ยลโฉม ! 5 ปีกตัวจี๊ด . . . น่าจับตามองใน ยูโร 2020

ใกล้เข้ามาเต็มที่แล้วสำหรับทัวร์นาเมนต์ใหญ่ ศึกชิงแชมป์เจ้าแห่งยุโรป หรือ ยูโร 2020 หนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจและน่าจับตามองมากที่สุด นอกจากทีมไหนจะเป็นแชมป์ ก็คงเป็นนักเตะคนไหนที่จะเฉิดฉายในปีนี้ ?

เมื่อพูดถึง Topic นักเตะคนไหนบ้างที่น่าสนใจ ! วันนี้สิ่งที่ "ขอบสนาม" อยากนำเสนอก็คือ "5 ปีกตัวจี๊ดที่น่าจับตามองที่สุดใน ยูโร 2020" จะมีใครบ้างไปดูกันเลย

จาดอน ซานโช่ - โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

ในยุคที่ อังกฤษ ผลักดันเหล่าแข้งดาวรุ่งหน้าใหม่ขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของชาติ นักเตะที่ฉายแววได้ดีมากๆ เลยคนหนึ่งก็คือ จาดอน ซานโช่ นี่คือนักเตะที่ได้รับการยกย่องในเรื่องของพรสวรรค์ มีความอันตรายรอบด้านทั้งเรื่องของความรวดเร็วคล่องตัว, สกิลการผ่านบอลและความครีเอทีฟในการสร้างสรรค์เกมก็จัดว่าเด็ดดวง ไหนจะมีสถิติการพังประตูที่ดีเยี่ยมไม่แพ้พวกกองหน้าอีกต่างหาก  ถึงปีนี้จะเจอกระแสวิจารณ์เรื่องฟอร์มตกลงไปบ้าง แต่ถึงกระนั้นการซัลโวไป 12 ประตู กดไปอีก 18 แอสซิสต์จากการลงเล่นให้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ 34 นัดในซีซั่นนี้ก็ถือเป็นสถิติที่เยี่ยมสุดๆ ไปเลย เช่นเดียวกับเรื่องของการรับใช้ชาติ จาดอน ซานโช่ ก็เป็นหัวใจสำคัญในแนวรุกมาตลอด แน่นอนว่าเมื่อศักยภาพฝีเท้าอยู่ในระดับที่ร้ายกาจแบบนี้พี่แกจะเป็นที่ได้รับการจับตามองของทุกคนอย่างแน่นอนใน ยูโร 2020 ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งแรกในชีวิตของ จาดอน ซานโช่

เฟร์ราน ตอร์เรส - แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เฟร์ราน ตอร์เรส อาจต้องเหนื่อยหน่อยกับการต่อสู้เพื่อแย่งพื้นที่ตัวจริงในตำแหน่งปีกนับตั้งแต่ย้ายมา แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เพราะที่นี่มีนักเตะฝีเท้าดีๆ หลายคนไม่ว่าจะเป็น ริยาด มาห์เรซ, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ฟิล โฟเด้น รวมถึง แบร์นาโด้ ซิลบา ก็ด้วยเหมือนกัน ถึงจะได้โอกาสน้อยกว่าคนอื่นๆ แต่ไม่ใช่ว่า เฟร์ราน ตอร์เรส ไม่เก่งนะ เขาเป็นผู้เล่นตำแหน่งปีกที่ถนัดทั้งซ้าย-ขวา มีแนวทางการเล่นที่หลากหลาย หวังผลได้จากลูกครอสบอล แถมยังมีทักษะการกระชากลากเลื้อยที่น่าสนใจมากๆ จนถึงขั้นสื่อทางสเปนได้ตั้งฉายาให้พี่แกว่า Dribbler อารมณ์ประมาณว่าเป็น ปีกจอมเลี้ยงที่มีความพลิ้วไหวสูง อะไรทำนองนั้นเลย และในทัวร์นาเมนต์ ยูโร 2020 หนนี้ชื่อของ เฟร์ราน ตอร์เรส ก็ถูกจัดอยู่ในกลุ่มดาวรุ่งที่น่าจับตามอง นั่นก็เพราะตลอดช่วงที่ผ่านมาพี่แกโชว์ฟอร์มวาดลวดลายได้ดีมากๆ กับการรับใช้ ทีมชาติสเปน มีส่วนร่วมและมีบทบาทอย่างมากกับแผนการการเล่นของ หลุยส์ เอ็นริเก้ และนับตั้งแต่ติดธงนัดแรกจนถึงตอนนี้ เฟร์ราน ตอร์เรส รับใช้ทัพ "กระทิงดุ" ไปแล้ว 10 นัด กดไป 6 ประตูด้วยกัน 

ดีโอโก้ โชต้า - ลิเวอร์พูล

กลายเป็นนักเตะระดับซูเปอร์ไปแล้วสำหรับ ดีโอโก้ โชต้า นับตั้งแต่ย้ายจาก วูล์ฟแฮมป์ตัน มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล แบบไม่คิดไม่ฝันเมื่อช่วงต้นซีซั่นที่ผ่านมา ถ้าตัดเรื่องของเกมรับออกไปถือว่า โชต้า ได้เข้ามาเติมเต็มและยกระดับศักยภาพเกมรุกให้ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ มีความน่ากลัวมากขึ้น พื้นฐานของเขาคือเป็นผู้เล่นตำแหน่งปีกที่ยืนได้ในระบบ 4-3-3 และเป็นกองหน้าคู่ในระบบ 4-4-2 แน่นอนว่าจุดเด่นของ โชต้า ก็คือความคล่องตัว ไปกับบอลได้ดี เล่นบอลเป็นระบบ เช่นเดียวกับเรื่องการเคลื่อนที่ ส่วนเรื่องของการทำประตูเราก็สามารถหวังผลจากเขาได้เช่นกันเมื่อถ้าจากการกดไป 12 ประตูในซีซั่นนี้ เมื่อผลงานดีกับ ลิเวอร์พูล มันก็นำมาซึ่งการติด ทีมชาติโปรตุเกส ชุดใหญ่ ถ้านับช่วงเวลาเดียวกันนั้น ดีโอโก้ โชต้า รับใช้ชาติไปแล้ว 10 นัด กดไป 6 ประตู นับเป็นสถิติที่ไม่ใช่ใครๆ จะทำได้ ต้องบอกเลยว่าในศึก ยูโร 2020 ครั้งนี้พวกเหล่าคู่แข่งจะระวังแค่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้, บรูโน่ แฟร์นานเดส, เจา เฟลิกซ์ หรือ แบร์นาโด้ ซิลวา ไม่ได้แล้วนะ เพราะมันยังมี ดีโอโก้ โชต้า อีกคนที่เป็นอีกหนึงไม้เด็ดของทัพ "ฝอยทอง"

แซร์จ นาบรี้ - บาเยิร์น มิวนิค

ทีมชาติเยอรมัน ของ โยอาคิม เลิฟ ก็ถือว่าอยู่ในยุคของการเปลี่ยนถ่ายเลือดใหม่เหมือนกัน ถ้าพูดถึงเฉพาะผู้เล่นแนวรุกที่เป็นตัวความหวังในการล่าสกอร์ตอนนี้ก็จะมี ติโม แวร์เนอร์ และ ก็ แซร์จ นาบรี้ ที่ต่างกดไปคนละ 15 ประตูในการรับใช้ชาติ ถ้าพูดถึงรายหลังโดยธรรมชาติแล้ว แซร์จ นาบรี้ เป็นผู้เล่นในตำแหน่งปีก มีความจี๊ดจ๊าด และความว่องไวพื้นฐานอยู่แล้ว แต่สิ่งที่เป็นจุดเด่นเลยก็คือ เซนส์บอลดี มีการแต่งหาจังหวะยิงประตูเองซึ่งนี่คือสิ่งที่เขาทำได้ดีมากๆ มันก็เลยทำให้เขาถูกจับมายืนเป็นกองหน้าในหลายๆ ครั้ง จริงอยู่ที่ แซร์จ นาบรี้ ได้โอกาสติดธงครั้งแรกกับ เยอรมัน ตั้งแต่ปี 2016 แต่กว่าจะเก่งและกลายเป็นมาเป็นตัวหลักก็ตอนปี 2018 ถึงฤดูกาล 2020-21 ผลงานจะไม่ได้ปังเว่อร์ ซัลโวถล่มทลายแตะหลัก 20 ตุงเหมือนปีก่อน แต่ แซร์จ นาบรี้ ก็ยังรักษามาตรฐานตัวเองได้ดี ส่วนในระดับนานาชาติล่าสุดก็เพิ่งจะยิงประตูได้ ทำแอสซิสต์ได้ มีส่วนกับเกมเยอะด้วย ในช่วง ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก ที่ผ่านมา ดังนั้นในศึก ยูโร 2020 นี้ชื่อของ แซร์จ นาบรี้ จะยังถูกจัดอยู่ในกลุ่มตัวที่อันตรายที่สุดของ เยอรมัน เหมือนเคย 

คิเลี่ยน เอ็มบัปเป้ - ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

เคยมีการบันทึกสถิติว่า คิเลียน เอ็มบัปเป้ คือนักเตะที่วิ่งเร็วที่สุดในโลกลูกหนังยุคปัจจุบัน ดังนั้นถ้าเกิดพูดถึงเรื่องความจี๊ดจ๊าดก็คงตกย้องให้ไอ้เด็กนรกคนนี้จริงๆ ส่วนเรื่องของศักยภาพฝีเท้านี่คงไม่ต้องพูดถึง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความคล่องตัว, เทคนิค หรือสถิติการพังประตูที่ถล่มทลาย เพราะผู้คนทั้งโลกต่างยกให้เขาเป็นเด็กที่เก่งที่สุดในยุคนี้ พร้อมขึ้นชั้นนักเตะเบอร์ 1 ของโลกคนต่อไปเมื่อถึงคราวที่ ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ต้องก้าวลงจากบัลลังก์ ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ครั้งแรกในชีวิต คิเลียน เอ็มบัปเป้ เพิ่งเถลิงบัลลังก์แชมป์โลกกับ ทีมชาติฝรั่งเศส มาเมื่อ 3 ปีก่อนที่ ประเทศรัสเซีย แน่นอนว่าฟอร์มการระเบิดสกอร์ 16 ประตูจาก 42 นัดในการรับใช้ชาติเป็นสิ่งที่ทำให้แฟนบอลทุกคนคาดหวังกันอีกครั้งว่าในศึก ยูโร 2020 หนนี้ คิเลียน เอ็มบัปเป้ เขาจะยังคงเฉิดฉาย เป็นดาวเด่นและจะต้องนำถ้วยแชมป์กลับมาเป็นของขวัญให้ประชาชนทั้งชาติให้จงได้ 

HaMu Dos Santos