ย้อนความหลังวันวานของฟุตบอลไทย กับ 10 เรื่องน่ารู้สโมสรไทยลีก วันนี้เป็นคิวของ "กระต่ายแก้ว" บางกอกกล๊าส เอฟซี หรือปัจจุบันคือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ก่อนจะมาถึงวันนี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง
มาถึงสโมสรที่ 3 กับ 10 เรื่องน่ารู้ในอดีตของฟุตบอลไทยลีก ซึ่งวันนี้จะไปติดตามเรื่องราวของทีม บางกอกกล๊าส เอฟซี หรือปัจจุบันคือ
"บีจี ปทุม ยูไนเต็ด" โดยก่อนหน้านี้มีของ เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด และ บุรีรัมย์ พีอีเอ ไปย้อนอ่านกันได้ ส่วนเรื่องราวของบีจี มี 10 เรื่องอะไรน่าสนใจไปดูกัน
1.สิทธิ์เดิมคือธนาคารกรุงไทย
ก่อนจะมาเป็นทีมบางกอกกล๊าส เอฟซี สิทธิ์เดิมคือ
สโมสรธนาคารกรุงไทย อดีตแชมป์ไทยลีก ที่ประกาศยุบทีมในปี 2552 เนื่องจากไม่สามารถจัดตั้งเป็นนิติบุคคลได้ โดยเป็นทีมงานบริหารของบางกอกกล๊าส ที่ไปเทคโอเวอร์สโมสรกรุงไทย และเปลี่ยนชื่อเป็นบางกอกกล๊าส เอฟซี ลงสู้ศึกไทยพรีเมียร์ลีก 2009 หรือ พ.ศ.2552 เป็นฤดูกาลแรก
2.กุนซือคนแรก "ฮานส์ อาร์ เอ็มเซอร์"
โค้ชคนแรกได้แก่
"มร.ฮานส์ อาร์ เอ็มเซอร์" กุนซือชาวเยอรมัน ที่อยู่ในช่วงบุกเบิกสโมสร คุมทีมตั้งแต่ต้นฤดูกาล 2009 ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม พาทีมนำหัวตารางก่อนจบเลกแรก และเป็น "โค้ชง้วน" สุรชัย จตุรภัทรพงศ์ ที่มาสานงานต่อจนจบฤดูกาล 2009 เนื่องจาก มร.ฮานส์ นั้นมาเพื่อที่จะทำอะคาเดมี่ของสโมสร เมื่อบีจี หาโค้ชได้ มร.ฮานส์ จึงไปเป็น ผอ.อะคาเดมี่ จนถึงปี 2016 และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา วันที่ 25 ม.ค.63 กุนซือชาวเยอรมัน ก็ได้เสียชีวิตลงเนื่องจากอายุเยอะและป่วย
3.เปลี่ยนชื่อมา 2 ครั้ง
หลังจากเทคโอเวอร์สโมสรกรุงไทยมา ก็เปลี่ยนชื่อเป็น "บางกอกกล๊าส เอฟซี" มีฉายาว่า "กระต่ายแก้ว" หรือ "เดอะแรบบิท" แต่หลังจบฤดูกาล 2018 ทีมตกชั้นไปดิวิชั่น 1 หรือไทยลีก 2 ในปัจจุบัน ทีมก็ได้มีการเปลี่ยนชื่อสโมสรเป็น "บีจี ปทุม ยูไนเต็ด" และเปลี่ยนฉายามาเป็น "บลูแมชชีน" ซึ่งทีมเปลี่ยนโลโก้มา 3 เวอร์ชั่น จากตรากระต่ายที่มีพื้นสีส้มใช้มาจนถึงปี 2018 ก็เปลี่ยนมาเป็นตัวกระต่ายกำลังวิ่งในพื้นสีน้ำเงิน ก่อนจะกลับไปใช้หน้ากระต่ายอีกครั้งเมื่อปี 2019
4.โลโก้กระต่าย มีที่มาจากประธานสโมสร
หลายคนสงสัยว่าทำไมโลโก้ของทีมบางกอกกล๊าส ถึงเป็นหน้ากระต่าย ซึ่งที่มาก็คือเป็นปีเกิดของ นายปวิณ ภิรมย์ภักดี ที่เกิดปีกระต่าย แค่นั้นเลยจริงๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน
5.กัปตันทีมคนแรก "อำนาจ แก้วเขียว"
กัปตันทีมคนแรกของบางกอกกล๊าส เอฟซี คือ "อำนาจ แก้วเขียว" ปราการหลังพันธุ์แกร่งที่อยู่กับสโมสรมาตั้งแต่เป็นธนาคารกรุงไทย และเลิกเล่นไปหลังจบฤดูกาล 2014 ก่อนจะผันตัวเองมาเป็นสตาฟฟ์โค้ช และเคยขึ้นไปขัดตาทัพคุมทีมบีจีเมื่อฤดูกาล 2018 ปัจจุบันยังเป็นสตาฟฟ์โค้ชของบีจี แต่ถูกส่งตัวไปคุมทัพเชียงใหม่ เอฟซี ทีมพันธมิตรในศึกไทยลีก 2
6.รังเหย้าที่แรก "ส.เฉลิมพระเกียรติคลอง 6"
ในฤดูกาล 2009 ทีมบางกอกกล๊าส เอฟซี ใช่สนามเฉลิมพระเกียรติคลอง 6 เป็นรังเหย้าชั่วคราว ในขณะที่กำลังสร้างสนามใหม่ "ลีโอ สเตเดี้ยม" ก่อนจะย้ายมาเล่นที่สนามใหม่นี้ในฤดูกาล 2010 ต่อมาจนถึงปัจจุบัน
7.สีประจำสโมสรแรกคือเขียว-ขาว
สีประจำสโมสรหลังเทคโอเวอร์สโมสรมาคือสีเขียว-ขาว ซึ่งก็เป็นสีของบริษัทบางกอกกล๊าส อยู่แล้ว แต่ในปี 2018 บริษัทแม่อย่างบางกอกกล๊าส มีการเปลี่ยนแปลงสีบริษัทเป็นสีน้ำเงิน ทำให้สโมสรบางกอกกล๊าส ก็ถือโอกาสเปลี่ยนชื่อเป็น
บีจี ปทุม ยูไนเต็ด และเปลี่ยนมาใช้สีน้ำเงินเป็นสีประจำสโมสรใหม่ด้วย ซึ่งก็ไปสอดคล้องกับทีมเดิมอย่างกรุงไทยโดยบังเอิญ
8.ได้แชมป์เมเจอร์ 2 ครั้ง
ตลอดเวลา 11 ย่าง 12 ฤดูกาลของบีจี ปทุม หรือบางกอกกล๊าส พวกเขาเคยได้แชมป์ฟุตบอลอย่างเป็นทางการเพียงแค่ 2 รายการ นั่นคือช้างเอฟเอ คัพ เมื่อปี 2014 และล่าสุดคือแชมป์ไทยลีก 2 เมื่อฤดูกาล 2019 ที่ผ่านมา
9."โค้ชโอ่ง" กุนซือคนแรกที่คุมทีมจบฤดูกาล
ดุสิต เฉลิมแสน กุนซือคนปัจจุบัน ถือเป็นเฮดโค้ชคนแรกที่ได้คุมทีมตั้งแต่ต้นฤดูกาลจนจบฤดูกาล และได้คุมทีมต่อในฤดูกาลถัดมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี 2009 บีจี ไม่เคยใช้โค้ชจบฤดูกาล มาก่อนเลย
10.ค่าตัวแพงสุด "ธนบูรณ์ เกษารัตน์"
ปิดท้ายที่เรื่องนักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดที่บีจี ดึงตัวมาร่วมทัพ คือ "ธนบูรณ์ เกษารัตน์" ที่ย้ายมาจากสิงห์ เชียงราย เมื่อฤดดูกาล 2018 ด้วยค่าตัวตามที่มีการเปิดเผยกันคือ 40 ล้านบาท ถือว่าเป็นสถิติของสโมสร รองลงมาคือ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ค่าตัว 30 ล้านบาท
