นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด กลายเป็น ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ เมื่อพวกเขาจะเปลี่ยนสถานะจากทีมขี้ตืด ที่มี ไมค์ แอชลี่ย์ เป็นหัวเรือใหญ่ กลายมาเป็น หนูตกถังข้าวสาร เพราะว่าที่เจ้าของคนใหม่ ที่รวยล้นฟ้าอย่าง เจ้าชาย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งประเทศซาอุดิอาระเบีย พร้อมเทคโอเวอร์ในราคา 300 ล้านปอนด์ (12,000 ล้านบาท)
แต่กระนั้น เวลาก็ผ่านไปนาน จนแล้วจนรอด ก็ยังไม่มีการซื้อกิจการ "สาลิกาดง" เสียที ทั้งๆที่ก็มีการคาดเดาะไปต่างๆ นานา ว่าใครจะเข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่ หรือ จะไปคว้านักเตะระดับโลกคนไหนมาบ้าง นี่ซีซั่น 2019-20 ก็ใกล้จะกลับมารีสตาร์ท ไม่มีอะไรคืบหน้า อะไรคือสาเหตุที่ดีลนี้ยังไม่เสร็จ ขอบสนาม จะพาไปไล่เรียงไทม์ไลน์ให้ได้ทราบกัน
จิ๊กซอว์สำคัญกับดีลแรกเริ่ม
แฟนบอล สาลิกาดง ทนปวดตับกับการบริหารของ ไมค์ แอชลี่ย์ มาถึง 13 ปี ทั้งการไม่เสริมทัพ, ไม่ทุ่มเทเพื่อสโมสร เคยมีคนมาติดต่อขอเทคโอเวอร์สโมสร แต่ทว่าเจ้าของร่างท้วมกลับปฏิเสธไปแบบไม่ใยดี ซึ่งคนที่เคยอยากซื้อกิจการ "สาลิกาดง" ครั้งนั้นก็คือ อแมนด้า สเตฟลีย์ นักธุรกิจสาววัย 47 ปี
สเตฟลีย์ มีประสบการณ์ทำงานเกี่ยวกับด้านการเงินในแถบตะวันออกกลางมานับ 10 ปี ว่ากันว่าเธอคือแฟนบอล นิวคาสเซิ่ล ตัวยง ต่อให้เธอจะโดนปฏิเสธขายทีมมาถึง 2 ครั้ง แต่เธอไม่เคยย่อท้อ ไปหากลุ่มทุน เพื่อหวังจะเทคโอเวอร์ให้ได้ และ สุดท้ายก็มาคลิกกับกลุ่ม "ซาอุ พับลิค อินเวสท์เมนต์ ฟันด์"
กลุ่มทุน "ซาอุ พับลิค อินเวสท์เมนต์ ฟันด์" เป็นองค์กรที่รวยล้นฟ้า นำโดย เจ้าชาย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่ง ซาอุดีอาระเบีย เม็ดเงินเทคโอเวอร์ 300 ล้านปอนด์ บอกเลยว่าจิ๊บๆ เท่านั้นไม่พอ จะดัน อแมนด้า สเตฟลีย์ ที่เป็นเหมือน "นายหน้า" ให้ขยับขึ้นไปเป็น "ผู้ซื้อ" เองเลย คิดดูว่าใจขนาดไหน
เจ้าชาย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน รวยขนาดไหน ?
เป็นถึง มกุฎราชกุมารแห่งประเทศซาอุดิอาระเบีย คงจะพอนึกภาพในหัวได้ใช่ไหมครับ ว่าจะต้องรวยขนาดไหน ก็บอกไปแล้วว่า 300 ล้านปอนด์ ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกครับ เพราะว่ากันว่าพระองค์ทรงมีทรัพย์สินรวมมากถึง 260,000 ล้านปอนด์ (10 ล้านล้านบาท) ชาตินี้ไม่รู้ว่าจะใช้หมดหรือเปล่า
บ้านพักของพระองค์ มีราคาบ่งบอกว่าแพงที่สุดในโลก สูงถึง 230 ล้านปอนด์ (9,200 ล้านบาท) จะเรียกว่าบ้านพักก็ไม่ได้ ต้องเป็นพระราชวังถึงจะถูก ตั้งอยู่ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยมีสวนขนาดใหญ่ ซึ่งมีพื้นที่ครอบคลุม 57 ไร่, มีห้องใต้น้ำขนาดมหึมา ให้อารมณ์เหมือนไปเดินดู สยาม โอเชี่ยน เวิลด์ ที่ พาราก้อน
เท่านั้นยังไม่พอ พระราชวังแห่งนี้ มีห้องนอน 10 ห้อง, มีห้องเก็บไวน์ที่สามารถเก็บขวดไวน์ได้ 3,000 ขวด, มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ทั้งอินดอร์และเอาท์ดอร์, มีไนท์คลับส่วนตัว พร้อมกับมีรายงานว่า พระองค์เคยทุ่มเงินกว่า 1.6 หมื่นล้านบาท เพื่อซื้อซูเปอร์เรือยอชต์ ซีรีน หนึ่งในเรือลำใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยความยาวเกือบ 134 เมตร แค่นี้ก็รู้แล้ว เงินสามารถทำได้ทุกอย่าง
สื่อคาดการณ์ นิวคาสเซิ่ล เตรียมสอย นักเตะระดับโลก
ปัจจุบัน นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด กลายเป็นอดีตยักษ์ใหญ่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไปแล้ว เพราะไม่ได้มีสถานะจะมาลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เหมือนยุค 90 ผันตัวเองมาลุ้นหนีตกชั้น ถ้าอยู่รอดคือบรรลุเป้าหมาย เพราะก่อนหน้านี้เคยต้องร่วงไปเล่น เดอะ แชมเปี้ยน ชิพ มาแล้ว 2 หน
จาก ไมค์ แอชลี่ย์ ที่แทบไม่ให้งบทำทีม เต็มที่ก็ทุ่ม 30-40 ล้านปอนด์ เพื่อหาแข้งเกรดบี+ เข้ามาเสริมทัพ แต่พอ เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน เตรียมจะเข้ามาเทคโอเวอร์ เรียกว่าเข้าสุภาษิต "หนูตกถังข้าวสาร" จากดึงดูดแข้งซูเปอร์สตาร์ไม่ได้ แต่ในเวลาอันใกล้นี้อาจเต็มไปด้วยระดับท็อป ซึ่งนักเตะดังๆที่สื่อต่างประเทศคาดการณ์ไว้ดังนี้
1.
ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เพลย์เมกเกอร์ตกอับ เพราะหลังจากย้ายออกจาก
ลิเวอร์พูล ไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า ชีวิตก็ สาละวันเตี้ยลงเรื่อยๆ ถูกแฟนบอล
"เจ้าบุญทุ่ม" โห่ใส่,
ถูกดรอปเป็นสำรอง ปล่อยยืมไปอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค เขาก็ไม่ซื้อขาด ทำให้
คูตี้ เตรียมถูก บาร์ซ่า โละทิ้งซัมเมอร์นี้
ด้วยสถานะที่ถูกเลหลังขายแบบนี้ ก็เข้าทาง
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ที่พร้อมอาสาเลี้ยงดูอยู่แล้ว เพราะนักเตะก็อยากกลับ
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นทุนเดิม ในเมื่อ
ลิเวอร์พูล ไม่ต้องการ ทัพ
"สาลิกาดง" ก็พร้อมทุ่มเงินอยู่แล้ว ค่าตัวราวๆ
70 ล้านปอนด์ ไม่ใช่เรื่องใหญ่
2.
แกเร็ธ เบล ปีกวานรเทพจาก เรอัล มาดริด นี่ก็ระหองระแหงกับสโมสรมาตลอด เกือบถูกขายไปลีกจีนอยู่แล้ว เพราะดูไม่กินเส้นกับ
ซีเนอดีน ซีดาน กุนซือใหญ่ แต่ทว่า
ฟลอเรนติโน่ เปเรซ รั้งเอาไว้ อย่างไรก็ตาม สิ่งต่างๆก็ไม่ได้ดีขึ้น เพราะ
เบล บาดเจ็บอยู่บ่อยๆ ได้ลง
สนามแค่ 11 เกม ยิงไปเพียง 2 ประตู เท่านั้น
ถึงแม้สัญญาจะเหลืออยู่กับ "ราชันชุดขาว" ถึงปี 2022 แต่ด้วยองค์ประกอบหลายๆอย่าง ทั้งอาการบาดเจ็บ, ฟอร์มการเล่น, ค่าเหนื่อยที่รับอยู่ถึง 6 แสนปอนด์ ต่อวีค ทำให้ มาดริด พร้อมลดค่าใช้จ่าย และ นั่นแหละครับ ทำให้ นิวคาสเซิ่ล นั่งไขว่ห้างรอชุบเลี้ยงกลับสู่ พรีเมียร์ลีก ส่วนค่าตัว 60 ล้านปอนด์ บอกเลยจิ๊บๆ
ไม่ใช่จะเอาแค่นักเตะตัวท็อป แต่กุนซือก็ต้องระดับโลก
นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ยุคนี้ นำทัพโดย สตีฟ บรูซ กุนซือจอมเก๋าแห่งเกาะอังกฤษ ซึ่งเข้ามาแทนที่ ราฟาเอล เบนิเตซ เมื่อซัมเมอร์ก่อน แต่ถ้าถามเรื่องบารมีการไปลุ้นแชมป์ คงยากเสียจริง เพราะส่วนใหญ่ก็ได้แต่คุมทีมหนีตายเท่านั้น อาทิ ซันเดอร์แลนด์, ฮัลล์ ซิตี้ หรือ แอสตัน วิลล่า
ฉะนั้นถ้าหาก สาลิกาดง เทคโอเวอร์สำเร็จ เป้าหมายย่อมสูง โดยว่ากันว่ากลุ่มทุน "ซาอุ พับลิค อินเวสท์เมนต์ ฟันด์" ต้องการพา นิวคาสเซิ่ล เป็นทีมระดับท็อปยุโรป ภายในเวลา 5 ปี ฉะนั้นมันหมายถึงการไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือ เป็นแชมป์สักรายการ และ คนที่จะตอบโจทย์เรื่องนี้มีชื่อ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่
"พอช" สร้างชื่อกับการคุมทีม เซาธ์แฮมป์ตัน และ มาโด่งดังเป็นพลุแตกกับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เพราะมีสไตล์การทำทีมที่สนุก ตื่นเต้นเร้าใจ อีกทั้งยังมีดีกรีรองแชมป์ "ยูซีแอล" ด้วย จึงไม่แปลกเลยว่าที่ นิวคาสเซิ่ล อยากจะได้ตัว โปเช็ตติโน่ มาคุมทีม เพราะตั้งแต่แยกทางกับ "ไก่เดือยทอง" ก็ยังว่างงาน ไม่มีใครจับจอง และ เจ้าตัวพร้อมกลับมารับงาน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกครั้ง
- เหมือนจะลงเอยด้วยดี แต่กลุ่มทุน "ซาอุ พับลิค อินเวสท์เมนต์ ฟันด์" ถูกต่อต้าน
จากการไล่เรื่องราวตั้งแต่ต้น เหมือนว่าบทสรุปน่าจะแฮปปี้ เอนดิ้ง เพราะ พรีเมียร์ลีก ก็พร้อมยินยอมอนุมัติให้เทคโอเวอร์ “เดอะ แม็กพายส์” ด้วยมูลค่า 300 ล้านปอนด์ อย่างง่ายดาย แต่แล้วเส้นทางก็พบกับอุปสรรค ซึ่งนั่นเป็นปัญหาตามมาต่อการรับรอง
ปัญหาแรกคือ "บีอิน" ผู้ถือครองลิขสิทธิ์ถ่ายทอด พรีเมียร์ลีก ในแทบตะวันออกกลาง เป็นเวลา 3 ปี ใช้เงินไป 400 ล้านปอนด์ ได้ร้องเรียนว่า ซาอุคือโจร !! เนื่องจาก ถูกดูดสัญญาณถ่ายทอดสด ไปออกอากาศแบบฟรีๆ ในช่อง "บีเอ้าท์ คิว" (beoutQ) หลังถูกตัดความสัมพันธ์เพราะปัญหาทางการเมือง
ทุกอย่างที่ออกอาการ เหมือนกับ "บีอิน" แบบเป๊ะๆ อีกทั้งสปอนเซอร์ก็เป็นของ ซาอุดิอาระเบีย ทั้งหมด ทำให้ บือิน ขาดรายได้มหาศาล พอฟ้องร้องไปถึง ฟีฟ่า เรื่องก็เงียบ จนกระทั่งข่าวมาซื้อกิจการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นี่คือปัญหาแรกที่ทำให้ "ซาอุ พับลิค อินเวสท์เมนต์ ฟันด์" ยังไม่สามารถเทคโอเวอร์ นิวคาสเซิ่ล ได้เสียที
- ประเด็นสำคัญ เมื่อ เจ้าชาย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุฆาตกรรม
นี่คือเรื่องราวใหญ่โต ที่โลกกำลังจับตามอง จากคดี จามาล คาช็อกกี นักข่าวชื่อดัง ถูกฆาตกรรมปิดปากอย่างโหดเหี้ยม เมื่อปี 2018 เพราะนักข่าวคนนี้ สั่นคลอนรัฐบาลซาอุฯ กล้าลุกขึ้นมาเปิดโปงความลับแบบไม่เกรงกลัวหน้าไหน จนตัวต้องลี้ภัยไปที่ประเทศสหรัฐ อเมริกา แต่ก็ไม่รอดเงามัจจุราช ถูกทรมานก่อนจะเสียชีวิต ที่ประเทศตุรกี ว่ากันว่าผู้อยู่เบื้องหลังส่งทีมสังหารก็คือ เจ้าชาย โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ที่ถูกแฉนโยบายการปกครอง
ถึงแม้เรื่องราวจะยังไม่สามารถสืบได้แน่ชัด แต่กระนั้น ฮาทิซ เซนกิซ คู่หมั้นสาวของ คาช็อกกี ก็ได้ส่งคำร้องมาถึง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ผู้บริหาร นิวคาสเซิ่ล ว่าไม่ให้ดีลการเทคโอเวอร์นี้เกิดขึ้น ซึ่งเธอเดินเรื่องเรียกร้องมาตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน ที่ผ่านมา
ล่าสุด ริชาร์ด มาสเตอร์ส ผู้บริหารระดับสูงของ พรีเมียร์ลีก ยืนยันว่าได้รับเรื่องจากการร้องเรียนของ ฮาทิซ เซนกิซ ในคดีที่ "ซาอุ พับลิค อินเวสท์เมนต์ ฟันด์" มีส่วนพัวพันไว้แล้ว และ จะพิจารณาเรื่องการเทคโอเวอร์อย่างถี่ถ้วน ซึ่งประเด็นสำคัญนี้แหละครับ ที่ทำให้การซื้อกิจการยืดเยื้อ ไม่เสร็จสิ้นเสียที ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับพิษเศรษฐกิจจากโรคระบาด โควิด-19 แต่อย่างใด
