logo-heading

ลิเวอร์พูล ยังอยู่ในช่วงพายุมรสุมโหมกระหน่ำ หลังจากพ่ายแพ้ในพรีเมียร์ลีกต่อ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-3 เป็นความพ่ายแพ้นัดที่ 6 ในเกมลีก และเป็นการแพ้ 3 นัดติดรวมการแข่งขันทุกรายการ จากผลงานที่ดิ่งลงนับตั้งแต่เปิดศักราชใหม่ จากทีมลุ้นแชมป์เหลือเป้าหมายเพียงแคลุ้นท็อป 4 เท่านั้น เพราะแต้มห่างจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกไปเรื่อย ๆ อีกทั้งยังร่วงตกไปอยู่ที่ 6 ตารางคะแนน

ผลงานที่อยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่เช่นนี้ ภาษากายของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ถูกถ่ายทอดผ่านสื่อ ทำให้หนีไม่พ้นกับข่าวลือว่า คล็อปป์ ต้องการลาออกจากตำแหน่ง บริษัทเปิดรับพนันถูกกฎหมายต่างประเทศปรับราคาให้เป็นเต็ง 5 ที่จะออกจากตำแหน่งอีกด้วย ทำเอาแฟน ลิเวอร์พูล ทั้งในอังกฤษและทั่วโลกใจไม่ดีกันเป็นแถบ ต้องออกมาแสดงพลังว่ายังคงให้การสนับสนุน คล็อปป์ ด้วยการทำป้ายแบนเนอร์ให้กำลังใจไปติดหน้าสนามแอนฟิลด์ ล่าสุดบทสัมภาษณ์ก่อนเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้ายนัดแรกที่ ลิเวอร์พูล จะพบ กับ ไลป์ซิก คล็อปป์ เองได้ออกมายืนยันอนาคตของตัวเองแล้วว่าเขายังคงมีพลังเต็มเปี่ยมและไม่ต้องการหยุดพักในเวลานี้ เป็นอันชัดเจนว่าเรื่องลาออกลืมไปได้เลย เขายังคงพร้อมเดินหน้าต่อและหาทางออกกับวิกฤตินี้ด้วยการเล่นฟุตบอลต่อไป ซึ่ง ลิเวอร์พูล ก็สามารถกลับมาเรียกศรัทธาได้ด้วยการเอาชนะ ไลป์ซิก 2-0 ในนัดแรกด้วยผลงานยอดเยี่ยม ทว่าแม้ว่า คล็อปป์ จะยืนยันอนาคตของตัวเองให้เหล่าเดอะ ค็อป ได้ใจชื้นแต่อะไรก็ยังไม่แน่นอน เช่นเดียวกับอนาคตของนักเตะในทีมหลายคน ที่คงมีการผ่าทีมชุดใหญ่ในช่วงซัมเมอร์นี้ นักเตะบางคนอาจจะไม่ได้ไม่ต่อกับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลหน้า แม้ว่า คล็อปป์ จะอยู่หรือไม่อยู่ก็ตาม นักเตะเหล่านี้ก็ดูจะไม่มีอนาคตกับ ลิเวอร์พูล วันนี้ขอบสนามจึงจะพามาวิเคราะห์ว่ามีใครกันบ้างที่ยังเป็นจุดอ่อน และไม่น่าได้ไปต่อกับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลหน้า 1. ดิว็อค โอริกี้ มหาเทพโอริกิอุส ที่แฟน ลิเวอร์พูล คุ้นเคย เป็นชื่อแรกที่หลายคนคิดถึงมากที่สุด ด้วยฟอร์มการเล่นของเขาที่ทำเอาแฟน ลิเวอร์พูล ปวดตับกันเป็นแถว ก่อนหน้านี้ ดิว็อค โอริกี้ ถือเป็นซูเปอร์ซับชัดยอด เป็นฮีโร่ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ บาร์เซโลน่า ได้ถึง 4-0 รวมถึงยังเป็นคนยิงประตูปิดกล่องในรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก พา ลิเวอร์พูล เอ่าชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ คว้าแชมป์สมัยที่ 6 ได้ในปี 2019 จากผลงานอันยอดเยี่ยมในปีนั้น เขาจึงได้รางวัลเป็นการขยายสัญญาใหม่ออกไป แต่ทว่าหลังจากที่ขยายสัญญาใหม่ออกไป โอริกี้ ก็ขึ้นชื่อว่ามหาเทพลงไปเดินเล่นให้ครบ 11 คน ไปแล้วเรียบร้อย เขาไม่สามารถช่วยเปลี่ยนเกมอะไรได้เลย รวมถึงแทบไม่มีส่วนกับเกมยามลงสนาม ฤดูกาลนี้ ได้โอกาสลงสนาม 15 นัด ยิงได้เพียง 1 ประตูและ 1 แอสซิสต์ เท่านั้น เรียกได้ว่าลงไปยืนให้ครบ 11 คน จนในที่สุดช่วงหลัง คล็อปป์ ก็ถอดชื่อเขาออกจากสำรองให้ไปพักก่อน ดูทรงแล้วหากมีใครยื่นข้อเสนอจริงจังเข้ามาในช่วงซัมเมอร์ที่จะถึง ลิเวอร์พูล ก็คงปล่อยให้มหาเทพรายนี้ออกไปอยู่ที่ที่เขาจะสามารถแสดงศักยภาพได้ดีกว่านี้ 2. จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม แท้จริงแล้ว ลิเวอร์พูล คงไม่อยากเสียแข้งรายนี้ไป แต่ที่ต้องอยู่ในลิสต์ไม่ได้ไปต่อเพราะสัญญาของเขากำลังจะหมดลงหลังจากสิ้นสุดฤดูกาลนี้แล้ว และยังไม่มีท่าทีที่สัญญาใหม่ของเขาจะคืบหน้า ทั้งนี้เป็นเพราะยังไม่สามารถตกลงค่าเหนื่อยกันได้อย่างลงตัว เนื่องจาก ไวจ์นัลดุม ต้องการค่าเหนื่อยที่มากกว่าเดิม แต่ทว่าด้วยสถานการณ์ที่ ลิเวอร์พูล ต้องรัดเข็มขัดในช่วงไวรัสระบาด ทางบอร์ดบริหารก็ยังไม่ได้ตัดสินใจเรื่องนี้สักที ถึงตรงนี้ด้วยสัญญาใหม่ที่ยังไม่คืบหน้า ข่าวบนหน้าสื่อต่าง ๆ ที่รายงานออกมา ก็ดูเหมือนว่าเขาจะอิ่มตัวกับการค้าแข้งในแอนฟิลด์ และเตรียมโบกมือลา ลิเวอร์พูล ไปหาความท้าทายใหม่ที่อื่น หลังจากร่วมทุกข์ร่วมสุขกับ ลิเวอร์พูล มาเป็นเวลา 5 ปี 3. นาบี เกอิต้า อีกหนึ่งนักเตะที่ ลิเวอร์พูล ทุ่มซื้อเข้ามาด้วยค่าตัวกว่า 53 ล้านปอนด์ พร้อมได้รับการสืบทอดเสื้อหมายเลข 8 เป็นเหมือนความหวังคนใหม่ของ ลิเวอร์พูล แต่เวลาผ่านไปจนเข้าปีที่ 3 เขากลับยังไม่สามารถดึงศักยภาพของตัวเองแบบตอนที่อยู่ แอร์เบ ไลป์ซิก ออกมาได้เลย อุปสรรคอย่างหนึ่งคงเป็นเรื่องของปัญหาอาการบาดเจ็บที่ทำให้เขาไม่สามารถลงเล่นได้อย่างต่อเนื่องนั่นเอง มีช่วงหนึ่งที่เขาสามารถกลับมาโชว์ฟอร์มโหดช่วยทีมได้ แต่สุดท้ายก็ลงเอยด้วยอาการบาดเจ็บ แบบช่างเปราะบางเหลือเกิน ปัจจุบันนี้ก็ยังอยู่ในช่วงระหว่างการพักฟื้นร่างกายจากอาการบาดเจ็บ ดูแล้วมีโอกาสที่เขาจะถูกปล่อยออกจากทีมเพื่อหาเงินก้อนเขามาหมุนการเสริมทัพต่อไป โดยที่เคยมีข่างตั้งแต่ซัมเมอร์ที่ผ่านมาว่า คล็อปป์ อาจจะปล่อยเขาออกจากทีมในช่วงเวลานั้น แต่สุดท้าย ลิเวอร์พูล ไม่ได้เสริมใครเพิ่มเติม และยังอยู่ในช่วงรัดเข็มขัด เลยยังต้องเก็บผู้เล่นทุกคนไว้ให้มากที่สุด เพื่อสู้ศึกในฤดูกาลนี้ ทว่าซัมเมอร์หน้าเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะมีชื่อขึ้นไปอยู่ในลิสต์ที่จะโดนขายทิ้งอีกครั้ง 4. เซอร์ดาน ชากิรี่ ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวว่าหาตัวแทน เซอร์ดาน ชากิรี่ ได้แล้ว และเตรียมปล่อยเขาออกจากทีมด้วยค่าตัว 25 ล้านปอนด์ ด้วยกัน แต่สุดท้าย ชากิรี่ ยังได้ไปต่อกับ ลิเวอร์พูล แต่ก็ไม่แน่ว่าซัมเมอร์นี้เขาอาจจะถูกปล่อยตัวออกจากทีมไปจริง ๆ จากที่ผ่านมา ชากิรี่ เป็นได้เพียงแค่สำรองของ ลิเวอร์พูล มาโดยตลอด สอดแทรกตัวจริงค่อนข้างยาก อีกทั้ง คล็อปป์ ก็มองเขาเป็นเพียงแค่ตัวสำรองเท่านั้น ซึ่งเจ้าตัวต้องการโอกาสที่จะลงสนามมากกว่านี้ อย่างไรก็ตามหาก ลิเวอร์พูล ยังคงไม่ได้ตัวแทน ชากิรี่ ก็ยังคงไม่ปล่อยเขาออกจากทีมแน่นอน เพราะยังคงต้องการให้ทีมมีอะไหล่และมีขนาดใหญ่เพียงพอต่อการโรเตชั่นในช่วงที่ฟุตบอลต้องเตะกันถี่ยิบ แต่หาก ลิเวอร์พูล เล็งเป้าหาตัวแทนที่จะเขามาเสริมเกมรุกได้ ก็เป็นไปได้ว่าจะปล่อยเขาออกจากทีมไปตามที่มีข่าวเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา 5. นาธาเนี่ยล ฟิลลิปส์ หรือที่รู้จักกันว่า “น้องแนท” เป็นนักเตะที่ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของ คล็อปป์ ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ขนาดไม่ได้ใส่ชื่อลงในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่มด้วยซ้ำ ทางด้าน คล็อปป์ เอง ก็ยังดูไม่ไหวใจเขาให้ลงสนาม ขนาดทีมไร้เซ็นเตอร์แบ็กอาชีพ โอกาสลงสนามของเขายังน้อยนิด เพราะ คล็อปป์ เลือกแก้ปัญหาด้วยการถอย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน และ ฟาบินโญ่ ลงไปเล่นเซ็นเตอร์แบ็กจำเป็น เห็นแล้วน่าน้อยใจแทน แนท ไม่น้อย ไม่รู้ว่าอะไรที่ไม่เข้าตาหรือทำให้ คล็อปป์ ไม่ไว้ใจขนาดนั้น อีกทั้งการมาของ เบน เดวิส และ โอซาน คาบัค ซึ่งรายหลังดู คล็อปป์ จะชื่นชอบเป็นการส่วนตัวอย่างมาก แม้ว่าจะยืมตัวมาใช้งาน แต่ให้โอกาสลงเล่นไปแล้วถึง 2 นัด เกมลีก 1 นัด และ เกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 1 นัด เป็นไปได้ว่าน่าจะซื้อขาดหลังจบฤดูกาล เพราะอายุยังน้อย แล้ว คล็อปป์ ยังชอบเป็นการส่วนตัว หรือหากไม่ซื้อ คาบัค เชื่อว่า ลิเวอร์พูล เอ็งก็มีเป้าหมายอื่นที่เล็งไว้แล้ว ดังนั้นอนาคตของ นาธาเนี่ยล ฟิลลิปส์ คงจะเบียดขึ้นชุดใหญ่ยากไปอีก ได้แต่ทำใจอาจจะต้องเก็บกระเป๋าย้ายออกไปเล่นแบบยืมตัวอีกครั้ง หรืออาจจะย้ายออกถาวรในซัมเมอร์นี้ก็เป็นได้ 6. เนโก้ วิลเลี่ยมส์ แบ็กขวาดาวรุ่งที่พัฒนาตัวเองมาจากชุดเยาวชน จนขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ ช่วยทีมกวาดแชมป์ช่วงที่ผ่านมาได้รับการต่อสัญญาไปช่วงก่อนเริ่มฤดูกาลนี้ เนื่องจากทำผลงานได้ดีในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมา ทว่าในฤดูกาลใหม่ ความมั่นใจที่มากเกินไปของเขาทำให้เกิดข้อผิดพลาดในสนาม จนกลายเป็นขาดความมั่นใจไปในที่สุดแทน ออกทะเลแล้วไม้พายหายหาฝั่งไม่เจอพอพอกับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ตัวหลักของ ลิเวอร์พูล ไปอีกคน เขาไม่ได้ลงเล่นให้ ลิเวอร์พูล แต่ยังมีชื่อบนม้านั่งสำรองมาตั้งแต่จบเดือนธันวาคม ในช่วงที่ต้องเปลี่ยน เทรนต์ ออก คล็อปป์ ก็เลือก เจมส์ มิลเนอร์ คนเหล็กสารพัดประโยชน์ของ ลิเวอร์พูล ไปเล่นแบ็กขวาจำเป็น เป็นตัวเลือกแรก ดังนั้นอนาคตของเขาจนถึงตอนนี้ยังไม่แน่นอน อย่างไรก็ตามด้วยอายุของเขาที่ยังพัฒนาได้ การปล่อยเขาออกจากทีมน่าจะเป็นการปล่อยไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ เก็บสกิลสร้างความมั่นใจ เหมือนที่ ลิเวอร์พูล ปล่อย ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ออกจากทีมมากกว่า 7. อาเดรียน ผู้รักษาประตูทุกคนมีข้อผิด อาเดรียน เป็นอีกคนที่มักจะเกิดข้อผิดพลาดในเกมใหญ่ แม้ว่าเขาจะมีความดีความชอบหลังจากต้องลงทำหน้าที่แทน อลิสซอน ที่บาดเจ็บทั้งที่เพิ่งย้ายเข้ามา สามารถช่วยทีมได้ดีในเวลานั้นพา ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ต่อด้วยโชว์เซฟในเกมลีกช่วย ลิเวอร์พูล อยู่หลายครั้ง อย่างไรก็ตามข้อผิดพลาดชิ้นโตของเขาในช่วงหลังที่เขาต้องลงเล่นแทน อลิสซอน แฟนบอลไม่สามารถลบมันออกไปจากความทรงจำได้ จนท้ายที่สุดเขาก็ถูก ควีวิน เคลเลเฮอร์ เด็กปั้นจากทีมเยาวชน ลิเวอร์พูล แซงขึ้นมารั้งผู้รักษาประตูมือ 2 ด้วยสไตล์หลาย ๆ อย่าง ที่ อาเดรียน อาจจะไม่เหมาะกับ ลิเวอร์พูล เช่นการใช้เท้า จึงทำให้เขาหลุดไปเป็นสำรองของสำรองอีกที ซึ่งในช่วง ที่ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่งเจ็บช่วงหลัง คล็อปป์ เลือกที่จะส่ง เคลเลเฮอร์ ลงสนามแทน ซึ่งสัญญาของ อาเดรียน จะหมดลงหลังจบฤดูกาลนี้ และดูแล้ว ลิเวอร์พูล คงไม่ได้ต่อสัญญากับเขา เลือกดัน เคลเลเฮอร์ ขึ้นมือสองแทน

- เปี๊ยกบางใหญ่ -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมผ่านทางไลน์
logoline