logo-heading

กลับมาติดตามกันต่อกับผลงานของสโมสรไทยในศึกฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก โดยวันนี้จะเป็นเรื่องราวของ "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" กับการผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายเมื่อฤดูกาล 2013 

บอลไทยเดอะซีรีส์ ในสัปดาห์นี้เป็นเรื่องราวของผลงานสโมสรจากไทยในการไปลงฟาดแข้งในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยก่อนหน้านี้เราได้ติดตามเรื่องราวของสองสโมสร อย่าง สโมสรธนาคารกสิกรไทย กับแชมป์ 2 สมัย เมื่อปี 1993-1994 และ 1994-1995 และ บีอีซี เทโร ศาสน กับการคว้ารองแชมป์เมื่อฤดูกาล 2002-2003 โดยในวันนี้จะเป็นเรื่องราวของทีม "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ถือเป็นสโมสรจากไทยที่ไปได้ไกลที่สุดแล้วนอกจากสองทีมแรก นั่นก็คือการทะลุเข้าไปถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกเอเอฟซี ชปล. เมื่อฤดูกาล 2013 โดยหลังจากที่ทีมบีอีซี เทโรฯ ได้ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ แล้วอกหัก หลังจากนั้นก็ไม่มีสโมสรจากไทยที่ทะลุผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศได้อีกเลย แม้กระทั่งจะผ่านเข้าสู่รอบสองก็ยังไม่มีเช่นกัน เพราะส่วนใหญ่ก็จะพาเหรดตกรอบแรกกันหมด ซึ่งมีหลายสโมสรที่ได้ไปลงเตะเอเอฟซี ชปล. อย่าง ม.กรุงเทพ, ทีทีเอ็ม, ชลบุรี, การไฟฟ้า ไปก็โดนเชือดกันหมด จนมาถึงฤดูกาล 2009-2011 ทีมแชมป์ไทยลีก ไม่ได้เข้าร่วมโดยอัตโนมัติแล้ว เนื่องจากผลงานไม่ดี โดยจะต้องไปลงเตะรอบคัดเลือกก่อน ซึ่งทีมอย่างการไฟฟ้า, เมืองทอง, ที่ได้ไปเพล์ออฟ ก็พากันตกรอบหมด ไม่ได้ลงเล่นรอบสุดท้าย ทีมจากไทย ได้เข้าไปเล่นรอบสุดท้ายอีกครั้ง คือในฤดูกาล 2012 หลังจากที่เอเอฟซี มีการเพิ่มโควต้าให้แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก ได้สิทธิ์อัตโนมัติในการลงเล่นรอบแบ่งกลุ่มทันทีนั่นคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งปีแรกของทีมปราสาทสายฟ้าในการตะลุยถ้วยเอเชีย ก็ไม่สวยหรูเท่าไหร่ เมื่อต้องอยู่ร่วมสายกับกว่างโจว เอเวอร์แกรนด์, คาชิว่า เรย์โซล และ ชุนบุค ฮุนได ทีมดังจากเอเชียทั้งนั้น รวมผลงานสโมสรไทยในถ้วยเอเชีย EP.3 บุรีรัมย์ กับรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่ถึงกระนั้นทีมแชมป์ไทยลีกของไทย ก็สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเปิดหัว 2 เกมแรก เก็บ 6 คะแนนเต็ม ด้วยการเปิดบ้านชนะ คาชิว่า เรย์โซล จากญี่ปุ่น 3-2 และบุกชนะกว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ ของมาเซลโล่ ลิปปี้ 2-1 ในยุคของ แฟรงค์ อาชิมปง และ ฟรองด์ โออองด์ซ่า สองคู่หูมหากาฬของทีมสายฟ้า แต่หลังจากนั้น 4 นัดสุดท้าย ดันไปแพ้รวด ตกรอบแรกไปในฐานะบ๊วยของกลุ่ม แต่ก็ถือเป็นปีแรกที่ยอดเยี่ยมของบุรีรัมย์ ที่ตอนนั้นคุมทัพโดย โค้ชแต๊ก อรรถพล ปุษปาคม ปีต่อมา ฤดูกาล 2013 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้กลับมาเตะ ACL อีกครั้ง แต่ครั้งนี้มาในฐานะแชมป์เอฟเอ คัพ ต้องไปเตะรอบคัดเลือก และเพลย์ออฟก่อน แต่สุดท้ายบุรีรัมย์ ก็ฝ่าด่านหินมาได้ ด้วยการเอาชนะจุดโทษบริสเบน โรว์ จากออสเตรเลีย มาได้ ทำให้ได้ลงเล่นรอบแบ่งกลุ่ม ซึ่งในปีนั้นทีมจากไทยได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายถึง 2 ทีม อีกทีมก็คือเมืองทองฯ ยูไนเต็ด ที่ได้แชมป์ไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อฤดูกาล 2012 มาแบบไร้พ่าย ในยุคของ สลาวิซ่า โยคาโนวิช แต่ผลงานของเมืองทองในรอบแบ่งกลุ่ม นั้นไม่ดีเท่าไหร่ พวกเขาไม่ชนะใครเลย เสมอ 1 แพ้ 5 เก็บได้ 1 คะแนน ต้องตกรอบแรกไป ผิดกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ได้มาลงเตะรายการนี้เป็นครั้งที่สอง พวกเขาสามารถผ่านเข้ารอบแรกไปได้ และสร้างประวัติศาสตร์ให้กับทีมจากสโมสรไทยอีกครั้ง โดยผลงานก็ไม่ได้ดีอะไรมาก เพียงแต่ว่ามีดชคเจ้ามาช่วย ทำให้ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ไปได้ โดยในรอบแบ่งกลุ่ม บุรีรัมย์ ชนะได้เพียงนัดเดียวเท่านั้น ที่เหลือเสมอ 4 และแพ้ไป 1 นัด เก็บได้ 7 คะแนน เท่ากับเจียงซู เสินตี่ จากจีน ซึ่งแชมป์กลุ่มเป็นเอฟซี โซล จากเกาหลีใต้ที่เก็บได้ 11 คะแนน คราวนี้ บุรีรัมย์ กับ เจียงซู ต้องมาวัดเฮดทูเฮดกัน ปรากฏว่าเฮดทูเฮด ก็เท่ากันอีก เพราะต่างฝ่ายต่างชนะในบ้าน 2-0 เท่านั้น คราวนี้ก็ต้องมาดูประตูได้เสีย ซึ่งบุรีรัมย์ ดีกว่า ได้ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมไปอย่างน่าเหลือเชื่อ รวมผลงานสโมสรไทยในถ้วยเอเชีย EP.3 บุรีรัมย์ กับรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่หลังจากที่ผ่านเข้ารอบได้ ก็มีดราม่า ปลดโค้ชแต๊กออกจากตำแหน่งเฮดโค้ช ชนิดฟ้าฝ่า ทั้งๆ ที่ทีมเพิ่งจะแข่งขันจบในเกมบุกไปเยือนเอฟซี โซล และโค้ชแต๊กก็ต้องบินเดี่ยวแยกกลับมาเมืองไทยทันที ซึ่งเรื่องนี้เราคงไม่เจาะลึกอะไรมาก เอาเป็นว่ากลังจากนั้นบุรีรัมย์ ก็ให้ สก็อต คูเปอร์ ที่ดูแลอคาเดมี่ของทีมขึ้นมาคุมทัพชั่วคราว โดยหลายคนมองว่าการเข้ารอบไปแบบกระท่อนกระแท่น และมีการเปลี่ยนโค้ชกลางคันแบบนี้ของทีมเซราะกราว คงไปได้ไม่ไกล และน่าจะจอดรอบหน้าคือรอบ 16 ทีมเท่านั้น แต่ที่ไหนได้ บุรีรัมย์ ของ สก็อต คูเปอร์ กลับหักปากการเซียน ด้วยการเอาชนะ บุนยอดกอร์ ยอดทีมจากอุซเบกิสถานไปได้ สกอร์รวม 2 นัดชนะ 2-1 และกุนซือชาวอังกฤษ ก็ได้สัญญาถาวร 3 ปีในถิ่นธันเดอร์คาสเซิ่ล ซึ่งการผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ครั้งนั้นถือเป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลไทย เพราะนี่คือการทะลุเข้าถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ได้เป็นครั้งแรกของสโมสรไทย ในการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก แบบใหม่ ที่เป็นสากล และมันยากกว่าเมื่อครั้งอดีตมากๆ นี่จึงเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมของทีมสายฟ้าในถ้วยเอซีแอล และหลายคนก็เอาใจช่วยให้บุรีรัมย์ ชนะในรอบต่อไปเพื่อเข้าถึงรอบรองชนะเลิศให้ได้ รวมผลงานสโมสรไทยในถ้วยเอเชีย EP.3 บุรีรัมย์ กับรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่สุดท้ายปาฏิหาริย์ก็ไม่เกิดขึ้น เพราะบุรีรัมย์ ต้องไปเจอกระดูกชิ้นโตอย่างเอสเตกัล ยอดทีมจากอิหร่าน ซึ่งสุดท้ายก็แพ้ไปสกอร์รวม 3-1 ปิดฉากเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2013 ไว้แค่รอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่ก็ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมากๆ เพราะมาถึงวันนี้ก็ยังไม่มีทีมไหนไปได้ไกลกว่านี้อีกเลย 
logoline