ฟุตบอลเป็นกีฬาที่มีบัญญัติไตรยางศ์ไร้ซึ่งความแน่นอน ลูกหนังใบกลมๆ คือเกมที่ยากจะคาดเดาถึงผลการแข่งขันแต่ละแมตซ์ ไม่มีใครมาทำนายล่วงหน้าว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ความสม่ำเสมอคือสิ่งสำคัญ
สำหรับนักเตะอาชีพ หากฟอร์มคงเส้นคงวา คุณได้โอกาสลงเล่นอย่างต่อเนื่อง หากวันใดฟอร์มตก เล่นดร็อปจากมาตรฐาน ทุกสิ่งทุกอย่างที่สร้างมาก็หายวับไปกับตาได้ทุกเมื่อเช่นกัน
โชคชะตาบางครั้งมักเล่นตลกกับคนฟุตบอล ยิ่งแวดวงลูกหนังไทย มักทำร้ายแข้งฝีเท้าดีมากมาย ทั้งที่เมื่อก่อนสตาร์ดังบางคนเคยเป็นแข้งเลื่องชื่อมีสโมสรรุมจีบ แตปัจจุบัน มีชื่อแต่ไร้บทบาทภายในทีมจนกลายเป็นส่วนเกิน
ขอบสนาม นำเสนอ 5 นักเตะมากดีกรีไทยลีก แต่กลับไร้โอกาสสัมผัสเกมบนฟลอร์หญ้า จนบางทีแฟนบอลคงลืมไปแล้วว่า อ้าวยังเล่นฟุตบอลอาชีพอยู่อีกหรอเนี่ย
ธนา ชะนะบุตร (การท่าเรือ เอฟซี)
นักเตะจอมพเนจรชาวขอนแก่น คือชื่อแรกที่เรานึกถึงในชาร์ตนี้ ใครจะไปคาดคิดละว่า ย้อนกลับไปปีเศษ “แมน” ยังมีชื่อรับใช้ทีมชาติไทย เป็น “ซุปเปอร์ซับ” จอมพลิกสถานการณ์ช่วงท้ายเกม ในยุคของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง คุมทีม พร้อมกับการลงสนามอย่างสม่ำเสมอให้แก่ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี
แต่จากนั้นชีวิตหน้ามือกลายเป็นหลังมือทันที กองหน้าความเร็วสูง ที่ร้องเพลงลูกทุ่งไพเราะเพราะพริ้ง เคยเป็นคนสำคัญของจเด็จ มีลาภ กลับถูกบดบังด้วยรัศมีของแข้งค่าตัวมหาศาล มากมายที่ตบเท้าสู่ชายคาแพท สเตเดี้ยม เช่น ดราแกน บอสโควิซ, นูรูล ศรียานเก็ม, บดินทร์ ผาลา ฯลฯ
ตำแหน่งตัวจริงของทีมสีแสด-น้ำเงิน ถูกตีตราจองโดยชื่อที่เอ่ยมาในข้างต้น สวนทางกับ ธนา ที่กำลังจะกลายเป็นแข้งผู้ถูกลืมเรื่อยๆ ซีซั่นนี้ดาวเตะวัย 33 ปี ไม่มีโอกาสลงสนามเกมไทยลีกเลยแม้แต่เกมเดียว สถานะตอนนี้เหมือนเป็นเพียงแค่ซ้อมไปวันๆ รอรับเงินเดือน
เกียรติประวุฒิ สายแวว (โปลิศ เทโร)
เซ็นเตอร์แบ็คที่ว่ากันว่าเขาคืออนาคตในนามทีมชาติไทย เมื่อ 10 ปีก่อน หลังพรวดพราดสู่สารบบตั้งแต่อายุ 19 ปี จากชลบุรี เอฟซี สู่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปคลับ บรูซ คัมแบ็คบ้านหลังเก่าสีเสื้อฉลามชล เพื่อฟื้นฟูความมั่นใจ แต่กลับกลายเป็นว่าเจ็บหนักซ้ำๆ ในที่สุดเชียงราย ยูไนเต็ด นำไปปัดฝุ่นใหม่
อย่างไรก็ดีจากชื่อเสียงเก่าๆ ที่สั่งสมมานาน สก็อตต์ คูเปอร์ โค้ชที่ถนัดใช้งานผู้เล่นส่วนเกินจากสโมสรอื่น ชักชวน “คาร์” มาร่วมทัพโปลิศ เทโร
ดาวเตะวัย 32 ปี ฝึกซ้อมได้หน้าประทับใจ ทว่าสิ่งเดียวที่หลายฝ่ายกังวล คืออาการบาดเจ็บ จน เกียรติประวุฒิ ไร้โอกาสลงสนามไทยลีก แม้แต่เกมเดียวจนถึงตอนนี้
ธัชกร (กีรติ) เขียวสมบัติ (นครราชสีมา เอฟซี)
สไตร์เกอร์ผู้ไม่เคยเป็นที่โปรดปรานสำหรับคอลูกหนังไทย เมื่อ 4-5 ปี คือนักเตะที่บรรดากุนซือในไทยลีก รวมถึงโค้ชต่างชาตินิยมใช้บริการเป็นประจำ เนื่องจากรูปร่างแข็งแกร่ง เปรียบเสมือนตัวชนค่อยปะทะกับกองหลังทีมฝั่งตรงข้าม
“เดอะป๊อป” เริ่มต้นค้าแข้งสโมสรทหารบก ตามด้วยทีโอที จากนั้นถูกชักชวนไปค้าแข้งกับบุรีรัมย์ พีอีเอ จนได้แชมป์ไทยลีก ไปผจญภัยกับวัวชน ยูไนเต็ด เป็นฮีโร่ของพีทีที ระยอง โยกมาเล่นให้ชลบุรี เอฟซี และ ขอนแก่น ยูไนเต็ด
กีรติ (ชื่อใหม่ธัชกร) ได้โอกาสครั้งสำคัญจากมิลอส โจซิค กุนซือนครราชสีมา เขาฝึกซ้อมรีดน้ำหนักเพื่อให้ร่างกายเฟิร์ม พร้อมสำคัญการโลดแล่นเวทีไทยลีก ทว่ากลับไม่ชนะใจโค้ชชาวเซิร์บ จนบางครั้งเหมือนไม่มีบทบาทในสโมสรเท่าที่ควร
โชคยังดีสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา “ป๊อป” เพิ่งได้สวมสตั๊ดโชว์ฝีเท้าไทยลีก เป็นเกมแรกในฤดูกาล 2018 ฐานะตัวสำรองเกมพ่ายแอร์ฟอร์ซ 0-1 ไม่งั้นคงถูกลืมไปว่าอยู่ในทีมโคราชแน่
เจษฎากรณ์ เหมแดง (อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด)
แบ็คขวาตัวสำรองของสุรีย์ สุขะ ในทีมชลบุรี เอฟซี “บัว” ปักหลักรับใช้ทีมดังทิศบูรพามายาวนาน 10 ปี ก่อนจะบ๊ายบายอู่ข้าวอู่น้ำเดิม เพื่อแสว่งหาโอกาสครั้งใหม่กับบางกอกกล๊าส, พีทีที ระยอง แต่ไม่มีทีมไหนที่ขยับสู่บทบาทตัวหลักของสโมสรได้เลย
เมื่อไทยลีกซีซั่นใหม่ เปิดฉาก เจษฎากรณ์ รู้ตัวไม่อยู่ในแผนการทำทีมของพีทีที ระยอง เขาจึงย้ายสํามะโนกลับมาบ้านเกิด เพื่อตอบรับข้อเสนอจาก อุบล ยูเอ็มที เนื่องจากคาดหวังที่จะเป็นกำลังสำคัญของสโมสรแห่งเมืองดอกบัว
แต่เอาเข้าจริง เจษฎากรณ์ กลับถูกรัศมีของ สุรีย์ สุขะ อดีตลูกพี่เก่าในทีมชลบุรี บทบังสนิท จนกลายเป็นแข้งส่วนเกินไร้บทบาทไปโดยปริยาย
ยุทธจักร์ ก้อนจันทร์ (เชียงราย ยูไนเต็ด)
มิดฟิลด์ผู้เป็นนักเตะระดับตำนานของวงการฟุตบอลวีลีก ของเวียดยาม กับสโมสร ฮองอันห์ยาลาย
“หนอน” คือนักเตะปิดทองหลังพระ สไตล์การเล่นฮาร์ดแมนตัดเกมได้ดุดัน จนคู่แข่งหวาดกลัว หลังหมดความท้าท้ายยังต่างแดน เขากลับมาแผ่นดินเกิดคว้าแชมป์ไทยลีกกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และ บุรีรัมย์ พีอีเอ อย่างละหนึ่งสมัย จากนั้นจึงโยกย้ายไปเล่นให้ชัยนาท, เชียงราย ยูไนเต็ด และราชนาวี
ก่อนออกสตาร์ทไทยลีก 2018 ยุทธจักร คัมแบ็คกลับมาเล่นให้เชียงราย ยูไนเต็ด เป็นคำรบที่ 2 แต่ด้วยวัยและอายุอานามที่เพิ่มขึ้น 35 ปี สถานะในทัพกว่างโซ้ง มันจึงเป็นเรื่องยากที่อดีตผู้เล่นขวัญใจแฟนบอลเจียงฮาย จะได้ทำหน้าที่คุมทีมในบทบาทอันคุ้นเคย เนื่องจากตำแหน่งกลางรับต้องใช้พลังกำลังมหาศาล แถมยังมีคลื่นลูกใหม่ อย่าง พิธิวัต สุขจิตธรรมกุล บัญชาการหน้าแผงหลังเชียงราย “หนอน” จึงมีบทบาทไม่ต่างจาก 4 แข้งที่กล่าวไว้ข้างต้น
เอ็มเร่
