logo-heading

น่าจะเป็นผู้ชายที่หล่อที่สุดคนนึงในชั่วโมงนี้ไปแล้สสำหรับ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า ภายหลังทำภารกิจนำมา ลีดส์ ยูไนเต็ด ให้กลับไปโบยบินยังศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในรอบ 16 ปีอีกครั้งได้สำเร็จ

ซึ่งตัวของ บิเอลซ่า เองก็เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งในช่วงซัมเมอร์ฤดูกาลก่อน และค่อยๆ ปรับเปลี่ยนทีมจนกระทั่งพาทีมบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ พร้อมพ่วงด้วยตำแหน่งแชมป์ศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพอีกด้วย ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราเลยจะพาไปรู้จักกับชายผู้นี้ให้มากขึ้น ว่าอดีตที่ผ่านเขาว่าเส้นทางสายกุนซือของเขาจะเป็นอย่างไรบ้าง ไปติดตามกันได้เลย

เส้นทางเริ่มต้น

ย้อนกลับไปสมัยที่ มาร์เซโล่ บิเอลซ่า เป็นนักเตะชื่อเสียงของเขาอาจไม่ได้โดดเด่น และเป็นที่รู้จักของแฟนบอลมากนัก โดยตลอดเส้นทางลูกหนังของเขาวนเวียนค้าแข้งอยู่ในลีกบ้านเกิดอย่าง อาร์เจนติน่า ทั้งสิ้น ก่อนที่จะมาประกาศแขวนสตั๊ดในช่วงปี 1980 ซึ่งตอนนั้นเขาเพิ่งมีอายุเพียง 25 ปีเท่านั้น  ซึ่งหลังจากประกาศหันหลังให้กับนักฟุตบอลอาชีพได้ประมาณ 10 ปี บิเอลซ่า ก็เลือกเดินเส้นทางสายกุนซืออย่างเต็มตัวกับอดีตต้นสังกัดของเขาอย่าง นีเวลส์ โอลด์ บอยส์ ก่อนที่จะโยกย้ายทำงานอยู่ในทวีปอเมริกาใต้อยู่นานกว่า 8 ปี เก็บเกี่ยวประสบการณ์จากหลายสโมสรไล่ตั้งแต่ แอตลาส (เม็กซิโก), คลับ อเมริกา (เม็กซิโก) และ เวเลซ ซาร์สฟิลด์ (อาร์เจนติน่า) ก่อนที่โอกาสครั้งสำคัญคือการมารับงานคุมทีมในแผ่นดินยุโรปครั้งแรกกับ เอสปันญ่อล  แต่ทว่าก็อยู่ในตำแหน่งได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น เพราะผลงานต่ำเตี้ยเรี่ยดินเหลือเกินเก็บชัยชนะเพียง 2 นัด จากโอกาสคุมทีม 10 นัด เท่านั้น marcelo bielsa - argentina

ความสำเร็จกับทัพ 'ฟ้า-ขาว'

ภายหลังต้องประสบพบเจอกับความล้มเหลวเมื่อได้โอกาสโบยบินไปทำงานในยุโรป ทำให้ บิเอลซ่า กลับมาเริ่มต้นใหม่ในทวีปบ้านเกิด และรับใช้บ้านเกิดอย่างทีมชาติอาร์เจนติน่า ในช่วงปี 1998 ซึ่งที่แห่งนี้เขาทำงานแบบยาวนานกว่า 6 ปี ถึงแม้จะไม่ประสบความสำเร็จในแง่ของโทรฟี่รางวัล แต่เขาก็ได้วางรากฐานหลายๆ อย่างให้กับทีม  ส่วนผลงานชิ้นโบแดงของ บิเอลซ่า กับทัพ "ฟ้า-ขาว" คือการคุมทีมลุยทัวร์นาเมนต์โอลิมปิกเมื่อปี 2004 และคว้าเหรียญทองมาห้อยคอได้สำเร็จ ซึ่งในทีมชุดนั้นต่างเต็มไปด้วยสตาร์ดังหลายคนที่อยู่ในคาถาของเขาไม่ว่าจะเป็น คาร์ลอส เตเบซ, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, กาเบรียล ไฮน์เซ่ หรือ โรแบร์โต้ อยาลา  และอีกหนึ่งสถิติที่ผู้คนผู้ถึงกันมากตลอดเส้นทางการความสำเร็จคือการไม่เสียประตูตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ พร้อมกระซวกตาข่ายไปได้มากถึง 17 ประตู จากการลงเล่น 6 นัด ซึ่งนี่แหละเลยเป็นเหมือนรายการที่ทำให้โลกของลูกหนังเริ่มหันมามองชายผู้นี้มากยิ่งขึ้น เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องของผลงานในสนาม แต่มันคือเรื่องของแท็คติก เทคนิค และการกระตุ้นลูกทีมให้สู้ในแนวทางของเขา

ไปที่ไหนก็มีแต่คนรัก

ภายหลังก้าวลงจากเก้าอี้กุนซือทีมชาติอาร์เจนติน่า บิเอลซ่า ได้โอกาสพักผ่อนแบบยาวๆ ถึง 3 ปีเต็ม ก่อนที่จะหวนกลับเข้ามาสู่วงการอีกครั้ง ซึ่งการกลับมาคราวนี้เรียกได้ตะลอนไปทั่วไล่ตั้งแต่ ทีมชาติชิลี, แอธ.บิลเบา, โอลิมปิก มาร์เซย, ลาซิโอ (อยู่ในตำแหน่ง 2 วัน ก่อนที่จะลาออก), ลีลล์ และล่าสุดกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด โดยตลอดเส้นทางที่ผ่านมา บิเอลซ่า ได้สร้างหลายเรื่องราวดีๆ ให้แก่แฟนบอลของสโมสรนั้นๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมความประทับต่อนักฟุตบอลที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับเขาถึงแม้ลูกบ้าของเจ้านายคนนี้จะมีอยู่เต็มกระเป๋าทั้งซ้อมหนัก ซ้อมเข้มข้น และทำอะไรแบบเดิมๆ แต่สิ่งเหล่านั้นที่เขาลงมือทำก็เพราะความเอาใจใส่ และเพื่อที่จะดึงศักยภาพของลูกทีทุกคนออกมาให้ได้มากที่สุด  และแน่นอนถึงแม้รูปแบบการฝึกซ้อมจะโหดเหี้ยมแต่เราไม่เคยเห็นนักฟุตบอลคนไหนออกมาพูดให้ร้าย หรือต่อต้านกับระบบของ บิเอลซ่า ที่ตั้งขึ้นมา ก็เพราะแบบนี้ไงทำให้ไปไหนก็มีแต่คนรัก "สไตล์การเล่นของผมไม่ได้ดี หรือแย่กว่าของคนอื่นๆ แต่นั่นมันคือแนวทางที่ผมเชื่อมั่นมาตลอด, ชีวิตนักฟุตบอลมีอยู่ 3 สิ่งคือ หัวใจ ความคิด และขา คุณไม่อาจเชื่อมั่นในตัวลูกทีมได้เลย จนกว่าคุณจะเชื่อมั่นกับสิ่งที่คุณพูดออกไป" ส่วนหนึ่งของบทสัมภาษณ์ บิเอลซ่า เมื่อครั้งรับงานคุม ลีดส์ ยูไนเต็ด marcelo bielsa - Leed

สไตล์ฟุตบอล ที่เป็นคุณครูของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

ถ้าจะพูดถึงสไตล์ฟุตบอลที่ดูสวยงาม และเพลิดเพลินในยุคนี้เชื่อว่าหนึ่งในตัวเลือกของแฟนบอลน่าจะ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อย่างแน่นอน ซึ่งบรมครูที่ เป๊ป คอยศึกษา และนำมาปรับใช้ก็คือชายที่ชื่อ บิเอลซ่า คนนี้นี่แหละ เพราะฟุตบอลสไตล์ บิเอลซ่า คือการต่อบอลสั้น ค่อยๆ เซ็ตเกมขึ้นมาจากแผงหลัง และที่สำคัญฟุตบอลมันคือความสวยงาม แน่นอนทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นจากมันสมองของเขาคนนี้ "ผมชื่นชม มาร์เซโล่ บิเอลซ่า เป็นอย่างมาก เพราะเขาทำให้ดีขึ้น และดีขึ้นเรื่อยๆ ผมไม่เคยเห็นใคร หรืออดีตลูกทีมของ บิเอลซ่า ออกมาพูดไม่ดีเกี่ยวกับตัวเขาเลย ทุกคนต่างพากันชื่นชม และยกย่องว่ามีอิทธิพลต่อเส้นทางค้าแข้ง" "เขาให้คำแนะนำกับผม เมื่อผมได้โอกาสพูดคุยกับเขา ผมรู้สึกว่าเขาอยากจะช่วยผมในทุกๆ ครั้ง" เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กล่าวถึงคุณครูอันที่เป็นเคารพของเขา

ความสำเร็จไม่ใช่อิทธิพลต่อเกมลูกหนัง

เชื่อว่าแฟนบอลหลายคนอาจจะสงสัยว่า บิเอลซ่า กับเส้นทางกุนซือประสบความสำเร็จ ของคว้าแชมป์อะไรมาครองได้บ้างแล้วหรอ ? คำตอบมันอาจจะสั้นน้อยนิดเพียงเหรียญทองโอลิมปิกกับทีมชาติอาร์เจนติน่า แล้วก็พา นีเวลส์ โอลด์ บอยส์ คว้าแชมป์ลีกอาร์เจนตินาเมื่อปี 1991 เท่านั้น ส่วนที่เหลือพอจะเชิดหน้าได้ก็คือการพา แอธ.บิลเบา เข้าชิงยูโรปาลีก เมื่อฤดูกาล 2011-12 เท่านั้น แต่ทว่าความสำเร็จมันไม่อาจวัดประสิทธิภาพของคนเราไปได้เสียทุกอย่าง เฉกเช่นกับ บิเอลซ่า แต่มันคือการทรงอิทธิพลในเรื่องของการคุมทีม และเป็นคนที่ลูกทีมพร้อมที่จะสู้แบบถวายหัวเพื่อความสำเร็จของเจ้านาย เหมือนกับที่ครั้งหนึ่ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เคยพูดถึงเรื่องนี้ไว้ว่า  "มันไม่ได้สำคัญเลยว่าเขา (บิเอลซ่า) จะมีแชมป์ติดมือมาแล้วมากน้อยขนาดไหน คนเรามักตัดสินคนอื่นจากเรื่องแบบนั้น ความสำเร็จที่มี จำนวนแชมป์ที่ได้ แต่นั่นก็ไม่เท่ากับการที่เขามีอิทธิพลต่อเกมฟุตบอล ต่อนักเตะภายในทีมของเขา ซึ่งนั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมเขาถึงเป็นกุนซือที่สุดแสนพิเศษ และเขาคือกุนซือที่ดีที่สุดในโลกสำหรับผม"

- PAOLINHO (เปา ขอบสนาม) -

logoline