาชัยเกมแรกให้ได้ ซึ่งความมั่นใจน่าจะกลับมา

และก็อย่าเพิ่งไปวางเป้าหมายสูงในตอนนี้ อาจจะต้องมองไปนัดต่อนัด ลืมเรื่องการจะเป็นจ่าฝูง หรือจบท็อปทรีอะไรไปก่อน แล้วกลับมาวางเป้าหมายกันใหม่

ซึ่งผมว่า “โค้ชโอ่ง” ก็รู้ศักยภาพของทีมตัวเองดีว่าอยู่ตรงจุดไหน และยังต้องใช้เวลาจูนทีมให้มันเข้าที่กว่านี้อีกนิด

ตอนนี้เพิ่งจะผ่านไป 5 เกม ยังเหลือโปรแกรมอีกตั้ง 25 นัด แต่ก็น่าผิดหวังตรงที่ยังหาชัยเกมแรกไม่เจอ แต่ก็อย่างที่บอก อย่าเพิ่งใจร้อน ค่อยๆ กลับมาทบทวนตัวเองอีกครั้ง

ค่อยๆ ไปทีละนัด เลิกคิดเรื่องจ่าฝูง ท้อปทรีไปก่อน ผมเชื่อว่าทีมม้าเหล็กจะกลับมาได้ แต่อย่าใช้เวลาคิดนานเกินไป ผลการแข่งขันมันก็ต้องมาด้วย

อย่างไรก็ดีพลังกาญจน์ ก็ถือเป็นทีมนึงที่ทำให้ไทยลีก ฤดูกาลนี้ มีสีสัน และได้อรรถรสมากขึ้น ขอเอาใจช่วย และพาทีมกลับมาให้ได้ ไม่อยากเห็นทีมม้าเหล็กขึ้นมาปีเดียวแล้วก็ต้องตกชั้นกลับไป

ไทยลีก มันไม่ง่ายก็จริง แต่มันก็ไม่ได้ยากขนาดนั้น เพียงแต่เราต้องรู้ตัวเองว่าอยู่ตรงจุดไหน แล้วมันจะไม่กดดัน เมื่อไม่กดดัน ผลงานมันก็จะตามมา

#ชิชาริเต่า