logo-heading

คงทราบกันดีแล้วว่าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2017/18 คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่นำโด่งมานาน แต่ยังมีสิ่งที่น่าสนใจเรื่องการทำลายสถิติแต้มสูงสุดให้ได้ลุ้นอยู่

  เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือสมองเพชรของทัพ "เรือใบพันล้าน" ประกาศแล้วว่าเป้าหมายต่อไปหลังเถลิงบัลลังก์แชมป์ คือการปลุกเร้าลูกทีมให้เดินหน้าล่าแต้ม ในอีก 5 เกมที่เหลือ เพื่อทุบสถิติแต้มสูงสุดตลอดกาลของ พรีเมียร์ลีก ที่ เชลซี เคยทำไว้เมื่อฤดูกาล 2004/05 ที่ 95 แต้ม   โดยตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ กวาดไปแล้ว 87 แต้ม เหลืออีก 15 คะแนนเต็มให้เก็บ ขอเพียงแค่ 9 จาก 15 ก็จะทำลายสถิติของ "สิงห์บลูส์" ได้สำเร็จ ยิ่งไปกว่านั้นอาจมองถึงการทำเกิน 100 แต้มได้เลยด้วยซ้ำ ซึ่งถ้าจะเอาจริงๆ เล่นเต็มที่แบบไม่มียั้งไม่มีผ่อน ก็มีโอกาสทำได้สูงทีเดียว   นี่แหละทีมที่เป็นแชมป์ ใครๆ ก็มักจะให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ ทีนี้หันมามองที่ 2 ในตอนนี้อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กันบ้าง ว่ากันตามตรงนี่คือปีที่ "ปีศาจแดง" มีผลงานดีที่สุดนับตั้งแต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือไป เพราะตอนนี้คว้าไป 74 แต้มแล้ว เหลืออีก 4 นัดให้ "ผีแดง" เล่นถ้าเก็บชัยได้หมดเท่ากับว่าจะได้ 86 คะแนน ซึ่งถือว่าสูงมากๆ ถ้าเป็นในอดีตคะแนนเท่านี้มากกว่าแชมป์บางปีเสียอีก   แต่นี่คือสิ่งที่ไม่มีใครพูดถึงกัน เพราะ "ผู้ชนะเท่านั้นที่เขียนประวัติศาสตร์" หรือหากพูดตรงๆ ก็คือ แมนฯ ซิตี้ มึงเก่งเกินไป ซึ่งนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก นะครับที่ทีมแชมป์มันเก่งเกินไป ต่อให้ที่ 2 เล่นดี เล่นเยี่ยมยังไง โกยคะแนนเท่าไหร่ สุดท้ายก็ไปไม่ถึงแชมป์ ฉะนั้นวันนี้มาย้อนความหลังกันหน่อยว่ามีปีไหนบ้างที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้  

เหตุการณ์ที่แบบ รองแชมป์เก่งผิดปี ถ้าได้แต้มเท่านี้ไปเล่นฤดูกาลอื่นก็คงเป็นแชมป์ไปแล้ว

  1.สเปอร์ส 2016/17 86 แต้ม แชมป์ เชลซี 93 แต้ม   สดๆ ร้อนๆ เมื่อฤดูกาลที่แล้วเลย ใครหล่ะจะคิดว่า เชลซี จะกลับหลังหันจากหน้ามือเป็นหลังเท้า เพราะซีซั่นก่อนหน้านี้ยังจมปรักอยู่กลางตารางจน โชเซ่ มูรินโญ่ ต้องโดนตะเพิดพ้นเก้าอี้เลย ฤดูกาลถัดมาเพียงแค่เปลี่ยนเอา อันโตนิโอ คอนเต้ เข้ามาพร้อมเสริม เอ็นโกโล่ ก็องเต้ พี่แกผงาดคว้าแชมป์ไปเลย แถมทำแต้มบานตะไทถึง 93 คะแนน   สงสารก็แต่น้อง "ไก่เดือยทอง" นี่แหละที่ได้แต่นั่งทำตาปริบๆ น้อยใจในวาสนาของตัวเองที่อุตส่าห์ใช้พลังหนุ่มโกยแต้มเอาชนะทีมอย่าง แมนฯ ซิตี้, แมนฯ ยูไนเต็ด, อาร์เซน่อล และ ลิเวอร์พูล มาได้แล้ว แต่ดันเจอพิษ "สิงโตทะเล" เข้าไป จ๋อยเลย 86 แต้มของน้องไก่ หากไปเล่นในฤดูกาล 2015/16 ที่ เลสเตอร์ เป็นแชมป์นี่มีแต้มเหนือกว่า "จิ้งจอกสยาม" ถึง 5 คะแนนเลยนะ   2.แมนฯ ยูไนเต็ด 2011/12 89 แต้ม แชมป์ แมนฯ ซิตี้ แต้มเท่า   หนึ่งในฤดูกาลที่เจ็บปวดรวดร้าวที่สุดสำหรับสาวก "ปีศาจแดง" นั่นคือการโดนปาดกลับมาคว้าแชมป์ในนาทีสุดท้าย จากประตูชัยวินาทีสุดท้ายของนัดที่ 38 ทำให้ แมนฯ ซิตี้ พลิกเอาชนะ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ได้สำเร็จกลับมามี 89 แต้มเท่ากับ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เตะจบไปก่อนไม่กี่นาที และลูกได้เสียพวกเขามากกว่าอยู่ จึงคว้าแชมป์ไปครองได้ในที่สุด เชื่อว่าเหตุการณ์ในปีนั้นแฟนผีไม่มีวันลืมแน่นอน ทั้งที่ไม่ได้อยากจะจำ   โดย 89 คะแนนที่ "ปีศาจแดง" ทำได้นั้นือว่าโคตรเยอะ เพราะย้อนกลับไปก่อนหน้านั้น 1 ฤดูกาลซึ่งเป็นปีที่ที่พวกเขาเป็นแชมป์ เพิ่งจะเก็บได้แค่ 80 แต้มเท่านั้นเอง   3.ลิเวอร์พูล 2008/09 86 แต้ม แชมป์ แมนฯ ยูไนเต็ด 90 แต้ม   ย้อนกลับไปปี 2008 ลิเวอร์พูล ที่ไขว่คว้าหาแชมป์ พรีเมียร์ลีก มาอย่างยาวนาน มีขุมกำลังที่ถือว่าแข็งแกร่งมาก นำโดย สตีเว่น เจอร์ราร์ด, ชาบี อลอนโซ่, ฮาเวียร์ มาสเคราโน่, เดิร์ก เค้าท์ และ เฟร์นานโด ตอร์เรส เป็นต้น ฉะนั้นไม่แปลกที่พวกเขามั่นหมายจะซิวแชมป์มาครองให้ได้ ซึ่งก็ทำได้ดีมากทีเดียว ทำได้ถึง 86 คะแนน ทว่าคู่อริตลอดกาลอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับทำได้ดีกว่า จัดไป 90 แต้ม   "หงส์แดง" ที่คิดจะแผลงฤทธิ์ จึงต้องเศร้าสร้อยหงอยเหงาตบยุงรอแชมป์ พรีเมียร์ลีก สมัยแรกต่อไป นับตั้งแต่ปีนั้นจวบจบปีนี้ผ่านมาเกือบ 10 ปี ลิเวอร์พูล ก็ยังทำไม่สำเร็จ   4.เชลซี 2007/08 85 แต้ม แชมป์ แมนฯ ยูไนเต็ด 87 แต้ม   เรียกได้ว่าเก่งผิดปีจริงๆ สำหรับผลงานของ เชลซี ในฤดูกาล 2007/08 เพราะเป็นพระรองถึง 2 ถ้วย และทีมที่ขัดขวางพวกเขาเอาไว้ก็คือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยในลีก "สิงห์บลูส์" เก็บได้ 85 ส่วน "ปีศาจแดง" 87 แถมแอบน่าเสียดายด้วยที่พวกเขาเขวี้ยงแต้มทิ้งเองใน 5 นัดหลังสุด หลุดเสมอทีมรองบ่อนคาบ้านอย่าง วีแกน และ โบลตัน ไม่งั้นก็มีโอกาสแซงเป็นแชมป์ไปแล้ว   ส่่วนอีกถ้วยอันนี้น่าเจ็บใจใหญ่เพราะคือถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิง เชลซี ปะทะ แมนฯ ยู สู้กันดุเดือดเลือดพ่าน จบ 90 นาทีเจ๊า 1-1 ต่อเวลาพิเศษทำอะไรกันไม่ได้ต้องดวลเป้าตัดสิน แชมป์หูใหญ่น่าจะอยู่ในมือของ "สิงห์บลูส์" เพราะ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ของ "ผีแดง" ซัดพลาด   คนสุดท้ายของ เชลซี คือกัปตันทีม จอห์น เทอร์รี่ ยิงเข้าแชมป์ทันที แต่ "เจที" ดันลื่นขาโดนบอลสัมผัสเสาอย่างจัง ทำให้ต้องยิงกันต่อแบบ 1 ต่อ 1 และ นิโกล่าส์ อเนลก้า หัวหอก "สิงห์บลูส์" ซัดติดเซฟ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซา "ผีแดง" พลิกนรกกลับมาเป็นดับเบิ้ลแชมป์ซะงั้น พร้อมถีบ เชลซี เป็น 2 รองแชมป์ไปโดยปริยาย เห้อเก่งผิดปีจริงๆ   5.ลิเวอร์พูล 2013/14 84 แต้ม แชมป์ แมนฯ ซิตี้ 86 แต้ม   เป็นอีกปีที่ต้องอยู่ในความทรงจำ (อันเลวร้าย) ของสาวก “หงส์แดง” ไปชั่วชีวิต แม้ 84 แต้ม จะน้อยที่สุดในบรรดา 4 ทีมรองแชมป์ด้านบน แต่เหตุการณ์ที่นำโด่งมานาน จนกระทั่งเข้าสู่ช่วงท้ายดันไปพลาดกันเอง   คงไม่ต้องสาธยายมากว่าเหตุการณ์นั้นเป็นอย่างไร เพราะไม่ใช่แค่แฟนหงส์เท่านั้นที่จำไม่ลืม แจ่แฟนบอลทั่วโลกก็ด้วย นั่นคือการลื่นล้มของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีม จนโดน เด็มบ้า บา ของเชลซี ฉกบอลไปยิง พ่ายคาบ้าน 2-0 ทำให้ท้ายสุด แมนฯ ซิตี้ ทำแต้มมาทาบเท่ากันที่ 80 คะแนน เหลือการแข่งขันอีก 2 นัด แต่ลูกได้เสีย “หงส์แดง” ตามบานเบอะ นั่นหมายความว่าหาก “เรือใบ” เก็บ 6 แต้มเต็มจาก 2 นัดที่เหลือ โอกาสแชมป์ก็แทบจะ 100% ซึ่งก็ทำสำเร็จ   ต่างจาก ลิเวอร์พูล ที่สะดุดเสมอกับ คริสตัล พาเลซ ในนัดรองสุดท้ายด้วย ทำให้ท้ายสุดเล่นดีมาตั้งนาน แต่ก็มาตกม้าตายด้วยจังหวะลื่นของตำนานทีมตัวเอง พลาดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก สมัยแรกไปอีกปี
logoline