ก่อนถึงมือ พูลิซิช!เช็คผลงานเบอร์ 10 เชลซี ตั้งแต่ปี 2000

เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า เจ้าของหมายเลข 10 ของ เชลซี ภายใต้การคุมทีม แฟร้งค์ แลมพาร์ด จะถูกสวมใส่โดย คริสเตียน พูลิซิช แนวรุกตัวจี๊ดทีมชาติสหรัฐ อเมริกา ซึ่งกำลังทำผลงานได้อย่างโดดเด่น หลังจากใช้เวลาปรับตัวมาสักระยะ กับการย้ายมาวาดลวดลายให้กับ สิงห์บลูส์ เป็นฤดูกาลแรก

การเลือกย้ายมารับสัมปทานเบอร์ 10 นับว่ามีความกดดันพอสมควร เพราะรุ่นพี่หมายเลขนี้ ก็ฝากผลงานเอาไว้อย่างยอดเยี่ยม บางคนขึ้นหิ้งระดับตำนาน แต่กระนั้นก็มีบางคนล้มเหลวไม่เป็นท่า เอาเป็นว่าลองไปเช็คผลงานอดีตดาวเตะสิงห์บลูส์ ที่สวมหมายเลข 10 กันว่า ใครปัง ใครพัง บ้าง นับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2000

6. สลาวิซ่า โยคาโนวิช : (2000/01 - 2001/02)

สลาวิซ่า โยคาโนวิช ชื่อนี้แฟนบอลบ้านเรา โดยเฉพาะ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด คงรู้จักเป็นอย่างดี เพราะเคยมาคุมทัพ "กิเลนผยอง" อยู่ 1 ซีซั่น ก่อนจะไปโด่งดังกับ วัตฟอร์ด และ ฟูแล่ม แต่กระนั้นก่อนที่ "ย็อคก้า" จะก้าวมารับบทบาทกุนซือ เขาเคยเป็นอดีตนักเตะ เชลซี มาก่อน และ สวมหมายเลข 10 ให้กับ สิงห์บลูส์ มาแล้วด้วย อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งของ โยคาโนวิช ไม่ใช่พวกจอมทัพ แต่เป็นบทบาทของมิดฟิลด์ตัวรับ เสียมากกว่า และ มาอยู่กับทีมก็อายุ 32 ปี เข้าไปแล้ว ผลงานของเขาได้ลงถึง 53 นัด ตลอด 2 ฤดูกาลก็จริง แต่ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน พร้อมกับถูกลืมเลือนไปแล้วด้วยซ้ำ ว่าเขาเคยอยู่ เชลซี และ สวมหมายเลข 10 มาก่อน พอหมดสัญญาในอีก 2 ซีซั่น ต่อมาก็ตัดสินใจรีไทร์ โดยเคยมีช่วงสั้นๆที่กลับมาค้าแข้ง ก็มีอันต้องเลิกเล่นไป

5. โจ โคล : (2003/04 - 2009/10)

หลังจากที่ ย็อคก้า ออกจากทีมไป เบอร์ 10 ของ เชลซี ก็ว่างอยู่ 1 ซีซั่น ก่อนจะเป็น โจ โคล ดาวรุ่งพุ่งแรง เข้ามารับสัมปทานหมายเลขดังกล่าวในถิ่นสแตมฟอร์ด บริจด์ ในฤดูกาล 2003-04 ช่วงนั้น โคล จี๊ดจ๊าดมาก เด็กหนุ่มวัย 22 ปี กำลังห้าวเป้ง และ กลายมาเป็นหนึ่งในแข้งขวัญใจของสาวก "เดอะ บลูส์" ในยุครุ่งเรืองความสำเร็จ โจ โคล ใช้เวลาค้าแข้งกับ "สิงโตน้ำเงินคราม" อยู่ถึง 7 ซีซั่น เป็นอีกหนึ่งคีย์แมนช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย และ ลีก คัพ อีก 1 สมัย โดยยิงไป 40 ประตู พร้อมกับแอสซิสต์อีก 42 ครั้ง จากการลงสนาม 281 นัด โคล ถือเป็นนักเตะหมายเลข 10 ของ เชลซี ที่ประสบความสำเร็จมากคนหนึ่ง แต่น่าเสียดาย ด้วยอาการบาดเจ็บตามมาเล่นงานไม่หยุด ทำให้เขาถูกลดบทบาทลงไป ออกจากทีมแบบไม่มีค่าตัวในปี 2010 และ ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล แบบฟรีๆ ในเวลาต่อมา

4. ยอสซี่ เบนายูน (2010/11)

ยอสซี่ เบนายูน เหมือนเป็นการย้ายสลับขั้วกับดีลของ โจ โคล โดยจาก ลิเวอร์พูล ย้ายมาอยู่กับ เชลซี พร้อมกับเสียบหมายเลข 10 ทันที ถึงแม้ ยอสซี่ เบนายูน จะไม่ได้โด่งดังระดับโลก แต่ผลงานของเขาสมัยอยู่กับ หงส์แดง นับเป็นที่น่าประทับใจ การได้เบอร์นี้ไปครอง ก็ถือว่าเป็นการพิสูจน์ตัวเองให้แฟนบอลเห็นอีกครั้ง ถึงกระนั้น ความแน่นอน คือความไม่แน่นอน เพราะ เบนายูน เป็นหนึ่งในเหล่านักเตะหลายๆคนที่สาวก สิงห์บลูส์ คิดในใจว่า "จะซื้อมาทำไมวะ" เนื่องด้วยอดีตดาวเตะ อิสราเอล ได้ลงแค่ 10 นัด ยิงได้เพียง 1 ประตู ถ้าซื้อมาแล้วไม่ใช้ ไปหาตัวอื่นเสียดีกว่า ด้วยความที่ เบนายูน ไม่อาจปรับตัวกับ เชลซี ได้เลย และ กลายเป็นตัวสำรองแบบผุดไม่ขึ้น จากนั้นเพียงแค่ซีซั่นเดียวที่ย้ายมาอยู่กับ เชลซี เขาก็ต้องเสียหมายเลข 10 ทันที ไปให้กับ ฆวน มาต้า เพราะตัวเองไม่ได้มีความสำคัญใดๆอีกแล้ว ก่อนจะเลือกย้ายไปอยู่กับ อาร์เซน่อล แบบยืมตัว ในซีซั่น 2011-12

3. ฆวน มาต้า (2011/12 - 2013/14)

หนึ่งในการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดของ เชลซี ในรอบ 10 ปีหลังสุด ก็คือ ฆวน มานูเอล มาต้า ที่ไปคว้าตัวมาจาก บาเลนเซีย ด้วยค่าตัวราวๆ 23.5 ล้านปอนด์ โดยใช้เวลาเพียงไม่นาน ก็พิสูจน์ให้เห็นว่า เขานี่แหละคู่ควรกับหมายเลข 10 ของจริง ในทัพ สิงห์บลูส์ เพราะเพียงแค่นัดแรกที่ลงสนามเป็นสำรอง ก็ซัลโวประตูได้ทันที ฆวน มาต้า เข้าไปนั่งในใจแฟนๆ เชลซี ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการทำผลงาน 33 ประตู กับอีก 58 แอสซิสต์ ในการลงสนาม 135 นัด มีส่วนสำคัญกับการพาทีมคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, ยูโรปา ลีก และ เอฟเอ คัพ ถึงขั้นที่ได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรถึง 2 ปีซ้อน แสดงให้เห็นว่านี่คือตำนานเบอร์ 10 ของทีม อย่างไรก็ตาม อนาคตของ มาต้า ในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็ดับวูบลงไป ในฤดูกาลที่ 3 กับ เชลซี หลังจากเปลี่ยนกุนซือมาเป็น โชเซ่ มูรินโญ่ จากเคยลงเป็นตัวจริง ต้องนั่งตูดด้านข้างสนาม สุดท้ายทนไม่ไหวต้องย้ายไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วงต้นปี 2014 สร้างความช็อคให้กับแฟนๆ เชลซี ว่าทำไม น้ามู ถึงตัดสินใจขายนักเตะดีๆออกจากทีม

2. เอแด็น อาซาร์ (2014/15 - 2018/19)

การขาย มาต้า อาจจะเป็นอะไรที่ดูโง่เง่า แต่กระนั้นเรื่องราวความเสียใจ หรือ ความเสียดาย ก็ค่อยๆเลือนลางหายไป เพราะคนที่เข้ามาสานตำนานเบอร์ 10 ต่อจากดาวเตะชาวสแปนิช คือ เอแด็น อาซาร์ "เดอะ แบก" ที่เป็นทุกอย่างให้กับสโมสรแห่งนี้ ถ้าพูดถึงชื่อของ อาซาร์ ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากความอีกแล้ว เพราะคุณภาพฝีเท้า, ความสำเร็จ หรือ ลีลาต่างๆ จะลอยเข้าในความคิดทันที อยู่กับทีมมา 7 ซีซั่น และ มาเป็นจอมทัพแบบเต็มตัวในการสวมเบอร์ 10 ก่อนฤดูกาล 2014-15 จะเริ่มขึ้น หลังจาก่อนหน้านี้เคยใส่หมายเลข 17 อาซาร์ สถาปนาตัวเอง เป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของโลก เขาแบก เชลซี ไว้บนบ่า ดั่งวลีที่ว่า "คิดอะไรไม่ออก ให้บอก อาซาร์" ยิงประตูเป็นว่าเล่น 110 ประตู พร้อมทำอีก 92 แอสซิสต์ คิดดูว่าสำคัญขนาดไหน โดยเสกแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มา 2 สมัย และ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของ พีเอฟเอ ได้ 1 ครั้ง แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา อาซาร์ ต้องการย้ายทีม ไปตามหาความฝันกับ เรอัล มาดริด ถึงแม้ในปีที่ เชลซี ไม่ต้องการปล่อย เขาก็ไม่เคยแสดงอาการงอแง หรือ ทำตัวไม่เป็นมืออาชีพ ต่อให้วันนี้ตัวจะจากไปอยู่กับ "ราชันชุดขาว" แล้ว แต่ชื่อของเขาจะกลายเป็นตำนาน "สิงห์บลูส์" ตลอดไป

1. วิลเลี่ยน (2019/20)

วิลเลี่ยน เป็นนักเตะที่อยู่กับ เชลซี มานาน มีวันพระศุกร์เข้า พระเสาแทรก วันไหนดี ก็ดีใจหาย วันไหนแย่ ก็กลายเป็นแพะรับบาป แต่สิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ได้ คือเขาทุ่มเทให้กับสโมสรเสมอมา ซึ่งในวันที่ "สิงห์บลูส์" ไม่มี เดอะ แบก อย่าง อาซาร์ เขาก็พยายามจะก้าวขึ้นมาช่วยทีมให้ดีที่สุด วิลเลี่ยน เลือกมาสวมเบอร์ 10 ให้กับ เชลซี เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ลงสนามคอยแบกน้องๆเต็มที่ เพราะเป็นช่วงที่สโมสร เชลซี ถูกแบนห้ามซื้อนักเตะตัวใหม่ อาจจะมีช่วงที่แย่ แต่ในช่วงเวลาสำคัญ ดาวเตะบราซิลเลี่ยน คนนี้แหละ ที่เป็นคีย์แมน พาทัพ "สิงห์บลูส์" คว้าโควต้าไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยเฉพาะฟอร์มอันยอดเยี่ยม ในช่วงคัมแบ็กจาก โควิด-19 ผลงานของ วิลเลี่ยน 63 ประตู กับอีก 62 แอสซิสต์ เป็นอะไรที่ไม่เลว ยิ่งผลงานก่อนที่เขาจะหมดสัญญากับ เชลซี มีแฟนบอลเสียดายอยู่ไม่น้อย ถึงขั้นเรียกร้องให้ต่อสัญญานักเตะรายนี้ออกไป เพราะยังมีประโยชน์อีกเพียบ แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นเมื่อสาย และ ตกลงกันไม่ได้ ทำให้สุดท้าย วิลเลี่ยน เลือกย้ายไปอยู่กับ อาร์เซน่อล คู่แข่งร่วมลีก ฮาย