ยลโฉม ! 10 แข้ง พรีเมียร์ลีก ฟอร์มโคตรจะพัง 2020-21

ในโลกลูกหนังทุกๆ ปีแน่อนอนว่ามันจะมีนักเตะที่โชว์ฟอร์มได้ดี โดดเด่น และเข้าตากรรมการสุดๆ จนเป็นที่พูดถึงในวงกว้าง แต่ในทางกลับกันมันก็จะมีนักเตะอีกหลายคนที่ผลงานที่ห่วยแตกจนน่าใจหายเหมือนกัน

วันนี้สิ่งที่ ขอบสนาม อยากนำเสนอก็คือ การพาทุกท่านไปเจาะลึกถึง "10 ผู้เล่น พรีเมียร์ลีก ที่ผลงานพังสุดๆ ในฤดูกาล 2020-21" จะมีใครกันบ้างไปดูกัน ?

ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมอยอง - อาร์เซน่อล

ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง ได้รับการยกย่องว่าเป็นสไตรเกอร์ที่ก้าวสู้ระดับการเป็น เวิลด์ คลาส ไปแล้วกับค่าเฉลี่ยการระเบิดสกอร์ที่ยอดเยี่ยมแตะหลัก 30 ประตูต่อซีซั่น นี่คือคนที่ลุ้นล่ารางวัล ดาวซัลโว บุนเดสลีกา กับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ได้สนุกและสูสีกันสุดๆ สมัยโลดแล่นอยู่ที่ เยอรมัน จริงอยู่ที่การย้ายมาอยู่กับ อาร์เซน่อล เรื่องฟอร์มการผลิตสกอร์ก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเยี่ยม แต่ปีนี้ดูฟอร์มจะออกทะเลไปเยอะเหมือนกัน หลังซัดไปแค่ 9 ประตูเท่านั้นจากการลงเล่น 24 นัดใน พรีเมียร์ลีก มันอาจไม่ใช่ตัวเลขที่ดูแปลกสำหรับกองหน้าทั่วๆ ไป แต่นี่คือ โอบาเมอยอง คนที่มีลุ้นรางวัลดาวซัลโวทุกปี การใส่สกอร์ได้แค่นี้ถือว่าดูผิดหูผิดตาไปเยอะ และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา

ไค ฮาแวร์ตซ์ - เชลซี

ตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาไอ้หนู ไค ฮาแวร์ตซ์ ก็ได้รับคำชมมาเยอะว่านี่คือเด็กเก่งและจะเป็นอนาคตที่ดีของวงการฟุตบอลเยอรมัน นี่คือเด็กที่มีความสารพัดประโยชน์ มีพรสวรรค์รอบด้าน และปรับบทบาทได้หลากหลาย จะเป็นปีกก็ได้ มิดฟิลด์ตัวรุกก็ได้ หรือจะยืนเป็นกองหน้าเบอร์ 9 ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร ไม่ว่าจะยืนตรงไหนไอ้หมอนี่ก็มีส่วนร่วมที่ดีกับทีมเสมอๆ โดยปีก่อนการอยู่กับ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น พี่แกมีส่วนร่วมถึง 27 ประตูจากการลงเล่น 45 นัด แบ่งเป็น ยิง 18 และ แอสซิสต์ 9 ครั้ง แน่นอนว่าในฤดูกาล 2020-21 การย้ายไปหาความท้าทายครั้งใหม่กับ เชลซี เจ้า ไค ฮาแวร์ตซ์ ก็โดนตั้งความคาดหวังเอาไว้เยอะ เพราะแววดี ย้ายมาค่าตัวแพงระดับ 70 ล้านปอนด์ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ เขาคือการเซ็นสัญญายอดแย่ เพราะจนถึงตอนนี้ก็ยังปรับตัวกับชีวิตและสไตล์บอลของอังกฤษไม่ได้ และแน่นอนว่าการกดไปเพียงแค่ 1 ประตูจาก 22 เกม พรีเมียร์ลีก มันคือความล้มเหลว

อองโตนี่ มาร์กซิยาล - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

"น้องมาร์ก" อองโตนี่ มาร์กซิยาล ก็โดนเสียงวิจารณ์หนาหูเหมือนกันกับผลงานในฤดูกาล 2020-21 นี้ พร้อมกับโดนตั้งข้อสงสัยว่าพี่แกเหมาะสมที่สุดแล้วเหรอกับการเป็นผู้เล่นกองหน้าเบอร์ 9 ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ? การทำไปแค่ 4 ประตูเท่านั้นจากการลงเล่น 22 เกมใน พรีเมียร์ลีก มันถือเป็นตัวเลขที่ผิดฟอร์มมากๆ ถ้าเทียบกับปีก่อนที่ซัดไปถึง 17 ประตู และตอนนี้มันก็มีข่าวออกมาเยอะอยู่ว่า โอเล กุนนาร์ โซลชา อาจเลือกลงทุนเสริมกองหน้าฝีเท้าดีๆ สักคนมาแก้ไข้ในจุดนี้ เพื่อสร้างโอกาสการลุ้นความสำเร็จอย่างเต็มตัว และเพื่อเป็นการลดระยะห่างจากทีมคู่อริร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แถมล่าสุดก็ดวงแตกต้องพักทั้งซีซั่นไปเป็นที่เรียบร้อย เนื่องจากอาการบาดเจ็บ ตอกย้ำซีซั่นสุดพังไปแบบเจ็บปวด

ติโม แวร์เนอร์ - เชลซี

อีกหนึ่งการเซ็นสัญญาที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เยอะมากๆ ของ เชลซี ก็คือ ติโม แวร์เนอร์ เพราะนี่คือนักเตะที่เป็นระดับตัวท็อปของวงการฟุตบอลเยอรมันในยุคนี้ มีทักษะที่เหลือร้ายรอบด้าน แถมยังมีสถิติการพังประตูที่ปังสุดๆ 20-30 ประตูต่อซีซั่น การย้ายมาอยู่โลดแล่นในรั้ว สแตมฟอร์ด บริดจ์ แน่นอนว่า ติโม แวร์เนอร์ ได้ชื่อว่าเป็นตัวเลือกเบอร์ต้นๆ ทั้งในยุคของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ตลอดจนยุคของ โธมัส ทูเคิ่ล เขาเป็นนักเตะที่มีส่วนร่วมกับทีมเยอะ มีโอกาสหาจังหวะง้างเท้ายิงบ่อยที่สุดเป็นเบอร์ต้นๆ ของลีก แต่เรื่องความเด็ดขาดและความมั่นใจดูเหมือนจะเป็นปัญหาที่หนักมากๆ สำหรับเขา และตอนนี้ ติโม แวร์เนอร์ เพิ่งยิงได้เพียงแค่ 5 ประตูเท่านั้นจากการลงเล่น 29 เกมใน พรีเมียร์ลีก

ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

นักเตะระดับวันเดอร์คิดที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับคอบอลทั่วโลกกับโปรไฟล์ที่ถูกขีดเขียนขึ้นมาดีสมัยอยู่กับ อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ต้องบอกเลยว่านักเตะแบบ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค ถือเป็นสเป็กที่หลายๆ ทีมกำลังตามหา เพราะนี่คือมิดฟิลด์ตัวกลางที่มีทักษะที่ดีเยี่ยมและความครบเครื่องสมบูรณ์แบบ หลักๆ จะเป็นเรื่องของการเปลี่ยนจังหวะจากรับเป็นรุกได้อย่างรวดเร็วโดยอาศัยเซนส์บอลและการผ่านบอลที่เป็นจุดเด่น ไหนจะมีสถิติการสร้างสรรค์เกมและการยิงประตูที่ดีมากๆ อีกด้วย ใครๆ ก็คิดว่าไอ้เด็กคนนี้โตขึ้นต้องไปได้สวยแน่ๆ ในอาชีพค้าแข้ง แต่การตัดสินใจย้ายมาค้าแข้งกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ผิด เพราะจนถึงตอนนี้สถานะของ ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค ก็เป็นได้แค่เพียงอะไหล่สำรองเท่านั้น ได้ลงเล่นไปแค่ 13 เกมในลีก แถมส่วนใหญ่ก็ถูกส่งลงมาเป็นสำรอง จัดว่าเป็นดีลที่ซื้อมาแล้วรู้สึกเสียดายของสุดๆ ไปเลย

เมสัน กรีนวู้ด - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

หลังจากไม่สามารถปิดดีล จาดอน ซานโช่ จาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ได้ตามที่หวังเมื่อซัมเมอร์ปีก่อน แต่มันก็ไม่ทำให้แฟนๆ "เร้ด เดวิลส์" รู้สึกกังวลเท่าไหร่ เพราะ เมสัน กรีนวู้ด ค่อนข้างจะตอบโจทย์ได้ดีกับการยืนเป็นปีกขวาให้กับทีม แถมยังมีสถิติการซัลโวที่แจ่มเลยที่ตัวเลข 17 ประตู จัดว่าเป็นสถิติที่ไม่ธรรมดาสำหรับเด็กอายุแค่เพียง 18-19 ปี แต่ไปๆ มาๆ โอเล กุนนาร์ โซลชา ก็คงต้องกลับมานั่งทบทวนและชั่งใจเรื่องการเสริมทัพในตำแหน่งดังกล่าวอีกครั้ง เพราะปีนี้ไอ้หนู เมสัน กรีนวู้ด กลับยิงประตูได้จุ๋มจิ๋มเหลือเกิน นับเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ฟอร์มพังมากๆ ในปีนี้ แต่ในทางกลับกันอายุของไอ้หมอนี่ก็ยังน้อยยังมีสิทธิ์พัฒนาและเติบใหญ่ได้อีก

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ - ลิเวอร์พูล

การได้ชื่อว่าเป็นแบ็กขวาเบอร์ 1 ของอังกฤษไม่ใช่สิ่งที่โดนอวยเกินความเป็นจริงสำหรับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ถ้าวัดจากศักยภาพการเติมเกมบุกและทิศทางบอลยามออกจากเท้าที่แม่นยำ ตลอดจนเรื่องของสถิติมันก็ฟ้องอยู่แล้วเขาคือกองหลังที่สร้างสรรค์โอกาสได้มากที่สุด และทำแอสซิสต์ได้เยอะที่สุดตลอดช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ในฤดูกาล 2020-21 ต้องยอมรับว่ามาตรฐานของ น้องเทรนต์ ดร็อปลงไปแบบน่าใจหาย เล่นแบบขาดความมั่นใจ ส่วนการทำแอสซิสต์ก็เพิ่งจะกดไปแค่ 4 ครั้งเท่านั้น ดังนั้นมันจึงไม่แปลกที่พี่แกจะโดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์เล่นงาน ตลอดจนการหลุดโผจากก๊วน ทีมชาติอังกฤษ ในศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก รอบล่าสุดด้วย

เซร์คิโอ อเกวโร่ - แมนเชสเตอร์ ซิตี้

อีกหนึ่งหัวหอกยอดดาวยิงระดับ เวิลด์ คลาส อย่าง เซร์คิโอ อเกวโร่ จากค่าย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยปกติทุกๆ ปีเขาก็เป็นผู้เล่นที่อยู่ในกลุ่มลุ้นดาวซัลโวอยู่แล้ว มีค่าเฉลี่ยการถล่มสกอร์แตะหลัก 20-30 ประตูต่อปี แต่ในฤดูกาลนี้สิ่งที่ทำให้เขาต้องเจอกับปีที่ล้มเหลว เจอปีแห่งความผิดหวังนั่นก็คือปัญหาอาการบาดเจ็บที่รุมเร้าเป็นวิญญาณตามติด เจ็บแล้วเจ็บอีก เจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่า พอกลับมาลงสนามได้แปปๆ ก็เจ็บอีกแล้ว มิหนำซ้ำมันยังส่งผลต่อเรื่องของฟอร์มการเล่นด้วย โดยในซีซั่นนี้พี่บ่าว "เอล กุน" เพิ่งจะยิงไปแค่ประตูเดียวเท่านั้นจากการลงเล่น 9 เกมใน พรีเมียร์ลีก นับเป็นสถิติที่เลวร้ายที่สุดแล้วในอาชีพค้าแข้งเลยก็ว่าได้ ส่วนเรื่องของอนาคตตอนนี้ก็ยังเครื่องหมายคำถามว่าจะเอายังไงต่อ ? หลังมีการคอนเฟิร์มออกมาเรียบร้อยแล้วว่าพอจบปีนี้ เซร์คิโอ อเกวโร่ จะไปจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้

โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ - ลิเวอร์พูล

นี่ก็เป็นอีก 1 ปีที่ชื่อของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ถูกนำไปพูดถึงในแง่ลบกับเรื่องฟอร์มการเล่นเมื่อวัดกับอีกแนวรุกคนอื่นๆ อย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ซาดิโอ มาเน่ และ ดีโอโก้ โชต้า นอกจากปีนี้จะยิงได้น้อยกว่าปีก่อนแล้วพี่แกยังมีสถิติการสร้างสรรค์เกมและทำแอสซิสต์ได้น้อยกว่าเดิมด้วยที่ตัวเลข 6 ประตู กับ 5 แอสซิสต์ จริงอยู่ที่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยังได้โอกาสลงเป็นตัวจริงกับ ลิเวอร์พูล แบบต่อเนื่องที่ 26 นัดใน พรีเมียร์ลีก แต่คุณรู้ไหมว่าพี่แกกลับโดนเปลี่ยนตัวออกถึง 14 เกมด้วยกัน ต้องยอมรับว่านี่ไม่ใช่สัญญาณที่ดีเท่าไหร่ของผู้เล่นที่ได้ชื่อว่าเป็นคนสำคัญของทีม

อดาม่า ตราโอเร่ - วูล์ฟแฮมป์ตัน 

อดาม่า ตราโอเร่ กลายเป็นนักเตะที่อยู่ในเรดาร์การเสริมของทีมใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็น ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล ตลอดจนกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ด้วย นอกจากนี้มีบอดี้สรีระที่บึกบึนกำยำแล้วพี่แกยังเป็นนักเตะที่มีความเร็วสูงด้วย เรียกได้ว่าเบียดปะทะก็ลำบากแล้วไหนจะวิ่งแล้วอีกต่างหาก นับเป็นอีกหนึ่งฝันร้ายของแนวรับคู่แข่งจริงๆ ส่วนเรื่องของผลงานเมื่อปีก่อนก็เด็ดดวงไม่เบากับการซัดไป 6 ประตู และกดไปอีก 9 แอสซิสต์ แต่ดูเหมือนผลงานในปีนี้จะไม่ได้ปังเหมือนกับปีก่อนเลย เพราะในเกม พรีเมียร์ลีก จนถึงตอนนี้ อดาม่า ตราโอเร่ ยังเปิดซิงไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว และก็ทำไปได้แค่ 1 แอสซิสต์เท่านั้น เขาแทบไม่มีส่วนร่วมกับประตูที่ต้นสังกัด วูล์ฟแฮมป์ตัน ยิงได้เลยในปีนี้

HaMu Dos Santos