บีอีซี เทโรศาสน ชื่อนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก ต่อให้คุณเป็นคอบอลนอกก็ตามที สโมสรยักษ์ใหญ่เมืองไทย ทีมแรกที่ได้แชมป์ไทยลีก 2 สมัยติด คลับลูกหนังที่อุดมไปด้วยสตาร์ดังดีกรีทีมชาติมากมายทั้งชุดใหญ่ชุดเล็ก ที่บริหารทีมโดยไบรอัน แอล มาร์คาร์
แม้ว่าปัจจุบันทีมจะเหลือแค่ตำนานเพราะ เปลี่ยนแปลงไปเป็นโปลิศ เทโร ที่ได้สำนักงานตำรวจแห่งชาติมาร่วมบริหารจัดการทีม
แต่ปฏิเสธไม่ได้หลอกว่าเรื่องราวตำนานมากมายของสโมสรแห่งนี้ยังมีอีกหลายจุดที่คนภายนอกยังไม่รู้ นักบอลกว่าพันชีวิตที่เข้าสู่สโมสรสวมยูนิฟอร์มมังกรไฟ มีหลายคนที่ยังไม่ทราบว่าบางคนเคยอยู่ทีมนี้มาก่อน
ขอบสนามจึงนำข้อมูลแข้งบีอีซี เทโรศาสน ที่คนไม่รู้มาแข้งดังเหล่านี้เคยมาสวมเสื้อทีมแห่งนี้
1.ธวัชชัย ดํารงอ่องตระกูล
“วัง ลันตา” ดาวดังคู่หูคาเฟ่กับดุสิต เฉลิมแสน คนส่วนใหญ่อาจจะรู้จักเขาในฐานะแข้งที่ซัดประตูชัยพาไทยคว่ำเกาหลีใต้ในการแข่งขันบอลชายเอเชียน คัพ เกมส์ 1998 แม้ชีวิตในสนาม ธวัชชัย จะอยู่กับโอสถสภา ทีมที่ให้โอกาสเขามาตั้งแต่ยังเรียนไม่จบมัธยมที่กรุงเทพคริสเตียน แต่รู้หรือไม่ว่ากุนซือประจวบ เคยมาเล่นให้เทโร ในฤดูกาล 1997 ปี พ.ศ.2540 ในยุคของกุนซือ”น้าก็อก” พงษ์พันธุ์ วงษ์สุวรรณ น่าเสียดายที่เขาอยู่กับทีมได้แค่ 1 ปี ก่อนจะตัดสินใจไปหาความท้าท้ายใหม่ที่สิงคโปร์
2.คัมภีร์ ปิ่นฑะกุล
นักบอลภูธรจากสุพรรณบุรี ที่สร้างชื่อจากการแข่งขันโปรลีกกับทีมเมืองขุนแผน คลาสลูกหนังที่สูงเกินเพื่อน แถมเล่นในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ จึงโดนทาบทามให้ไปเล่นกับธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงเทพ ก่อนจะก้าวไปติดทีมชาติไทยในการแข่งขันคิงส์ คัพ 2002 พ.ศ.2545 ที่มีปีเตอร์ วิธ เป็นกุนซือ หลังเมินข้อเสนอจากเทโรอยู่นาน เพราะกลัวจะไปนั่งเป็นตัวสำรอง สุดท้ายปี 2006 พี่เสือ คัมภีร์ ปิ่นฑะกุล ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีม เป็นจอมทัพตัวหลัก เขาเป็นนักบอลที่ใช้มันสมอง เป็นจอมทัพที่เท้ายิง จ่ายบอลให้เพื่อนร่วมทีมได้ดี แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงในปี 2007 ทำให้เขาตัดสินใจอำลาสโมสร
3.สมคิด ชื่นตา
แม้ว่าผู้คนมากมายจะรู้จักเขาในฐานะมือกาวฟุตซอลทีมชาติไทย แต่รู้หรือไม่ว่า เขาหอบหิ้วสตั๊ดมาสู่ชายคาสโมสรฟุตบอลบีอีซี เทโรศาสน พร้อมๆกับจตุพงษ์ ทองสุข เพื่อนร่วมรุ่นที่อัสสัมชัญ ศรีราชา ที่ในเวลาต่อมาเขาก้าวมาเป็นตำนานสโมสรมังกรไฟ สมคิด ชื่นตา อาจไม่ได้เป็นตัวหลัก เพราะตกเป็นตัวสำรอง พรรษา มีสัจธรรม แต่เขาก็มีชื่อได้แชมป์ไทยลีกปี 2000 กับสโมสร ในช่วงเวลาที่เขาเล่นทั้งบอลสนามใหญ่และสนามเล็ก
4.ธนากร ขําโขมะ
แบ็กซ้ายจากจังหวัดอุทัยธานี ผู้ที่บ้านมีฐานะก่อนไปหอบหิ้วฝันไปในเมืองหลวงจนได้เป็นนักบอลโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน และได้ติดทีมชาติไทย 19 ปี
“โจ๊ก” ถูกองอาจ ก่อสินค้า ผู้จัดการทีมเทโรจับเซ็นสัญญาตั้งแต่ยังไม่จบมัธยมปลาย ก่อนจะไปเล่นด้วยสัญญายืมตัวกับชงโคสีม่วงในระดับบอลถ้วยพระราชทาน และดิวิชั่น 1 เพราะเขารู้ดีว่าคงไปเบียดสู้ตัวจริงจากดุสิต เฉลิมแสนไม่ได้แน่ๆ
หลังการอำลาสโมสรของ”เดอะโอ่ง” “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ ตัดสินใจใช้ ธนากร ขําโขมะ เป็นตัวหลักทางแบ็กซ้ายได้ลงเล่นเกมเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ในช่วงรอยต่อปี 2004-05
5.มานิตย์ น้อยเวช
“ริวัลโด้” กองหน้าจากเมืองขุนแผน ที่โด่งดังมาจากฟุตบอลนักเรียนกรมพละ 18 ปีก. และบอลไมโล พาวเวอร์ คัพ ที่พาโรงเรียนบรรหารแจ่มใส 2 ก่อนจะมีชื่อติดทีมนักเรียนไทย และทีมชาติ 19 ปี จนถูกทาบทามให้ไปร่วมทีมบีอีซี เทโรศาสน ลงแข่งไทยลีกครั้งที่ 4 ปี 1999
“เดอะกั๊ก” ลงเล่นร่วมกับเจสัน วิธ, วรวุธ ศรีมะฆะ, พิภพ อ่อนโม้ แม้จะเป็นปีที่ดีของสโมสร แต่กระดูกที่เป็นรองเพราะมาจากบอลนักเรียน เบียดสู้ตำแหน่งตัวจริงไม่ได้ จึงตัดสินใจไปเล่นกับสุพรรณบุรี ในโปรลีก
6.บํารุง บุญพรหม
“บุ๊ค ตีนระเบิด” แข้งที่แจ้งเกิดจากฟุตบอลเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย 17 ปี 1996 ที่เชียงใหม่ จนได้ไปเล่นเยาวชนโลกปี 1997 เขาคือนักบอลดังที่หลายอยากได้ก่อนจะไปเล่นให้ธนาคารกสิกรไทย กับชาญวิทย์ ผลชีวิน แต่เขาเบียดสู้ตำแหน่งตัวจริงไม่ได้ ทำให้โค้ชป้ำ วรวรรณ ชิตะวณิช กุนซือเทโร ในปี 1998 ตัดสินใจเอาตัวไปร่วมทีมพร้อมยูนิฟอร์มหมายเลข 9 สุดท้ายแข้งรายนี้แจ้งเกิดไม่ได้ แถมชีวิตวุ่นวายกับการเล่นหนังสือที่นิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ ก่อนที่เมื่อหมดสัญญานักเตะจะตัดสินใจบินไปเล่นบอลอาชีพที่สิงคโปร์
7.
ประสงค์ พันธ์สวัสดิ์
เสือเตี้ยนักบอลฝีเท้าดีจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ เขาโด่งดังกับสโมสรตำรวจและติดยศรับราชการไปแล้ว ทว่าในอดีตสมัยบอลถ้วยพระราชทาน ประสงค์ พันธ์สวัสดิ์ เคยมาเล่นให้ศาสนวิทยา มาก่อน กระทั่งการเปลี่ยนแปลงทีมในปี 2540 เขาจึงตัดสินใจย้ายมาร่วมทีมเทโร ในช่วงบั้นปลายชีวิตการค้าแข้งเพื่อรับเงินก้อนหนสุดท้าย เขาคือตัวหลักในแดนกลางร่วมกับสะสม พบประเสริฐ ช่วยทีม 2 ฤดูกาล ในยุคของโค้ชก็อก และโค้ชป้ำ
8.ยุทธนา พลศักดิ์
มิดฟิลด์จากหนองคายที่เตะบอลรุ่นราวคราวเดียวมากับพงษ์สิทธิ์ คําภีร์ ก่อนจะหอบหิ้วความฝันมายังเมืองกรุง เพื่อคัดตัวติดทีมชาติไทย ก่อนจะได้มาเล่นบอลถ้วยพระราชทานก .กับสโมสรราชประชา
ยุทธนา พลศักดิ์ เป็นนักเตะที่ครบเครื่องในวงการบอลไทย เล่นได้แทบทุกตำแหน่งยกเว้นประตู ศูนย์หน้า, เพลย์เมกเกอร์, ปีก, มิดฟิลด์ตัวรับ, สต๊อปเปอร์, เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ แม้ว่าจะถนัดในตำแหน่งเบอร์ 6 คุมเกมกลางสนาม เขาคือตัวหลักทีมชาติในยุคที่ดุสิต เฉลิมแสนโดนหมางเมินในทีมชาติ ถ้าไม่เจ็บไม่ป่วยเขาได้เล่น แถมนิสัยส่วนตัวไม่ชอบแทงข้างหลังผู้อื่น ไม่ประจบใคร เขาจึงได้รับการยอมรับจากทั่วสารทิศ และถูกโค้ชป้ำ ชักชวนมาอยู่กับเทโร ในปี 1998 แต่ด้วยภาวะการแข่งขันพื้นที่กลางสนามที่สูง ทำให้เมื่อจบฤดูกาลเจ้าตัวตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมการท่าเรือ และติดยศทำงานกับองค์กรดังย่านคลองเตย
9.เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง
นักบอลไทยคนแรกที่มีค่าตัวเตะหลักแสน หลังย้ายจากธนาคารกรุงไทยไปร่วมทีมราชประชา ก่อนการแข่งขันไทยลีกครั้งแรก กองหน้าหน้าหล่อ คำพูดคำจาดีจากขอนแก่น เขาไม่เคยมีโปรไฟล์เป็นนักเตะบีอีซี เทโรศาสน อย่างเป็นทางการเลย เพราะตลอดชีวิตการเล่นบอลในเมืองไทย เขาเล่นแค่ 3 ทีมราชประชา กรุงไทย และตำรวจ
แต่ทว่าในเกมนัดพิเศษของเทโร ที่พบบาร์เซโลน่า ในปี 2002 เขาโดนทาบทามให้มาเล่นนัดพิเศษกับเทโร พร้อมเสื้อเบอร์ 13 และนั้นคือเกมนัดเดียวของซิโก้กับมังกรไฟ
เอ็มเร่
[email protected]
ขอบคุณภาพประกอบ แฟนเพจ
ฟุตบอลไทยในอดีต By Tommy Bar, มนต์ชัย พรหมพิราม, นิตยสารฟุตบอลสยาม, หนังสือพิมพ์สยามกีฬา
