แข้งไทยที่รอโอกาสในทีมชาติ

เวลานี้บอลไทยหรือบอลทั่วโลกหยุดแข่งหลีกหนีโควิด 19 ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบเหงา เศรษฐกิจย่ำแย่ คนกักตัวเองอยู่แต่ในบ้าน ผมมีโอกาสไปไล่ลิสต์รายชื่อนักเตะที่ถูกเรียกตัวไปซ้อมทีมชาติไทยชุดใหญ่เมื่อ 1 ปีก่อนแล้วพบว่า มีนักเตะฝีเท้าดีมากมายที่ได้แค่โอกาสและเป็นแค่ข่าว แต่ยังไม่มีวาสนามีหน้าอกติดธงไตรรงค์แบบคนอื่นๆเขา

ขอบสนามเลยอยากหยิบยกแข้งฝีเท้าดีที่วนเวียนกับการรอโอกาสรับใช้ชาติทีมชาติไทย ส่วนจะมีใครบ้างเราสรุปเนื้อหามาให้ทุกท่านอ่านแล้วจ้า ธีระพล เยาะเย้ย เด็กหนุ่มจากร้อยเอ็ดที่ได้โอกาสมาเล่าเรียนโรงเรียนกีฬานนทบุรี และได้รับการฝึกสอนจาก”โค้ชต้น” สมฤทธิ์ อ่อนสมจิตร ครูฟุตบอลประจำโรงเรียน ตั้งแต่อายุ 14 ปีและพาตัวไปเล่นทีมเยาวชนบีอีซี เทโรศาสน ในการแข่งขันโค้ก คัพ จนได้มีโอกาสรับสัญญาเป็นนักเตะอาชีพ ก่อนจะถูกส่งไปขัดเกลาฝีเท้ากับบีซีซี ในดิวิชั่น 2 แต่หลังจากตัวผู้เล่นเทโรขาดแคลน ทำให้ “เอี้ยง” ถูกเรียกกลับมาใช้งานในทีมชุดใหญ่ เขาแจ้งเกิดได้สำเร็จในช่วงเวลาที่สโมสรกำลังระส่ำ ก่อนจะจำใจต้องออกจากทีมไปอยู่กับอาร์มี่ ยูไนเต็ด เพราะติดเกณฑ์ทหาร แต่พอกลับมาอยู่กับโปลิศ เทโร เขากลับพบความจริงว่า ตนเองไม่ใช่  11 คนแรกของสโมสร ทำให้ “โค้ชอั๋น” สุรพงษ์ คงเทพ กุนซือพัทยา ยูไนเต็ด ในเวลานั้นไม่รอช้าดึงแข้งอเนกประสงค์รายนี้เข้าสู่ทีมช่วงเลก 2 ปี 2018 จากนั้นก็ค่อยๆปรับบทบาทจากกองกลางเบอร์ 8 คุมจังหวะเกมกลายเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกที่น่าเกรงขาม ไทยลีกในปี 2019 ธีระพล ซัลโวไป 9 ประตู และจ่ายไป 6 แอสซิสต์ จนถูกอากิระ นิชิโนะ เรียกไปซ้อมกับทีมชาติ น่าเสียดายที่เขาไม่อยู่ในโผ 23 แข้งคัดบอลโลก เมื่อช่วงปลายปีก่อน และเขาต้องรอโอกาสต่อไปในการตามหาเสื้อแข่งทีมชาติชุดแรก ศุภนันท์ บุรีรัตน์ เขาอาจจะเป็นนักบอลที่แฟนบอลบางคนร้องยี้แต่ในความจริงแล้ว ถ้านับฟอร์มของ เซฟ ตอนที่ลงเล่นไทยลีกกับพัทยา ยูไนเต็ด บทบาทของเขาค่อนข้างทำผลงานได้ดีกว่าทั้ง นฤบดินทร์ วีรวัฒนโนดม, ทริสตอง โด, ฟิลิป โรลเลอร์ หรือแม้กระทั่งนิติพงษ์ เสลานนท์ ซะด้วยซ้ำ เขาโดดเด่นทั้งเกมรุกและเกมรับ รู้จักหน้าที่รักษาพื้นที่เกมรับ ถ้ามีจังหวะโอกาสขึ้นไปเติมเกมเขาก็วิ่งหน้าตั้งไปช่วยเพื่อนได้สบาย เดิมทีเขาคือกองกลางแต่ไปได้ไม่สุด จนโดนแอนดรูว์ ออร์ด จับมาทำหน้าที่แบ็คขวาตอนที่ไปเล่นลีกภูมิภาคกับนครนายก และก็ปรับตัวเองเรื่อยๆมาจนสลัดภาพดาวรุ่งไปไม่สุดกับทีมกิเลนผยองได้แล้ว ตอนนี้ก็คงรอแค่โอกาสที่เขาจะปักหลักตัวจริงในทีมสมุทรปราการให้ดีเสียก่อน เพื่อหาจังหวะที่เหมาะกับการไปลุ้นพื้นที่ทีมชาติไทย ศราวุธ อินแป้น แนวรับจากสุรินทร์ ที่แจ้งไม่เกิดกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก่อนจะวิ่งมาหาโอกาสลงเล่นฟุตบอลพร้อมกับติดยศทหารอากาศที่แอร์ฟอร์ซ เซ็นทรัล โชคไม่ดีสักเท่าไหร่ที่เขาลงเล่นไม่สม่ำเสมอเพราะเจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงาน ทว่าเป็นทางเชียงราย ยูไนเต็ด ที่เล็งเห็นคุณค่ามอบโอกาสให้นักเตะทดสอบฝีเท้า ก่อนจะได้รับความไว้วางใจจากอเล็กซานเดร กาม่า กุนซือกว่างโซ้งในเวลานั้น ช่วงแรกเขาไม่ได้มีโอกาสมากมาย กระทั่งกาม่าเลือกหย่อยลงสนามจับคู่กับชินภัทร์ ลีเอาะ แนวรับจอมโหดและวิคเตอร์ คาร์โดโซ กลายเป็นสูตรสำเร็จที่ลงตัว หลังจากออกไปของกาม่า ศราวุธ ยึดตัวหลักในทีมของไอลตัน ซิลวา และประสบความสำเร็จช่วยทีมได้แชมป์ไทยลีก 2019 เราก็ได้แต่หวังว่าเขาจะรักษาฟอร์มการเล่นให้สม่ำเสมอเพื่อเป็น 1 ในตัวเลือกของอากิระ นิชิโนะ วรวุฒิ ศรีสุภา นี่คือนายทวารที่พัฒนาตัวเองอยู่เสมอจากดาวรุ่งไร้โอกาสที่บีอีซี เทโรศาสน ก่อนจะผงาดขึ้นสู่มือ 1 การท่าเรือ เอฟซี ปอนด์ เด็กหนุ่มมุกดาหาร มีฟอร์มที่คงเส้นคงวาสม่ำเสมอกว่าประตูหน้าหล่อที่ประหมาดเลิ่นเล่ออย่าง รัตนัย ส่องแสงจันทร์ และประตูหัวใจHip hop อย่างวัชระ บัวทอง ทัศนคติที่ยอดเยี่ยมสู้หยิบตากับทุกโอกาส ถ้าไม่เจ็บไม่แบนยังไงเขาก็ต้องได้เฝ้าหน้าปากประตูท่าเรือ แน่นอน เขามีโอกาสมาซ้อมทีมชาติเมื่อปี 2018 นัดอำลาสินทวีชัย หทัยรัตนกุล แต่โดนตัดออกและยังไม่ได้รีเทิร์นสู่การรับใช้ธงไตรรงค์อีกเลย หากเทียบฟอร์มในเวลานี้ เขาต่อกรกับประตูไทยลีกรายอื่นๆได้สบาย อาทิตย์ บุตรจินดา เด็กหนุ่มจากกาฬสินธุ์ ผู้ที่มีโอกาสไปเป็นเยาวชนที่แอสปาย ของกาตาร์ และถูกดึงตัวมาร่วมทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 5 ปี เขาเป็นได้แค่เด็กตัวสำรองและโดนปล่อยยืมทั้งสุรินทร์, พิจิตร และชัยนาท สุดท้ายเป็น”เซอร์เด็จ” จเด็จ มีลาภ ที่ไว้วางใจนักเตะเอา “นุ๊ก” มาร่วมทีม เขาเป็นตัวสำรองที่ชอบไปอยู่ถูกที่ถูกเวลายิงประตูได้ จนมีหลายเสียงอยากให้ติดทีมชาติ และก็ได้โอกาสสมใจจาก”โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย ที่เอาตัวไปซ้อมคิงส์ คัพ หลังจากนั้นเขาแทบไม่มีโอกาสในทีมสิงห์เจ้าท่า รวมถึงชลบุรี และเวลานี้ อาทิตย์ กำลังต่อสู้อีกครั้งเพื่อพื้นที่ตัวจริงในฐานะศูนย์หน้าตัวหลักของโปลิศ เทโร กับการหวนคืนสู่ธงไตรรงค์ ได้ลงเล่นกับกองหน้าในดวงใจอย่าง ธีรศิลป์ แดงดาอีกครั้ง