บอลไทยเดอะซีรีส์ สัปดาห์นี้เป็นเรื่องของผลงานสโมสรจากประเทศไทย กับการลงเตะฟุตบอลถ้วยใหญ่ของเอเชีย ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยวันนี้เราจะย้อนเรื่องราวแชมป์เอเชียของสโมสรธนาคารกสิกรไทย
ฟุตบอลถ้วยใหญ่ของเอเชียในระดับสโมสรอย่างเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก มีอายุยาวนานกว่า 53 ปี ซึ่งริเริ่มมาตั้งแต่ปี 1967 หรือ พ.ศ.2510 ในชื่อแรกคือ เอเชียแชมป์เปี้ยนคลับทัวร์นาเมนต์ หรือฟุตบอลสโมสรชิงแชมป์เอเชีย
ในครั้งแรกที่มีการจัดการแข่งขันมีตัวแทนแชมป์จากประเทศต่างๆ แค่ 8 ประเทศเท่านั้น เพราะฟุตบอลยังไม่ได้เป็นลีกอาชีพเหมือนทุกวันนี้
แต่ที่น่าสนใจก็คือ ตั้งแต่ครั้งแรกที่มีการแข่งขัน สโมสรจากไทย ก็เป็นหนึ่งในทีมที่ได้ร่วมฟาดแข้งกับเขาด้วย โดยทีมแรกก็คือ สโมสรธนาคารกรุงเทพ ซึ่งก็ได้ลงสนาม 2 นัด รอบแรกชนะเซาท์ ไชน่า จากฮ่องกง 2-1 ส่วนรอบสองไปแพ้ เซลังงอ จากมาเลเซีย 1-0 ทำให้ตกรอบไป
การแข่งขันถูกจัดขึ้นอีกครั้งในปี 1969 หรือ พ.ศ.2512 โดยไทยเรารับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ ซึ่งธนาคารกรุงเทพ ยังคงยืนหนึ่งในการเป็นตัวแทนจากไทยไปร่วมแข่งขัน ซึ่งครั้งนี้มีทีมเข้าร่วมแข่งขันเพิ่มเป้น 10 ทีม โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม แข่งแบบพบกันหมด
โดยผลงานของทีมธนาคารกรุงเทพ ก็ยังไปไม่ถึงฝัน เก็บได้ 4 คะแนน จากการชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 1 ซึ่งสมัยนั้นชนะได้ 2 คะแนน สุดท้ายก็ตกรอบแรกไป
จากนั้นทีมจากไทยก็ยังคงได้ไปร่วมแข่งขันอยู่เรื่อยๆ นอกจากธนาคารกรุงเทพ ก็ยังมีสโมสรตำรวจ, สโมสรทหารอากาศ ,สโมสรการท่าเรือแห่งประเทศไทย แต่ส่วนใหญ่ก็จะตกรอบแรก หรือรอบสอง ยังไม่มีทีมไหนที่ผ่านเข้าไปรอบลึกๆ ได้
วันเวลาผ่านไปการแข่งขันรายการนี้ก็เปลี่ยนชื่อมาเป็นเอเชี่ยน คลับ แชมเปี้ยนชิพ ซึ่งก็คือฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย นั่นแหละ แต่ก็มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขัน รวมทั้งจำนวนทีมที่มาโม่แข้ง ก้มีการเพิ่มจำนวนขึ้น เพื่อให้การแข่งขันน่าสนใจและเป็นสากลเหมือนกับฝั่งยุโรป
ตัดตอนมาที่ไฮไลท์สำคัญในปี 1993-1994 หรือ พ.ศ.2536-2537 ปีที่สโมสรจากไทยได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ให้วงการลูกหนังเอเชีย กับการคว้าแชมป์เอเชีย ครั้งแรกของสโมสรจากประเทศไทย ซึ่งสโมสรที่ว่านั่นก็คือ สโมสรธนาคารกสิกรไทย
โดยทีมรวงข้าวเป็นแชมป์ลีกของไทย ซึ่งตอนนั้นถือเป็นทีมชั้นนำ และเป็นเบอร์หนึ่งของประเทศ นักเตะดังๆ ในชุดนั้นก็มีอย่าง นิพนธ์ มาลานนท์ ผู้รักษาประตูทีมชาติ, สะสม พบประเสริฐ, วรวุธ ศรีมะฆะ และ เนติพงษ์ ศรีทองอินทร์
โดยครั้งนั้นมีทีมเข้าร่วมถึง 20 ทีม ซึ่งแชมป์ไทยลีกอย่างกสิกรไทย ต้องไปเริ่มเตะตั้งแต่รอบคัดเลือก แต่ดชคดีที่ ปาหัง เอฟซี ของมาเลเซีย นั้นถอนตัวออกไป ทำให้เราได้ชนะบายเข้ามา
จากนั้นรอบที่ 2 กสิกรไทย ต้องมาพบกับ อริมา มาลัง ทีมแชมป์จากอินโดนิเซีย เล่นแบบ 2 นัดเหย้า-เยือน ซึ่งเกมแรกเราบุกไปเสมอมา 2-2 ก่อนจะมาตบในบ้านได้ 4-1 รวม 2 นัดชนะ 63 ได้ผ่านเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ
โดยในรอบก่อนรองชนะเลิศ ตอนนั้นมี 6 ทีม แบ่งเป็นสองกลุ่ม และยกพลมาเตะกันที่ประเทศไทย โดยกสิกรไทยอยู่ร่วมสายกับ เลี่ยวหนิง จากจีน และ อัลมูฮารัก จากบาห์เรน ซึ่งทำได้แค่เสมอทั้งสองนัด แต่ก็เพียงพอที่จะเข้าสู่รอบตัดเชือกและไปชนะเวอร์ดี้ คาวาซากิ จากญี่ปุ่น ในการดวลจุดโทษ ได้ลอยลำเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศอย่างพลิกความคาดหมาย
และในรอบชิงก็เอาชนะโอมาน คลับ ไปได้ 2-1 คว้าแชมป์สโมสรเอเชียได้อย่างยิ่งใหญ่ ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมากๆ
และจากการคว้าแชมป์ในครั้งนั้นก็ทำให้ธนาคารกสิกรไทย ได้เป็นตัวแทนของทวีปเอเชียลงเตะฟุตบอลแอฟโร่-เอเชีย ซึ่งเป็นการเอาแชมป์สโมสรเอเชียมาเจอกับแชมป์สโมสรของทวีปแอฟริกา ซึ่งก็คือ "ซามาเล็ค" จากประเทศอียิปต์
โดยเล่นกัน 2 นัดเหย้า-เยือน โดยทีมรวงข้าวต้องเดินทางไกลไปเตะถึงกรุงไคโรและแพ้มาก่อนในนัดแรก 2-1 แต่ก็กลับมาชนะในบ้าน 1-0 ทำให้รวมผล 2 นัด เสมอ 2-2 แต่ทีมกสิกรไทยก็ได้แชมป์ด้วยกฎอเวย์โกล ซึ่งถือเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ที่ทีมรวงข้าวสามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลสองทวีปได้
และไม่เพียงเท่านั้นในฤดูกาลถัดมา สโมสรกสิกรไทย ก้ยังสามารถป้องกันแชมป์รายการนี้ได้อีกสมัย เรียกได้ว่าครองความเป็นเจ้าเอเชียได้ถึง 2 ปีติดต่อกัน นั่นถือเป็นจุดสูงสุดของสโมสรจากประเทศไทยกับแชมป์ในระดับเอเชีย ซึ่งสโมสรกสิกรไทยถือเป็นทีมแรกและทีมเดียวที่เคยทำได้
จากนั้นก็มีอีกทีมที่เข้าใกล้กับการจะเป็นแชมป์มากที่สุด นั่นก็คือ บีอีซี เทโร ศาสน ซึ่งจะนำเสนอในตอนต่อไปของบอลไทยเดอะซีรีส์ โปรดรอติดตาม
