รวมเด็กปั้น "วังลันตา"เมื่อครั้งร่วมทัพโปลิศ

ชื่อของธวัชชัย ดํารงอ่องตระกูล คงไม่มีใครไม่รู้จัก กองกลางตัวรุกมากพรสวรรค์เท้าหนัก วางบอลแม่นยำ เทคนิคเยี่ยม คนส่วนใหญ่อาจรู้จักเขาในฐานะกองกลางที่ยิงประตูชัยดับเกาหลีใต้

แต่ลึกๆแล้วชายที่ยึดตำราลูกหนังตามแบบฉบับชัชชัย พหลแพทย์ ก็ขึ้นชื่อในเรื่องการเจียระไนดาวรุ่งและให้โอกาสแข้งจอมเก๋าที่มักโดนสบประมาทว่าหมดสภาพให้กลายเป็นนักบอลที่มีชื่อเสียงได้ ขอบสนามขอนำเสนอกลุ่มนักเตะที่ได้รับการปลุกปั้นจากชายที่ได้รับสมญานามว่า “วัง ลันตา” ส่วนจะมีใครบ้างเนื้อหาด้านล่างพร้อมนำเสนอละครับ วันเฉลิม ยิ่งยง ไม่มีใครเข้าอกเข้าใจหรือรู้จักฝีเท้า “กิ๊ฟ” เมืองนครศรีธรรมราช ได้ดีเท่ากับ “วัง ลันตา” อีกแล้ว ดาวรุ่งที่แจ้งเกิดมาจากโครงการฟุตบอลนักเรียนโรงเรียนสวนกุหลาบปทุมธานี ที่ในเวลานั้นทีมเพื่อนตำรวจไปทำ MOU เป็นพันธมิตร ช่วยส่งทีมเดินสายตามบอลนักเรียนรายการต่างๆ แต่ที่โด่งดังคือนักเรียนแชมป์กีฬา 7 ปี 2011 ที่เอาชนะโรงเรียนกีฬากทม ไปด้วยสกอร์ 6-4 คว้าแชมป์ไปครอง วันเฉลิม เป็นมิดฟิลด์ ที่วางบอลดี ยิ่งไกลมีประสิทธิภาพ แต่เมื่อปรับบทบาทมาสู่บอลลีก เขากลายเป็นมิดฟิลด์ตัวรับที่ทำหน้าที่เชื่อมจังหวะเกม หน้าแผงและด้านกลางแทน จากเพื่อนตำรวจไปบุรีรัมย์ โยกไปชัยนาท ตามด้วยเชียงราย และการท่าเรือ แต่ไม่มีที่ไหน ที่ดึงศักยภาพที่ซ้อนเร้นออกมาได้ เว้นแต่ “โค้ชวัง” ลูกพี่เก่าที่สโมสรตำรวจ ที่หยิบไปใช้งาน และนำพาเขากลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีอีกครั้ง ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ดาวเตะหมายเลข 7 แห่งทัพสิงห์เจ้าท่า แข้งที่รับเหมาลูกนิ่งลูกตั้งเตะเป็นว่าเล่น “บาส เมืองจันทร์” สถาปนาตัวเองเป็นแกนหลักของสโมสรไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังย้ายจากเพื่อนตำรวจมาร่วมทีมเมื่อปี 2016 เขาไม่ใช่ผู้เล่นที่ครอบครองบอลดี แต่มีพิษสงในเรื่องการออกบอลวางบอล ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่เด่นชัด จนเข้าได้รับการผลักดันให้ขึ้นเล่นในไทยลีกกับเพื่อนตำรวจ เมื่อปี 2011 .ในขณะที่เขาเป็นเด็กม.6  อันที่จริงตำแหน่งเดิมคือศูนย์หน้า แต่ด้วยการแข่งขันในตำแหน่งตัวจบสกอร์ ที่มีทั้งคนไทยและต่างชาติ ทำให้ “บาส” ถูกโค้ชวัง ปรับไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ และถูกวางตัวมาตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนมีชื่อติดทีมชาติไทย ชุด19,23 และทีมชุดใหญ่ ปกเกล้า อนันต์ มิดฟิลด์จากโรงเรียนสวนกุหลาบ ที่มาร่วมทีมตำรวจเมื่อปี 2010 แต่มาแจ้งเกิดจากการทำทีมโดยโค้ชวังในซีซั่น 2011 จนโดนวินฟรีด เชเฟอร์เรียกติดทีมชาติ เขาเป็นนักบอลที่ดูธรรมดา บอลจังหวะ1 จังหวะ 2 ไม่แน่นอน คือถ้าไปเล่นกับคนอื่นเขาจะกลายเป็นนักบอลดาดๆ ยกเว้นแต่โค้ชวัง ที่รู้จักคู่มือการใช้งานปกเกล้า ว่าง่ายๆเข้าฉายแสงแจ้งเกิดในวงการลูกหนังไทยก็เพราะ ธวัชชัย ดํารงอ่องตระกูล ที่วางบทบาทมิดฟิลด์หมายเลข 8 ที่เชื่อมเกมรุกและเกมรับที่ทำได้แนบเนียน มันช่วยให้เขารักษาพื้นที่ในนามทีมชาติไทยในยุคของโค้ชซิโก้ เอาไว้ได้นี่แหละ ภิญโญ อินพินิจ ดาวเตะความเร็วสูงจากเมืองเลย ที่อาศัยจุดเด่นตรงนี้ก่อนจะไปเข้าโควต้าเป็นนักกีฬาฟุตบอลรุ่นราวคราวเดียวกับ ปกรณ์, วันเฉลิม เขาพัฒนาฝีเท้าจนกลายเป็นตัวหลักของทีมสวนกุหลาบปทุมธานี และได้รับสัญญาเป็นนักบอลเพื่อนตำรวจพร้อมๆเพื่อนร่วมรุ่น เขาชุบตัวอยู่กับทีมลูกอีสานการบินไทย ทีมสำรองของเพื่อนตำรวจ ก่อนจะได้รับโอกาสในช่วงเลก 2 ปี 2013 “จุ๊บ” นำสัญชาติยานในสนามออกมาใช้ได้ถูกที่ถูกเวลา เขาขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ แม้ว่าจะไม่ได้เล่นเป็นศูนย์หน้า แต่ก็ถางออกไปเล่นริมเส้นได้แบบไม่มีปัญหา น่าเสียดายที่การร่วมงานของเขากับโค้ชวังนั้นสั้นไป แม้จะมีชื่อติดทีมชาติ แต่เขายังห่างไกลกับเพื่อนๆในตำแหน่งเดียวกัน และค่อยๆห่างจากสารบบช้างศึก หลังไม่มีโอกาสลงเล่นกับการท่าเรือ, ประจวบ, เทโรมากขึ้น โดยเวลานี้เขากลับไปเรียกความมั่นใจกับน้าฉ่วย โค้ชเก่าของเขาอีกครั้งในนามทีมชาติ19 ปี นัสตพล มาลาพันธ์ กองหลังจากชัยภูมิที่มาเรียนที่โรงเรียนกีฬานครปฐม โดยมีสิทธินันท์ พุกหอม เป็นไอดอล ก่อนที่ฟุตบอลจะพาเอี้ยง มาร่วมทัพเพื่อนตำรวจในฐานะเยาวชนของทีมสวนกุหลาบปทุมธานี แม้ว่าเขาจะเบียดแย่งตำแหน่งในทีมชุดใหญ่ไม่ได้ เพราะเต็มไปด้วยนักบอลดัง และแข้งนอก แต่การที่ได้รับการฝึกซ้อมกับโค้ชวัง ก็ทำให้ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ จนได้ออกไปเล่นบอลระดับล่างกับทีมลูกอีสาน และนนทบุรี และกลับมารับใช้เพื่อนตำรวจ 1 ซีซั่น ก่อนจะถูกดึงตัวไปร่วมทัพบุรีรัมย์ แม้ว่าเขาไม่แจ้งเกิดไม่สำเร็จในการยืนคุมหลังบ้านให้ทีมปราสาทสายฟ้า แต่การไปเก็บเกี่ยวฝีเท้าที่ชลบุรี เอฟซี, ประจวบ ก็ทำให้เขากลับมาเป็นตัวเลือกในนามทีมชาติอีกครั้ง และปัจจุบันเขากำลังสู้เพื่อตำแหน่งตัวจริงในสโมสรสมุทรปราการ ซิตี้