เล่าเรื่องราว! ความสุดยอดของ อิเนียสต้า ตำนานแข้งบาร์ซ่า

หากคุณเป็นแฟนบอลเข้าเส้น คุณไม่มีทางไม่เคยเห็นภาพสุดคลาสสิคในเกมนัดชิงยูโร 2012 ที่ อันเดส อิเนียสต้า มิดฟิลด์ทีมชาติสเปน ยืนอยู่ตรงกลางวงล้อมของผู้เล่นทีมชาติอิตาลี 5 คน เป็นแน่แท้ และวันนี้แหละ ขอบสนามเรื่องเฟี้ยวเลี้ยวมาเล่า จะขอพูดถึงความสุดยอดของชายกลางวงนั้น อันเดส อิเนียสต้า

หากพูดถึงภาพนี้ อัลเฟรโด้ เรลาโน่ ประธานกิตติมศักดิ์ของ "อาส" สื่อดังแดนกระทิงดุ เคยกล่าวไว้ว่า "ภาพนี้มันคลาสสิคมาก มันเหมือนมีกรวยฝึกซ้อมวางล้อมรอบตัวของ อิเนียสต้า ทั้งที่จริงๆ แล้วมันคือผู้เล่นทีมชาติอิตาลี  "อินเนียสต้า ถือเป็นปัจจัย และกำลังสำคัญที่ช่วยให้ทีมชาติสเปนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ คว้าทั้งแชมป์โลก ปี 2010 และ แชมป์ยูโร ปี 2008 กับ 2012 รวมถึงเป็นตัวหลักของ บาร์เซโลน่า ยุคที่รุ่งเรืองที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรด้วย" "เขาเป็นสัญลักษณ์ของนักฟุตบอลที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพ และมีเทคนิคที่ยอดเยี่ยม แต่หุ่นไม่อำนวย เพราะเขาไม่ได้มีร่างกายที่สูงใหญ่ เขาไม่มีความเร็ว ไร้ซึ่งความดุดัน และเล่นลูกกลางอากาศได้ไม่ดีเลย แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ส่งผลอะไรเพราะเขาสามารถปรับสไตล์การเล่นทุกอย่างให้ลงตัว สำหรับเขามันแตกต่างออกไป เขาคือนักเตะที่แตกต่างจากคนอื่น ผมทำงานด้านสื่อฟุตบอลมานานหลายปี ก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าคนที่มีจุดอ่อนเยอะอย่างเขา จะเก่งและยอดเยี่ยมได้ถึงเพียงนี้ เขาเข้าถึงฟุตบอลได้อย่างลึกซึ้งจริงๆ" กิเยม บาลาเก้ กูรูบอลสเปน กล่าวถึง อิเนียสต้า และก็ยังกล่าวต่อว่า "ผมจำคำพูดนึงของ เซซาร์ หลุยส์ เมน็อตติ (กุนซือที่พา อาร์เจนติน่า คว้าแชมป์โลกเมื่อปี 1978) ที่เคยพูดไว้ว่า 'สเปน ต้องตัดสินใจว่าพวกเขาจะเป็น กระทิง หรือ มาทาดอร์' ซึ่ง มาทาดอร์ น้ำหนักเฉลี่ยก็ 70 กิโล ส่วน กระทิง ตัวนึงหนัก 500 กิโล สุดท้าย สเปน เลือกที่จะเป็น มาทาดอร์ และประสบความสำเร็จ ด้วยผู้เล่นทีมีรูปร่างเล็ก ไม่ใช่แค่ อิเนียสต้า เท่านั้น ยังมี ดาบิด ซิลบา, ฆวน มาต้า, ดาบิด บีย่า และนักเตะตัวเล็กๆ อีกหลายคน แต่ อิเนียสต้า คือคนที่เด่นชัดที่สุดที่พิสูจน์เรื่องนี้ว่า สามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยฝีเท้า ไม่ใช่ความแข็งแกร่งทางด้านร่างกาย" อิเนียสต้า เข้าร่วมเป็นเด็กฝึกหัดลูกหนังในรั้ว "ลา มาเซีย" ตั้งแต่อายุ 12 ขวบ และได้รับโอกาสให้ลงเล่นเปิดซิงในทีมชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อปี 2002 ในยุคที่ หลุยส์ ฟาน กัล คุม บาร์เซโลน่า อยู่ ซึ่งตอนนั้นเขาเพิ่งจะอายุแค่ 16 ปีเท่านั้น นับจากวันนั้นจนถึงทุกวันนี้ อิเนียสต้า เปลี่ยนตัวเองจากเด็กฝึกหัด ขึ้นชั้นเป็นตำนานของทัพ "เจ้าบุญทุ่ม" ไปเป็นที่เรียบร้อย ด้วยผลงาน 16 ฤดูกาล 674 นัด ซัด 57 ประตู คว้าแชมป์ ลา ลีกา 9 สมัย, โกปา เดล เรย์ 6 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยส์ ลีก อีก 4 สมัย ขณะที่ผลงานในนามทีมชาติก็ไม่ธรรมดา แชมป์ยูโร 2 สมัย แชมป์โลก 1 สมัย ติดทีมชาติชุดใหญ่ไป 131 นัด ซัด 13 ประตู ซึ่ง 1 ในนั้นเป็นประตูที่สำคัญที่สุดในชีวิตการค้าแข้งของเจ้าตัวเลยก็ว่าได้ นั่นคือประตูชัยในนัดชิง ฟุตบอลโลก 2010 ที่ซัดใส่ฮอลแลนด์ ราม่อน เบซ่า เพื่อนซี้ของ อิเนียสต้า ซึ่งมีส่วนร่วมในการช่วยทำหนังสือ The Artist: Being Iniesta อัตชีวประวัติของ ดาวเตะแชมป์โลก รายนี้ได้ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า "แน่นอน อิเนียสต้า เป็นนักเตะที่ชอบทำประตูสำคัญๆ อย่างที่สแตมฟอร์ดบริดจ์ กับ เชลซี ช่วงท้ายเกม (รอบรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2009) และที่ โยฮันเนสเบิร์ก กับการต่อเวลาที่ยิงประตูชัยใส่ฮอลแลนด์ พาทีมชาติสเปนคว้าแชมป์โลก" "ผมจำได้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เคยพูดเอาไว้ว่าที่เท้าของ อิเนียสต้า นั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยศรัทธาของแฟนบอล บาร์เซโลน่า ซึ่งผมก็เชื่อว่า บิเซนเต้ เดล บอสเก้ (กุนซืทีมชาติสเปนชุดแชมป์โลก) ก็คิดแบบนั้นเช่นกัน ถ้า สเปน ต้องเลือกใครสักคนให้เป็นผู้ยิงประตูชัยในนัดชิงบอลโลก ผมมั่นใจเลยว่า อิเนียสต้า จะชนะการโหวตนี้ ผมพูดเสมอแหละว่า อิเนียสต้า คือกำลังสำคัญที่สุดในทีมชาติ เปรียบเหมือนเป็น เมสซี่ แห่งสเปนเลย" ในยุครุ่งเรืองที่สุดของ บาร์เซโลน่า นอกจาก อิเนียสต้า ที่ถูกยกย่องแล้ว อีก 2 คนที่มักจะถูกยกย่องไม่แพ้กันก็คือ ชาบี กับ ลิโอเนล เมสซี่ ซึ่งทั้ง 3 เคยขึ้นรับรางวัลอันดับ 1-3 บัลลงดอร์ พร้อมกันมาแล้วเมื่อปี 2010 เป็นการตอกย้ำถึงความยิ่งใหญ่ของ บาร์ซ่า และความสำคัญของ 3 แข้งที่เป็นผลผลิตจาก "ลา มาเซีย" แม้จะอยู่ทีมเดียวกัน เป็นเพื่อนซี้กัน แต่ด้วยการที่เล่นตำแหน่งเดียวกันก็ไม่วายที่มักจะมีคำถามเกิดขึ้นว่า ชาบี กับ อิเนียสต้า ใครเก่งกว่ากัน? ต่างคนต่างความคิด แน่นอนบางคนชอบ ชาบี บางคนชอบ อิเนียสต้า แต่ทีนี้เรามาลองฟังความคิดเห็นจากอดีตเพื่อนร่วมทีมอย่าง มาร์ตี้ ริเวอร์โอล่า กันหน่อยดีกว่าว่าพี่แกคิดเห็นอย่างไร แต่ก่อนไปฟังสงสัยใช่มั้ยครับ ริเวอร์โอล่า ห่านี่คือใคร คำตอบคือพี่แกเป็นเด็กเก่าบาร์ซ่าจริงๆ ลงเล่นไป 1 นัดถ้วนในปี 2011 จากนั้นก็ย้ายทีมและเงียบหายไป เอาหละมาฟังความเห็นของพี่แกที่ปัจจุบันอายุ 30 ปี กำลังเล่นให้ทีม เอฟซี อันดอร์ร่า หน่อยละกัน แกบอกไว้ว่า "ชาบี กับ อิเนียสต้า เป็นกองกลางที่มีสไตล์การเล่นที่ต่างกัน ชาบี จะเล่นประจำตำแหน่งมากกว่า ชอบครองบอล เก็บบอลไว้กับตัว และคอยควบคุมจังหวะเกม ส่วน อิเนียสต้า ชอบเล่นเกมรุก ชอบทำลายแนวรับคู่แข่ง ซึ่งทำให้เขาสามารถสร้างสรรค์โอกาส และทำประตูได้มากกว่า เขาชื่นชอบการเล่นเกมรุก ชอบยิงประตู และความคิดของเขาคืออยากเอาชนะแผงหลังคู่แข่งอยู่เสมอ" "อิเนียสต้า เหมือนมีพลังวิเศษ เขาจับบอลแรกได้นิ่มนวลมาก และเขารู้เสมอว่าเขาต้องทำอะไรต่อไป เขาสามารถเคลื่อนไหวเปลี่ยนจังหวะเกมการเล่นได้ทันทีตามใจสั่ง เขาสามารถพลิกหนีทิ้งคุณไว้ข้างหลังได้เลยด้วยเทคนิคไม่ใช่ความเร็ว เขาเก็บบอลได้ดี และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะแย่งบอลจากเขา เขาเหมือนมีตาหลังอีกต่างหาก เขารู้เลยว่าคู่แข่งจะเคลื่อนที่ไปทางไหน ทำอะไร เหมือนเขารู้อนาคตล่วงหน้าก่อนคนอื่น 2 วินาทีเลย"  "เป๊ป กวาร์ดิโอล่า พูดเสมอว่า อิเนียสต้า คือลูกชายที่สุดแสนจะเพอร์เฟ็กต์, เป็นนักเตะที่สมบูรณ์แบบ และเป็นคนที่ยอดเยี่ยม เขาไม่เคยโดนตำหนิ, ไม่เคยสร้างปัญหา มาตรงเวลาตลอด เชื่อฟังและรับฟังเวลาโค้ชสอน เขาไม่มีรอยสัก เขาคือแบบอย่างที่ดีของคำว่า "มืออาชีพ" นี่เป็นผลผลิตที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ ลา มาเซีย" หลังจากเสพความสำเร็จกับ บาร์เซโลน่า จนอิ่มเต็มอก อิเนียสต้า ก็ขอโบกมือลาทัพ "เจ้าบุญทุ่ม" ไปในปี 2018 เพื่อหาความท้าทายใหม่ในช่วงบั้นปลายอาชีพค้าแข้ง และที่ที่เจ้าตัวเลือกไปก็คือ เจลีก ญี่ปุ่น ซึ่งถือว่าเซอร์ไพร้ส์พอสมควรเลยทีเดียว และแน่นอนว่าการมาของโคตรนักเตะอย่าง อิเนียสต้า นั้นทำให้กระแสฟุตบอล เจลีก นั้นแรงขึ้นมาเป็นเท่าตัว ฌอน แคร์โรลล์ ผู้เชี่ยวชาญและคร่ำหวอดในวงการฟุตบอลแดนอาทิตย์อุทัย  มานานนับ 10 ปี ได้พูดถึงเรื่องนี้ไว้ว่า "การมาของ อิเนียสต้า ยิ่งใหญ่กว่านักเตะต่างชาติทุกคนที่เคยมาเล่นที่ญี่ปุ่น เพราะเขาคือหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดในเจเนเรชั่นนี้ นักเตะดังๆ หลายคนเลือกที่จะมา ญี่ปุ่น ตอนช่วงขาลงของอาชีพค้าแข้ง ซึ่งแม้ว่า อิเนียสต้า จะไม่ได้หนุ่มเหมือนก่อน แต่ฝีเท้าของเขาก็ยังเหนือระดับ เขาช่วยเข้ามายกระดับของลีก และสร้างอิมแพ็คที่ยิ่งใหญ่มากๆ ให้วงการฟุตบอลญี่ปุ่น" ปัจจุบันในวัย 36 ปี อิเนียสต้า ยังคงค้าแข้งอยู่กับ วิสเซล โกเบ ใน เจลีก ญี่ปุ่น แต่ตอนนี้ก็เจอวิกฤติโควิด-19 เล่นงาน ทำให้การแข่งขันต้องเลื่อนออกไปอย่างไร้กำหนด ซึ่งก็ไม่รู้เหมือนกันว่า อิเนียสต้า ที่ใกล้จะหมดสัญญากับ โกเบ จะยังค้าแข้งให้แฟนบอลได้ชื่นชมฝีเท้าต่อไป หรือจะตัดสินใจแขวนสตั๊ด แต่ไม่ว่าจะเลือกทางไหน อันเดรส อิเนียสต้า ก็คือหนึ่งในกองกลางที่ดีที่สุดในรอบ 20 ปีหลังสุด อย่างไม่ต้องสงสัย  

ชิน ชินพัฒน์

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมผ่านทางไลน์