ไม่น่าเชื่อว่า เมืองทอง ยูไนเต็ด ในยุคเปลี่ยนถ่ายสายเลือดใหม่ แกนหลักซีเนียร์มาสู่ดาวรุ่งยังบลัด จะมีผลงานลุ่มๆดอนๆในยุคของอเล็กซานเดร กาม่า กลับมายืนหยัดแข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็วภายใต้การทำทีมโดย โค้ชมือใหม่ อย่าง มาริโอ ยูรอฟสกี้ ผู้เล่นที่เคยหมดใจกับโค้ชเก่า เปิดใจกับกุนซือป้ายแดงแบบหน้ามือและหลังมือไปเลย
ขอบสนามขอนำเสนอ 4 แข้งกิเลน ที่แจ้งไม่เกิดในยุคกาม่า แต่กลับมาไฉไลในยุคของ ยูรอฟสกี้ ส่วนจะมีใครบ้างไปติดตามเนื้อหาทั้งหมดด้านล่างได้เลย
1.พิชา อุทรา
ต้นปี 2020 เขายังคงเป็นสมบัติของสมุทรปราการ ซิตี้ อยู่เลย กระทั่งสัญญาใกล้หมด และนักเตะอยากโบยบินกลับทีมเก่า ก่อนจะมีการบรรลุข้อตกลงกันในช่วงกลางซีซั่น "เคน" พิชา อุทรา ได้สวมเสื้อเมืองทองอีกครั้ง หลังจากที่เป็นแข้งเยาวชนแต่ไม่มีโอกาสลงเล่นในทีมชุดใหญ่เลยแม้แต่นัดเดียว การมาร่วมทีมในยุคของ กาม่า เขา กลับไม่ได้รับโอกาสแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยเลย เจ้าของเสื้อหมายเลข 37 ทำได้แค่นั่งที่ม้านั่งสำรอง 3 เกม และเล่นไม่เข้ากับแท็คติกกับโค้ชบราซิเลี่ยนเลย
กระทั่งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงตัวกุนซือ มาเป็น ยูรอฟสกี้ ทีมปรับแท็คติกมาเล่นในระบบ 4-2-3-1 เขาถูกหย่อนลงสนาม 2 เกมสำคัญ ในบทบาทมิดฟิลด์เกมรุกทางฝั่งซ้าย อาศัยจังหวะความเร็วความคล่องตัวที่ดียามครอบครองลูกบอล แถมยังเบียดสหรัฐ กันยะโรจน์ หลุดออกจากทีมตัวจริงไปแล้ว ซึ่งมันพิสูจน์ให้เห็นแล้วจากเกมเยือนโปลิศ เทโร, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่พาสโมสรคว้าชัยชนะเกมที่โคตรจะกดดันมากที่สุดนัด 1 ในซีซั่น จนทีมกลับมามีความหวังในการลุ้นโควต้าเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก
2.วิลเลี่ยน พอพพ์
กองหน้าชาวบราซิลเลี่ยนที่ถูกคัดสรรมาโดย อเล็กซานเดร กาม่า ในช่วงต้นฤดูกาล ทุกคนคาดหวังว่า วิลเลี่ยน พอพพ์ น่าจะมาช่วยแบ่งเบาภาระในเรื่องการจบสกอร์และปิดช่องโหว่จากการไปของ ธีรศิลป์ แดงดา ได้อย่างแน่นอน แต่ทว่ากว่าที่นักเตะจะปรับตัวได้จริงๆกลับใช้เวลาอยู่นานในยุคของกาม่า 4 เกมทำไปแค่ 1 แอสซิสต์เท่านั้น พร้อมกับคำครหาบราซิลเลี่ยนเก๋ชัวร์ๆ จากแฟนบอลและสื่อมวลชนแดนสยาม
เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงโค้ชใหม่ ภาษาพูดคนละภาษากันเลยจากโปรตุกีสมาเป็นอังกฤษ ทว่า ภาษาฟุตบอล, ประสบการณ์และความไว้วางใจที่มีให้นักเตะของมาริโอ ยูรอฟสกี้ ส่งผลให้แท็คติกใหม่ของเมืองทอง วิลเลี่ยน พอพพ์ ได้รับอานิสงค์ไปแบบเต็มๆ เขาเป็นกองหน้าตัวเป้าที่เคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา และการยิงโปลิศ เทโร 2 ประตู และ ซัลโวประตูดับบุรีรัมย์ คาบ้าน น่าจะเป็นเครื่องการันตี ที่จะสยบความสงสัยในเรื่องของฝีเท้าให้หมดไปเสียที เพราะเขาเกิดใหม่ในยุคของยูรอฟสกี้แล้วจริงๆ
3.วีระเทพ ป้อมพันธุ์
เด็กหนุ่มจากนนทบุรี อดีตตัวเทพฟุตซอล จนมาเป็นนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และหาญกล้ามาสวมเสื้อหมายเลข 18 เบอร์เดิมของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ุ ในสนามเอสซีจี สเตเดี้ยม "เตอร์ มีทักษะที่เหลือล้น แต่กว่าจะได้ปล่อยของจริงๆต้องรอให้แข้งซีเนียร์อำลาทีม วีระเทพ เป็นมิดฟิลด์ตัวรุกมาโดยตลอด เมื่อถูกใช้งานในยุคของ อเล็กซานเดร กาม่า เขาเป็นนักเตะสาระพัดตำแหน่ง กลางรับ, กลางคุมจังหวะ บางเกมเป็นมิดฟิลด์ริมเส้นบ้าง
จนเมื่อ ยูรอฟสกี้ มาทำทีมเต็มตัว วีระเทพ ถูกปรับให้มาเล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง บทบาทเดิมของ สารัช อยู่เย็น แม้จะไม่ใช่ตำแหน่งถนัดเท่ากับเกมรุก แต่เมื่อได้ลงเล่นก็ทำได้อย่างไม่เคอะเขินอะไร จนได้รับความสนใจจากอากิระ นิชิโนะ ในการเรียกไปซ้อมทีมชาติมาแล้ว
4.ชาติชาย แสงดาว
กองหลังจากอัสสัมชัญ ธนบุรี รูปร่างสูงใหญ่แข็งแรงที่มาอยู่กับทีมตั้งแต่ยุคโค้ชแบน ธชตวัน ศรีปาน เมื่อปี 2017 และถูกปล่อยไปให้บางกอก เอฟซี และอุดรธานี เอฟซีทีมพันธมิตรยืมตัวไปใช้งาน และเมื่อกลับมาอยู่กับเมืองทอง ด้วยหน่วยก้านที่ดีสูงใหญ่ ทำให้อเล็กซานเดร กาม่า ถูกเอาไว้ใช้งานในช่วงปี 2020 แต่ ชาติชาย กลับไม่ใช่ตัวเลือกแรก เพราะเขาโดน ลูคัส โรช่า และ ศฤงคาร พรมสุภะ ยึด 11 ตัวจริง แถมเขาก็ได้ลงสนามช่วงท้ายเกมก่อนหมดเวลาแค่นั้น
กระทั่งการเปลี่ยนมาเป็นยูรอฟสกี้ ที่เปิดโอกาสให้ ตองหนึ่งได้รับมือกับแนวรุกผิวสีเทโร และชาวไทย ปรากฏว่าเขารับมือคู่แข่งได้อยู่หมัด ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ที่เป็นจุดเด่นทำให้ เขาสอบผ่านในการลงเล่นเต็มเกมไทยลีกเป็นครั้งแรก และดูเหมือนว่าทีมกำลังเจอกองหลังที่เชื่อใจได้ซะแล้ว
ติดตามข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ไลน์ขอบสนาม