สิ่งเลวร้าย . . . ที่เกิดขึ้นกับ อาร์เซน่อล 2020-21

อาร์เซน่อล คือสโมสรที่กำลังถูกพูดถึงหนักมากในด้านลบกับผลงานสุดตกต่ำระส่ำหนักในฤดูกาล 2020-21 สิ่งแย่ๆ ที่เกิดขึ้นกับพวกเขาตอนนี้มันมีอะไรบ้างเดี๋ยววันนี้ทาง "ขอบสนาม" จะร่ายให้ฟัง

ออกสตาร์ทห่วยแตกสุดๆ 

ความพังทลายของ อาร์เซน่อล ในฤดูกาล 2020-21 ที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ เลย ก็คือการออกสตาร์ทบนสังเวียนลีกสูงสุดของอังกฤษด้วยการแข่งไป 11 นัด มี 13 คะแนน รั้งไกลสายตาอยู่ในอันดับ 15 นับเป็นการออกสตาร์ทที่ห่วยแตกที่สุดในรอบ 39 ปี ถ้าย้อนกลับไปตอนนั้นในฤดูกาล 1981-82 พลพรรค "ไอ้ปืนใหญ่" พวกเขามีแค่ 12 แต้มเท่านั้นจากการลงเล่น 13 เกมแรก นอกจากนี้การบุกไปโดน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตบ 2-0 ทำให้ มิเกล อาร์เตต้า กลายเป็นกุนซือ อาร์เซน่อล คนที่ 2 ที่เจอความปราชัยในเกม นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ 2 นัดแรกอีกด้วยซึ่งคนแรกนั้นได้แก่ เบอร์ตี้ มี ที่ทำไว้ตอนฤดูกาล 1966-67

ศักยภาพเกมรุกสุดเห่ย

อาร์เซน่อล ได้ชื่อว่าเป็นสโมสรที่มีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่สุดๆ ทีมหนึ่งบนประวัติศาสตร์โลกลูกหนัง และตั้งแต่อดีตก็ขึ้นชื่อลือชาอยู่ในแล้วในเรื่องความโดดเด่นกับการเล่นบอลสวยงามและการแสดงศักยภาพเกมรุกที่ทรงประสิทธิภาพ แต่พอตัดภาพกลับมา ณ ปัจจุบันนับวันชีวิตของพวกเขาเริ่มตกต่ำลงเรื่อยๆ โดยในฤดูกาล 2020-21 หลังศึก พรีเมียร์ลีก ผ่านเกมสัปดาห์ที่ 11 ผลปรากฏว่า อาร์เซน่อล ทั้งทีมยิงรวมได้แค่ 10 ประตูเท่านั้น นับเป็นสถิติที่มากที่สุดเป็นอันดับที่ 17 จาก 20 ทีมในลีก และมันก็เป็นตัวเลขที่เท่ากับที่ ซน ฮึง-มิน ทำได้ด้วยตัวคนเดียวด้วย นอกจากนี้ อาร์เซน่อล ยังมีโอกาสการยิงตรงกรอบทั้งหมดแค่ 32 ครั้ง นับเป็นสถิติที่มากที่สุดอันดับที่ 18 จาก 20 ทีมในลีก และที่หนักสุดๆ เลยก็คือการสร้างสรรค์โอกาสที่ 65 ครั้ง มันเป็นสถิติที่มากที่สุดเป็นอันดับที่่ 20 หรือก็คือจมบ๊วยนั่นเอง พอเห็นแบบนี้แล้วใครจะไปเชื่อว่าสโมสรอย่าง อาร์เซน่อล จะห่วยแตกและตกต่ำได้ถึงขนาดนี้ ?

ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมอยอง

อีกหนึ่งสิ่งที่สร้างความตกตะลึงให้กับแฟนบอลทั่วโลกก็คือสถิติการพังประตูสุดบู่ของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมอยอง ใครจะไปเชื่อว่ากองหน้าที่ได้ชื่อว่าขึ้นชั้นระดับเวิลด์คลาสไปแล้ว ซัลโวได้ถล่มทลายทะลุ 20 ประตูทุกซีซั่น ไปๆ มาทำไมถึงมาตกต่ำได้ขนาดนี้ เพราะตอนนี้พี่แกเพิ่งกดไปแค่ 2 ประตูเองจากการลงเล่น 11 นัด คิดดูว่านักเตะอย่าง ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ของ เลสเตอร์ ซิตี้ , เคิร์ท ซูม่า ของ เชลซี และ บ็อบบี้ เด คอร์โดว่า รีด ของ ฟูแล่ม ยังยิงได้มากกว่าอีก ถ้าจะถามว่าปัญหามันเกิดจากอะไรกันแน่ ? มันก็ตอบได้ยาก มันเป็นเพราะอาถรรพ์การต่อสัญญาฉบับใหม่หรือเปล่า ? หรือต้องโทษการวางแท็คติกของ มิเกล อาร์เตต้า หรือศักยภาพเพื่อนร่วมทีม ?

ไร้ชื่อ เมซุต โอซิล 

เบื้องหลังของสถิติพังๆ เรื่องเกมรุก ทั้งตัวเลขที่ออกมารวมถึงความปืนฝืดของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมอยอง บางทีหรือว่ามันมาจากการจัดตัดสินใจครั้งผิดพลาดของ มิเกล อาร์เตต้า ที่ตัดชื่อ เมซุต โอซิล ทิ้งทั้งชุดลุยศึก พรีเมียร์ลีก และชุดลุย ยูฟ่า ยูโรปา ลีก เพราะนี่คือนักเตะที่มีความโดดเด่นอย่างมากเรื่องการผ่านบอล ความครีเอทในการสร้างสรรค์เกม และเพิ่มมิติใหม่ๆ ให้กับรูปเกมของทีม อย่างที่ทราบกันนั่นแหละว่า เมซุต โอซิล เป็นนักเตะบทบาทเพลย์เมคเกอร์โดยธรรมชาติ และตอนนี้ อาร์เซน่อล ไม่มีผู้เล่นแบบเขาอยู่เลยสักคน และเมื่อดูจากตัวเลขสถิติที่ออกมามันค่อนข้างชัดเจนเลยว่าการไม่มี เมซุต โอซิล ก็ถือเป็นสาเหตุสำคัญเช่นกัน และมันก็คงไม่แปลกเลยที่เหล่าสาวก "เดอะ กันเนอร์ส" จะออกมาเรียกร้องให้เอาเขากลับมาหรอก จริงไหม ?

สู้ อูไน เอเมรี่ ไม่ได้ 

ถ้านับเฉพาะการคุมทีมบนสังเวียน พรีเมียร์ลีก ด้วยจำนวนเกมเท่ากันกับตอนนี้มันน่าจะแสดงให้เห็นชัดแล้วว่า มิเกล อาร์เตเต้า ยังสู้ อูไน เอเมรี่ ไม่ได้ ลองย้อนเวลากลับไปตอนฤดูกาล 2018-19 ช่วง 11 เกมแรก อูไน เอเมรี่ พา อาร์เซน่อล เก็บชัยได้ 7 นัด เสมอ 2 และแพ้ 2 นัด มี 24 คะแนน ส่วนปีต่อมาในซีซั่น 2019-20 คุมทีมไป 11 นัด แกพาทีมชนะ  4 นัด เสมอ 5 นัด และแพ้ 2 นัด มี 17 คะแนน ก่อนจะถูกไล่ตะเพิดออกจากตำแหน่งไปด้วยในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2019 ด้วยการมี 18 คะแนน และรั้งอยู่อันดับ 8 คำถามก็คือ อาร์เซน่อล ตัดสินใจถูกจริงแล้วเหรอที่เลือกไล่ อูไน เอเมรี่ และมองว่า มิเกล อาร์เตต้า คือคนที่ใช่ยิ่งกว่า ?

สถิติแย่ๆ ในเกมพังๆ 

ฤดูกาล 2020-21 ออกสตาร์ทไปแล้ว 11 นัดแต่ อาร์เซน่อล กลับโดนยัดเยียดความปราชัยไปแล้วถึง 6 เกม และในแต่ละความพ่ายแพ้มันก็มีสถิติแย่ๆ เกิดขึ้นมากมายในแต่ละเกม โดยในเกมที่แพ้ ลิเวอร์พูล 1-3 ทำให้ อาร์เซน่อล เป็นทีมที่ทำแต้มหล่นบ่อยที่สุดที่ 18 คะแนนเมื่อเป็นฝ่ายยิงขึ้นนำก่อนนับตั้งแต่ มิเกล อาร์เตต้า เข้ามาคุมทีมตอน ธันวาคม 2019 ซึ่งเป็นสถิติที่มากกว่าทุกทีมใน พรีเมียร์ลีก ส่วนเกมที่แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-1 นั่นคือเกมที่ 29 ที่ อาร์เซน่อล ไม่สามารถบุกไปเอาชนะทีมท็อป 6 พรีเมียร์ลีก ได้เลย (เสมอ 10 แพ้ 19) นับตั้งแต่ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 ช่วงเดือนมกราคม ปี 2015 แต่ที่หนักกว่านั้นคือนั่นคือความพ่ายแพ้ 7 เกมติดในการเจอกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บนสังเวียน พรีเมียร์ลีก นับเป็นสถิติที่แย่ที่สุดในการเจอกับคู่แข่ง 1 ทีมต่อจากการเจอ นอริช ซิตี้ ตั้งแต่ช่วงปี 1974-77 ที่แพ้รัวๆ 7 เกมเท่ากัน การแพ้ เลสเตอร์ ซิตี้ คารัง เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม 0-1 มันเกิดสถิติที่ไม่น่าจดจำขึ้น เพราะว่า นั่นคือชัยชนะครั้งแรกของ เลสเตอร์ ซิตี้ ในการบุกมาเยือน อาร์เซน่อล นับตั้งแต่ปี 1973 หยุดสถิติไว้ที่ 27 เกมจากทุกรายการ ถัดมาเกมที่แพ้ แอสตัน วิลล่า คารั้ว เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม ไปแบบน่าอับอาย 0-3 นับเป็นเกมที่ อาร์เซน่อล แพ้คาบ้านในลีกด้วยสกอร์ที่ขาดที่สุดนับตั้งแต่การแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-3 เมื่อช่วงปลายปี 2019 นอกจากนี้ในเกมๆ นั้น ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมอยอง ยังเจอสถิติที่ไม่น่าจดจำอีกด้วยการไม่มีโอกาสได้ง้างเท้ายิงเลยแม้แต่ครั้งเดียว ตามด้วยการแพ้คาบ้านต่อ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-2 นั่นคือวันที่ อาร์เซน่อล ออกสตาร์ทในเกมลีกด้วยสถิติที่ห่วยที่สุดนับตั้งแต่ฤดูกาล 1981-82 ที่มี 12 คะแนนจาก 10 นัด ส่วน อาร์เซน่อล พอแพ้เกมนั้นมีอยู่ 13 คะแนน และนั่นนับเป็นการแพ้คาบ้านในเกม พรีเมียร์ลีก 3 นัดติดต่อกันเป็นครั้งที่ 2 หากนับตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว ส่วนเกมล่าสุดในศึก นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ ที่โดน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ตบไป 2-0 ขอบอกเลยว่าสถิติแย่ๆ มีเพียบ หลักๆ เลยก็จะมี  มิเกล อาร์เตต้า กลายเป็นผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล คนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ ที่คุมทีมแพ้ทั้ง 2 เกมแรกในศึก นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ ต่อจาก เบอร์ตี้ มี ในซีซั่น 1966-67 ส่วนอีกก็คือ มิเกล อาร์เตต้า ไม่ชนะเลยตลอด 8 เกมหลังสุดใน พรีเมียร์ลีก รวมทั้งในฐานะผู้เล่นและผู้จัดการทีมยามเจอกับ โชเซ่ มูรินโญ่

HaMu Dos Santos 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ทางไลน์ขอบสนาม