โกยเงินหยวน! ยลโฉมอดีต 7 แข้ง พรีเมียร์ลีก ที่ค้าแข้งศึก ไชนีส ซูเปอร์ลีก ในปัจจุบัน

ไชนีส ซูเปอร์ลีก ถือว่าเป็นแหล่งขุมทรัพย์ใหม่ของเหล่านักฟุตบอลที่ต้องการจะโกยเงินเข้ากระเป๋าให้มกที่สุดในช่วงบั้นปลายชีวิตการค้าแข้ง

ซึ่งก็มีจำนวนไม่น้อยที่เหล่านักเตะชื่อดังที่ผ่านเวทีศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้โยกย้ายมาค้าแข้งที่ดินแดนมังกร ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราจะพาไปดูกันว่าในตอนนี้มีอดีตแข้งพรีเมียร์ลีกคนไหนบ้าง ที่ย้ายมาโกยเงินหยวนในตอนนี้ เปาลินโญ่ (กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์) มิดฟิลด์ทีมชาติบราซิลเป็นผู้เล่นดาวดังกลุ่มแรกๆ เลยที่ย้ายมาค้าแข้งยังประเทศจีน ภายหลังไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควรในการย้ายไปร่วมทัพ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ในช่วงระหว่างปี 2013-15 ซึ่งผลงานในชุด "ตราไก่" ของเขาได้โอกาสลงสนามไปทั้งสิ้น 67 นัด ซัดไป 10 ประตู พร้อมทำอีก 7 แอสซิสต์ ก่อนที่จะบินมาโกยเงินหยวนในที่สุด แต่ทว่าหลังย้ายค้าแข้งในทวีปเอเชียได้ 2 ปี เปาลินโญ่ ก็ได้โอกาสย้ายกลับไปเล่นที่ยุโรปอีกครั้งกับ บาร์เซโลน่า ในช่วงฤดูกาล 2017-18 ซึ่งเป็นการซื้อขาดด้วยค่าตัวที่สูงถึง 40 ล้านยูโร แต่ก็เล่นในถิ่น คัมป์ นู ได้เพียงซีซั่นเดียวก็ถูกทาง กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ดึงตัวกลับไปร่วมทีมแบบสัญญายืมตัว ก่อนที่จะใช้เงื่อนไชซื้อขาดกลับไปร่วมทัพในราคา 42 ล้านยูโร ซึ่งนับจนถึงตรงยี้ผลงานของ เปาลินโญ่ กับกว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ อยู่ที่การยิงประตูไปแล้ว 63 ตุง กับทำอีก 25 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 156 นัด รวมไปถึงเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมกวาดแชมป์ลีก 4 สมัย, บอลถ้วยในประเทศ 1 สมัย และแชมป์เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 1 สมัย เมื่อฤดูกาล 2014-15 กราเซียโน่ เปลเล่ (ซานตง ลู่เนิ่ง) อดีตดาวยิงฟอร์มแรงของศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับ เซาแฮมป์ตัน ถือว่าสร้างเซอไพร์สพอสมควรกับการโยกมาค้าแข้งยังประเทศจีน เพราะด้วยผลงานของเจ้าตัวในสีเสื้อของ "นักบุญ" ถือว่ายังสร้างประโยชน์ให้กับทีมได้อย่างมากโข อย่างเช่นในฤดูกาลสุดท้ายกับทีมที่กระหน่ำยิงประตูไปได้ถึง 14 ประตู จาก 38 นัดในทุกรายการ ก่อนที่จะจบซีซั่น 2016-17 เจ้าตัวจะบินข้ามน้ำข้ามทะเลมาเปิดตัวกับทาง ซานตง ลู่เนิ่ง ด้วยค่าตัวการย้ายทีม 15.5 ล้านยูโร และลงเล่นอย่างต่อเนื่องในทันทีไม่ได้หยุดพัก ก่อนที่จะนับมาถึงตรงนี้ก็เป็นระยะเวลา 4 ปีเต็มแล้วที่ เปลเล่ ใช้ชีวิตอยู่ในดินแดนมังกร  และถึงแม้อายุจะเข้าสู่วัย 34 ปี แล้ว แต่ด้วยประสบการณ์ และผลงานที่ยอดเยี่ยม ทำให้เจ้าตัวยังคงเป็นแข้งแดนหลักในแดนหน้าของทีมที่ยังฝากความหวังในการยิงประตูได้เสมอ โดยสถิติโดยรวมกับทีมตอนนี้อยู่ที่การลงสนาม 111 นัด ซัด 55 ประตู กับทำอีก 22 แอสซิสต์ ออสการ์ (เซียงไฮ้ เอสไอพีจี) หนึ่งในแข้งที่สร้างความเซอไพร์สต่อวงการฟุตบอลเมืองจีนได้เป็นอย่างมาก เพราะแฟนบอลต่างไม่คาดคิดมาก่อนว่าแข้งระดับ ออสการ์ ที่พึ่งมีอายุเพียง 26 ปี ในขณะนั้นจะบินมาโกยเงินหยวนรวดเร็วขนาดนี้ ทั้งที่ยังค้าแข้งในลีกใหญ่ของยุโปรได้แบบสบายๆ และพึ่งค้าแข้งกับ เชลซี ได้เพียง 4 ปี เท่านั้น โดยตลอดระยะเวลากับทัพ "สิงห์บลู" เจ้าตัวกวาดแชมป์มากมายทั้งพรีเมียร์ลีก 2 สมัย, ลีก คัพ 1 สมัย และยูโรปาลีก 1 สมัย  ก่อนที่ในปี 2017 เจ้าตัวจะย้ายมาค้าแข้งกับทีมเงินถังแห่งไชนีส ซูเปอร์ลีก อย่าง เซียงไฮ้ เอสไอพีจี ด้วยค่าตัวสุดแพง 60 ล้านยูโร พร้อมรับค่าเหนื่อยก้อนโตถึงปีละ 20 ล้านยูโร ส่วนสาเหตุที่แท้จริงในการย้ายมาเล่นที่จีนของ ออสก้าร์ นั้น มีการเปิดเผยจากผู้จัดการทั่วไปของ เซียงไฮ้ เอสไอพีจี ว่าตัวนักเตะไม่มีความสุขกับทีม เพราะต้องเป็นเพียงตัวสำรอง และไม่อยู่ในระบบแบบแผน 3-4-3 ของ คอนโตนิโอ คอนเต้ มุสซ่า เดมเบเล่ (กวางโจว อาร์ แอนด์ เอฟ) มิดฟิลด์ชาวเบลเยี่ยมที่แจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับ ฟูแล่ม เมื่อปี 2010 ก่อนที่จะได้ย้ายไปร่วมทัพ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ในปี 2012 ซึ่งถือว่าเจ้าตัวก็ประสบความสำเร็จในแง่ของผลงานส่วนตัว และค้าแข้งกับ "ไก่เดือยทอง" อยู่ยาวถึง 7 ปีเต็ม ลงสนามไปทั้งสิ้น 249 นัด ยิง 10 ประตู และแอสซิสต์ 12 ครั้ง ก่อนที่ดาวเตะดีกรีอันดับ 3 ฟุตบอลโลก 2018 จะย้ายมาค้าแข้งกับ กวางโจว อาร์ แอนด์ เอฟ ในช่วงตลาดนักเตะเดือนมกราคม 2019 ซึ่งค่าตัวของ เดมเบเล่ ในการย้ายมาเล่นที่จีนมีการคาดการณ์กันว่าอยู่ที่ประมาณ 11 ล้านปอนด์ และเซ็นสัญญากันทั้งสิ้น 3 ปี  รวมแล้วถึงตรงนี้ เดเบเล่ ลงสนามให้กับ อาร์ แอนด์ เอฟ ไปแล้วทั้งสิ้น 26 นัด ยิง 1 ประตู พร้อมทำไปแล้ว 4 แอสซิสต์ และเป็นมิดฟิลด์ตัวเลือกหมายเลข 1 ของทีม ณ ตอนนี้ ซาโลมอน รอนดอน (ต้าเหลียน ยี่ฟาง) ตัวเลข 11 ประตู ในฤดูกาล 2018-19 พร้อมกับพา นิวคาสเซิ่ล รอดตกชั้นได้อย่างยอดเยี่ยมนั้น หลายคนคงคิดว่าชื่อของ รอนดอน ในวัย 30 ปี น่าจะยังพอโลดแล่นกับทีมระดับกลางๆ ในพรีเมียร์ลีก ได้อย่างสบายๆ แต่ทว่าดาวยิงชาวเวเนซูเอล่า กลับเลือกที่จะย้ายออกมาโกยเงินหยวนกับ ต้าเหลียน ยี่ฟาง ดีกว่า และที่สำคัญคือการได้หวนมาร่วมงานกับอดีตเจ้านายอย่าง ราฟาเอล เบนิเตซ อีกครั้ง โดยตอนนี้ รอนดอน ลงสนามให้ ยี่ฟาง ไปแล้ว 12 นัด ซัดไป 5 ประตู ถือว่าเป็นสถิติที่ยอดเยี่ยม และเจ้าตัวเองก็คงสบายใจไม่น้อยที่ได้ร่วมงานกับ เบนิเตซ เจ้านายที่รู้ใจ ใช้งานเขาเป็น และไม่ได้แบกความหวังไว้เต็มอกเหมือนครั้งที่ต้องคอยยิงประตูเพื่อช่วยให้ทีมรอดจากการตกชั้น มารูยาน เฟลไลนี่ (ซานตง ลู่เนิ่ง) อีกหนึ่งแข้งจากเบลเยี่ยมที่ย้ายมารับทรัพย์เงินหยวน โดยในรายของ เฟลไลนี่ ย้ายออกมาจากสโมสรใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยตรง ภายหลังเจ้าตัวเป็นเพียงแข้งส่วนตัวเกินของทีม หลังจากที่มีการปรับเปลี่ยนตัวกุนซือจาก โชเซ่ มูรินโญ่ มาเป็น โอเล่ กุนนาร์ โซลชา  ซึ่งการมาของ เฟลไลนี่ ก็เหมือนเป็นการเติบเต็มของ ซานตง ลู่เนิ่ง ได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยประสบการณ์ และความเก๋าจากการค้าแข่งในยุโรปมาช่วยแดนกลางของทีมได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการที่ทีมต้องลงเล่นในบอลถ้วยรายใหญ่อย่างเอฟเอซี แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ เฟลไลนี่ เป็นแข้งตัวหลักพาทีมทะลุเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ก่อนตกรอบอย่างน่าเสียดายด้วยการพ่ายจุดโทษ กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ รวมแล้ว เฟลไลนี่ ลงสนามให้ ซานตง ลู่เนิ่ง ไปแล้วทั้งสิ้น 34 นัด ซัด 12 ประตู และแอสซิสต์ 5 ครั้ง พร้อมกับสถาปนาตัวเองเป็นมิดฟิลด์ตัวหลักของทีม คอยประสานงานกับดาวรุกไม่ว่าจะเป็น โรเจอร์ กูเดส และกราเวียโน่ เปลเล่ ได้อย่างยอดเยี่ยม มาร์โก้ อาร์เนาโตวิช (เซียงไฮ้ เอสไอพีจี) อีกหนึ่งดาวเตะที่ค้าแข้งในศึกพรีเมียร์ลีก มาอย่างยาวนานกว่า 6 ปี กับ 2 สโมสรอย่าง สโต๊ค ซิตี้ และเวสตืแฮม ยูไนเต็ด ก่อนที่ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2019 เจ้าตัวจะขอบินไปไล่ล่าตาข่ายที่แดนมังกรกับ เซียงไฮ้ เอสไอพีจี บ้าง ซึ่งค่าตัวการย้ายทีมครั้งนี้อยู่ที่ 23 ล้านปอนด์ ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง เซี้ยงไฮ้ เคยยื่นข้อเสนอ 19 ล้านปอนด์ ให้ เวสต์แฮม พิจารณาแล้ว แต่โดนปฎิเสธ และมาประสบความสำเร็จกับจำนวนตัวเลขดังกล่าว ซึ่งการย้ายมายัง เซียงไฮ้ เอสไอพีจี ของ อาร์เนาโตวิช ในครั้งนี้เจ้าตัวจะได้ร่วมงานกับเหล่านักเตะชื่อดังอย่าง ออสการ์ และฮัลค์ 2 แข้งชาวบราซิล โดยนับมาถึงตรงนี้สถิติของเจ้าตัวกับทีมยักษ์ใหญ่แห่งลีกจีนอยู่ที่การซัดไปแล้ว 10 ประตู จาก 16 นัด ซึ่ง 1 ในนั้นมาจากการทำประตู บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบเพลย์ออฟ เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้ด้วย