logo-heading

สาวก "เดอะ ค็อป" คงมีแจก "รวย" กันทั้งบาง เพราะเหลือจะเชื่อว่า ลิเวอร์พูล ทำได้เพียงแค่เสมอกับ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 1-1 ทั้งๆที่มีโอกาสเข้าทำมากถึง 20 ครั้ง แต่กลับกลายเป็นว่าแนวรุกของ หงส์แดง โคตรสากกะเบือ ทั้งจ่อ ทั้งหลุดเดี่ยว แต่ยิงทิ้งยิงขว้างไปหมด ไม่อาจเพิ่มสกอร์เม็ด 2 ไปได้

สุดท้าย นิวคาสเซิ่ล มาทำช็อค ยิงประตูตีเสมอช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้าย เล่นเอา เจอร์เก้น คล็อปป์ ตาค้างปากหวอ ไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่เห็น พร้อมดับฝัน หงส์แดง ขึ้นตำแหน่งท็อปโฟร์ทันที เกมนี้มีอะไรให้พูดถึงเยอะ โดยเฉพาะโอกาสของแนวรุก หงส์แดง เอาเป็นว่าไปดูเรื่องที่น่าสนใจในเกมนี้กันเลยครับ

- นำเร็วจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์

แฟน หงส์แดง อาจจะไม่ชินเท่าไหร่นัก เมื่อทีมรักของพวกเขามาเตะเร็วเป็นคู่แรกของวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 6 โมงครึ่ง ตามเวลาบ้านเรา แต่กระนั้นขุนพล ลิเวอร์พูล ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะเพียงแค่ 4 นาทีแรก พวกเขาก็ซัดประตูขึ้นนำใส่ นิวคาสเซิ่ล ทันที โดยเป็นช็อตที่ ซาดิโอ มาเน่ ครอสเข้าไปในกรอบเขตโทษ กองหลัง สาลิกาดง จะพยายามโหม่งสกัด แต่บอลย้อยอยู่ในกรอบเขตโทษ ไปเข้ามาง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เอาบอลลงม้วนตัวราวดอฟ 1 รอบ ก่อนตวัดยิงด้วยซ้าย บอลพุ่งตุงตาข่าย เป็นประตูขึ้นนำ 1-0 ให้กับ ลิเวอร์พูล แต่หัววัน

- ฌอน ลองสตาฟฟ์ ได้โอกาสหลุด แต่ซัดติด อลิสซอน

ถึง ลิเวอร์พูล จะได้ประตูนำเร็ว และ พยายามบุกใส่ตลอด แต่กระนั้น นิวคาสเซิ่ล ก็ใช้จังหวะฉาบฉวย และ ความสามารถเฉพาะตัวของ อัลล็อง แซงต์-มักซิแม็ง ที่ปั่นป่วนแนวรับ หงส์แดง ได้ดีเหลือเกิน ขาดเพียงแค่จังหวะสุดท้าย ที่ยังไม่สามารถซัดตีเสมอได้ กระทั่งมาถึงจังหวะที่ ฌอน ลองสตาฟฟ์ ชี้ช่องให้เพื่อนจ่ายตัดแนวรับ ลิเวอร์พูล สปีดวิ่งไปตามบอล หลุดเดี่ยวเข้าไปล่อเป้า แต่จังหวะจะง้างเท้า แต่งองค์ทรงเครื่องนานเกินไปหน่อย ทำให้ยิงเบา และ ไม่หนีมือ อลิสซอน มากนัก ทำให้ล้มตัวลงไปปัดไว้ได้ เรียกว่า "สาลิกาดง" พลาดโอกาสทองในการยิงประตูตีเสมอ

- หงส์แดง เพรสซิ่งเร็ว

จากช็อตที่ นิวคาสเซิ่ล พลาดประตูตีเสมอแบบเหลือเชื่อ เหมือนปลุกให้ ลิเวอร์พูล ตื่นจากภวังค์ เพราะหลังจากนั้นขุนพล "หงส์แดง" บุกเป็นพายุ และ ไล่เพรสซิ่งจนคู่แข่งไปไม่เป็น ซึ่งพวกเขาน่าจะได้ประตูที่ 2 แบบสุดๆ จากช็อตที่ สาลิกาดง พยายามเซ็ตบอลจากรอบตัวเอง แต่กองหลังจ่ายบอลพลาด เป็น ซาดิโอ มาเน่ ตัดบอลได้ เขามีเวลาที่จะเลือกจ่ายให้เพื่อน ที่ยืนว่างโล่งๆ โดยเฉพาะ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ ที่ผายมือขอบอล ทว่า มาเน่ ดื้อแพ่ง เลือกไปยิงเอง ก่อนจะติดบล็อคผู้เล่น นิวคาสเซิ่ล บอลกระดอนเข้าทาง ดิโอโก้ โชต้า พยายามจะยิงซ้ำ แต่บอลก็แป้กเท้า ยิงบอลกลิ้งหลุนๆออกหลังไป ไม่ได้ลุ้น

- ซาลาห์ หลุดเดี่ยวยิงพลาดเฉย

ควรจะต้องใส่เลข 2 บนสกอร์บอร์ดไปได้แล้ว เพราะว่าจังหวะหลุดเดี่ยวแบบนี้ของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง แต่เชื่อไหมครับว่าดาวเตะทีมชาติอียิปต์ ทำของง่าย ให้กลายเป็นของยาก ลูกนั้น โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ บรรจงจ่ายแบบ "คีย์พาส" ไปให้กับ ซาลาห์ วิ่งแบบเต็มสปีด หลุดเดี่ยวเข้าไปดวลบ มาร์ติน ดูบราฟก้า ผู้รักษาประตู นิวคาสเซิ่ล ซึ่งเขามีเวลาเลือกทำอะไรได้หลายอย่าง แต่กระนั้นจังหวะสุดท้ายพยายามจะจิ้มสวนตัว ซึ่งกลายเป็นติดเซฟแบบเหลือเชื่อ หลุดเดี่ยวขนาดนี้ ก็ยังไม่อาจบวกสกอร์เป็นลูก 2 ไว้ได้

- ซาดิโอ มาเน่ ตีนบอดจัดๆ

ช่วงราวๆ 10-15 นาทีสุดท้ายของครึ่งแรก ต้องบอกว่า ซาดิโอ มาเน่ เป็นกองหน้าตีนบอด ดูไม่มีความมั่นใจแบบสุดๆ เพราะเขามีโอกาสมากมาย ที่จะยิงประตูเม็ด 2 ให้กับ ลิเวอร์พูล แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าช่วงนี้เขาเป็นอะไร ถึงได้ตีนบอดแบบสุดๆ  ตัดลูกโฉบโหม่ง หรือ วิ่งมาตามนัด แล้วซัดออกหลังไป เพราะจังหวะที่ มาเน่ ควรจะต้องใส่สกอร์ให้กับ ลิเวอร์พูล คือช็อตที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จ่ายถวายพานมาให้กับเขาในกรอบเขตโทษ แบบยืนโล่งๆไม่มีใครประกบ แต่ว่ากลับเชื่องช้า จะพยายามล็อคหลบ ดูบราฟก้า โดนคว้าบอลจากตีน ทำโอกาสหลุดลอยไปอย่างเหลือเชื่อ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าต้องจ่อขนาดไหน ถึงจะยังเข้า

- โจลินตัน แตะหลบ 2 กองหลัง ยิงติด อลิสซอน

ครึ่งหลังยังเป็น ลิเวอร์พูล เหมือนเดิมที่ได้บุกเข้าใส่ แต่ก็ยังไม่สามารถใส่สกอร์เพิ่มได้ ทำให้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ยังคงมีความหวังที่จะยิงประตูตีเสมอ และ พวกเขาเกือบจะทำเซอร์ไพรส์ ซัดใส่ หงส์แดง ได้เหมือนกัน โดยเป็นจังหวะเล่นทีเผลอ โจลินตัน ได้กระชากบอลแตะหลบ 2 เซ็นเตอร์แบ็ก ของ ลิเวอร์พูล ได้ยิงตรงบริเวณกรอบเขตโทษ แต่ทว่าจังหวะนี้ยิงไปตรงตัวของ อลิสซอน ไว้เซฟป้องกันให้ หงส์แดง ไว้ได้เหมือนกัน

- แนวรุก หงส์แดง อย่างทื่อ 

ถ้าเกมนี้ หงส์แดง ไม่อาจเก็บ 3 คะแนน ไม่ต้องไปโทษใครเลยครับ เพราะการจบสกอร์วันนี้ บอกเลยว่า "สากกะเบือ" เรียกพี่ การสร้างสรรค์โอกาสเข้าทำ เอาไปเต็ม 10 แต่การจบสกอร์เอาไป 1 คะแนนพอ ไม่ว่าจะจ่อ จะมีช่องขนาดไหน แต่ก็ยิงนกตกปลากันไปหมด หรือ ถ้าจะตรงกรอบ ก็เป็น ดูบราฟก้า ที่เซฟเอาไว้ได้ จริงๆแล้วไม่ใช่แค่ ซาดิโอ มาเน่ หรอกครับ ที่สร้างความผิดพลาดไว้มากมาย โม ซาลาห์ เองก็ใช่ย่อย เพราะครึ่งหลังก็มีโอกาสเยอะเหมือนกัน แต่ก็ไม่อาจใช้ความเฉียบคม เพิ่มสกอร์เป็น 2-0 ให้กับ ลิเวอร์พูล ได้สักที ไม่รู้ว่าถอดรองเท้าออกมา จะเห็นความทู่กันมากขนาดไหน !!

- VAR ช่วยชีวิต ลิเวอร์พูล

ในเมื่อทำเค้าไม่ได้ ก็จงเตรียมถูกลงโทษ เพราะในช่วงทดเจ็บ กลายเป็น นิวคาสเซิ่ล ที่เรียกพลังฮึด บุกกดดันหนักใส่ ลิเวอร์พูล เพื่อหวังทำประตูตีเสมอให้ได้ และแล้วสิ่งที่แฟนบอล หงส์แดง รู้สึกกลัวมากที่สุด ก็เกิดขึ้นจนได้ นั่นก็คือการถูกตีเสมอ เมื่อ คัลลั่ม วิลสัน วิ่งสปีดไปรับบอลจากการแทงทะลุช่อง หลุดเดี่ยวเข้าไปยิงจังหวะแรกติด อลิสซอน แต่บอลยังเป็นใจกระดอกตกตรงหน้า เบียดกองหลัง ลิเวอร์พูล ก่อนจะซ้ำจ่อๆเข้าไป เป็นประตูตีเสมอ 1-1 แต่ช้าก่อน เพราะจังหวะนี้มีการเช็ค VAR ปรากฎว่าจังหวะที่ วิลสัน ยิงติด อลิสซอน มันกระดอนมาโดนมือ ทำให้ผู้ตัดสินริบสกอร์คืน เนื่องจากตามกฎใหม่ ถ้าบอลโดนมือฝ่ายรุกในกรอบเขตโทษ ไม่ว่ากรณีใดจะแฮนด์บอลทันที

- วิลล็อค ทำช็อคใส่ เดอะ ค็อป

แฟนบอล เดอะ ค็อป ดีใจตดยังไม่ทันหายเหม็น หลังจาก VAR ช่วยชีวิต แต่หนังชีวิตเรื่องนี้ยังดำเนินต่อ เพราะยังมีเวลาให้ นิวคาสเซิ่ล ได้บุกทำประตูตีเสมอ ซึ่งจริงๆแล้วเกมนี้ ผู้ตัดสินชูป้ายทดเจ็บ 4 นาที แต่ทว่าสิงห์เชิ๊ตดำในสนาม ทดเกินมานาทีเศษ เนื่องจากมีผู้เล่นบาดเจ็บ และ เสียเวลาจากการเช็ค VAR การบุกครั้งสุดท้ายของ นิวคาสเซิ่ล ก็ทำเอาแฟนบอล ลิเวอร์พูล ช็อคตาตั้ง เมื่อโยนบอลจากกลางสนามเข้าไปลุ้นในกรอบเขตโทษ เป็น ดไวท์ เกล โหม่งชงมาให้กับ โจเซป วิลล็อค ยืนเหน่งๆ ตรงเส้นกรอบเขตโทษ ก่อนจะซัดเต็มเท้าขวา บอลแฉลบ ฟาบินโญ่ เปลี่ยนทางเข้าประตู เป็นลูกตีเสมอ 1-1 แบบเหลือเชื่อ ทั้งๆที่โดนบุกทั้งเกม ก่อนจบลงด้วย 1 แต้มอันล้ำค่า แต่ทางฝั่ง ลิเวอร์พูล เหมือนเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เพราะพลาดขึ้นไปอยู่ตำแหน่งท็อปโฟร์

ฮาย ฮาวดี้

logoline