8 ตำนาน พรีเมียร์ลีก ชั้นอ๋อง ถูกยกย่องสู่ ‘Hall of Fame’

รางวัล  ‘Hall of Fame’ ของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำปีนี้ ได้จบสิ้นกระบวนความเรียบร้อย เพราะได้เหล่าตำนานนักเตะครบ 8 คน บรรจุลงในหอเกียรติยศ โดยเป็นการสดุดีผลงานอันยอดเยี่ยม ที่พวกเขาเหล่านั้นได้สร้างเอาไว้ในอดีต และ โด่งดังมาจนถึงปัจจุบัน

ชื่อเสียงของอดีตนักเตะทั้ง 8 คนนี้ แทบจะไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอีกแล้ว ว่าทำไมพวกเขาถึงได้ถูกบรรจุเข้าสู่หอเกียรติยศ แต่เพื่อเป็นการเชิดชูฝีเท้า ฉะนั้น ขอบสนาม จะพาไปดูว่าทำไม 8 ตำนาน ถึงได้รับการกล่าวขานเข้าสู่ ‘Hall of Fame’

1. อลัน เชียเรอร์

อลัน เชียเรอร์ ตำนานดาวยิงทีมชาติอังกฤษ ของ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ผู้เคยพา "กุหลาบไฟ" สร้างความยิ่งใหญ่ คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาครอง เมื่อซีซั่น 1994-95 พร้อมเป็นดาวซัลโวของลีกถึง 2 สมัย .. แต่สิ่งที่ ฮอตชอต ถูกจดจำมากกว่านั้น คือการย้ายไปเล่นให้ "สาลิกาดง" ในซีซั่น 1996-97 เชียเรอร์ จารึกการเป็นโคตรดาวยิงให้แฟนบอลได้เห็นเป็นขวัญตาไปทั่วโลก ตลอด 10 ปี ที่เขาสวมเสื้อ "นิวคาสเซิ่ล" ถึงแม้ไม่เคยพาทีมเป็นแชมป์ลีก แต่ตำนานรายนี้ ยิงให้กับทีมรวมทั้งสิ้น 206 ประตู จากการลงสนาม 405 นัด กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ สาลิกาดง  และ หากรวมสมัยอยู่กับ แบล็คเบิร์น ไปด้วยแล้วนั้น อลัน เชียเรอร์ ยิงบนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มากถึง 260 ตุง เยอะที่สุดตลอดกาลของ พรีเมียร์ลีก และ ยังไม่มีใครใกล้เคียง จะมีแค่ เซร์คิโอ อเกวโร่ ดาวยิง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ซัดไป 181 ประตู แต่เขาเตรียมย้ายออกจาก เรือใบสีฟ้า หลังจบซีซั่นนี้แล้ว ชีวิตของ เชียเรอร์ สามารถประสบความสำเร็จได้มากกว่านี้ แต่กระนั้นเส้นทางค้าแข้งของเขา เลือกทำตามหัวใจสำคัญที่สุด

2. เธียร์รี่ อองรี

เธียร์รี่ อองรี สุดยอดกองหน้าที่ดีที่สุดตลอดกาลคนหนึ่งของ อาร์เซน่อล และ ของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นกองหน้าที่ครบเครื่องสุดๆ โดดเด่นทั้งยิงประตู และ แอสซิสต์ โดยในซีซั่น 2002-03 "คิง อองรี" ซัลโวไป 24 ตุง และ ทำได้อีก 20 แอสซิสต์ ยังเป็นคนเดียวที่ทำได้ทั้ง 2 อย่าง แตะหลัก 20 ลูก ในฤดูกาลเดียว ไม่เคยมีใครทำได้จนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ เธียร์รี่ อองรี ยังถือเป็นบุคคลสำคัญ ที่พาทัพ "ไอ้ปืนใหญ่" คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยุคไร้พ่าย มาครอง เมื่อซีซั่น 2003-04 โดยยังเป็น "ดิ อินวินซิเบิ้ลส์" ทีมเดียว ที่สามารถทำได้ จนถึงปัจจุบันเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ผลงานที่ทำให้ "คิง อองรี" ถูกบรรจุเข้าสู่หอเกียรติยศ ไม่ใช่เพียงการเป็นแชมป์กับ "ไอ้ปืนใหญ่" เท่านั้น แต่เป็นฟอร์มส่วนตัวที่ไม่มีแผ่ว และ ต้องจารึกเอาไว้เป็นสถิติให้คนรุ่นหลังมาทำลาย เมื่อเขาคว้ารางวัลดาวซัลโว พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถึง 4 สมัย และ ซัลโวเกิน 20 ตุง เป็นเวลา 5 ซีซั่นติดต่อกัน ซึ่งยากมากที่ใครจะทำแบบนั้นได้ ไม่แปลกที่ อองรี จะเป็นดาวยิงตลอดกาลของ "ไอ้ปืนใหญ่" และ ถูกบรรจุเข้าสู่หอเกียรติยศตั้งแต่ 2 คนแรก

3. เอริค คันโตน่า

ดาวยิงคอปกตั้ง เอริค คันโตน่า ตำนานหัวหอก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่เด็กยุค 90 จะต้องเลียนแบบกันแทบทุกคน ยามลงเตะฟุตบอลกับเพื่อนๆ เพราะมันบางบอกถึงความเฟี้ยวฟ้าว ฉะนั้น ก็องโต้ นับเป็นอีกหนึ่งไอค่อน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่สร้างผลงาน และ วีรกรรมแสบๆให้จดจำไว้มากมาย คันโตน่า ถือว่าเป็นผู้บุกเบิก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ผู้บัญญัติฟุตบอลให้ดูทันสมัย ไม่ใช่แค่เก่งยิงประตู แต่มันต้องเหนือชั้น ไม่ใช่แค่ความมันส์ แต่ต้องพิเศษเหนือใครๆ การย้ายมาของ "ก็องโต้" เปลี่ยนหน้าประวัติศาสตร์สโมสร แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในทันที หลังย้ายมาจาก ลีดส์ ยูไนเต็ด คู่อริตลอดกาล ด้วยเม็ดเงินราวๆ 1.2 ล้านปอนด์ เมื่อปี 1992 เขาไม่ใช่คนที่สุภาพนอบน้อม แถมหยิ่งผยองด้วยซ้ำ ซึ่งเหมือนจะเลวร้าย แต่เปล่าเลย ความเป็นตัวตนของ คันโตน่า ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยุคปฐมบทสร้างความยิ่งใหญ่ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เหนือผู้ใด ก็องโต้ ทั้งยิงประตู และ แอสซิสต์ สำคัญๆมากมาย เขาพาทีม ปีศาจแดง คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถึง 4 สมัย และ เอฟเอ คัพ อีก 2 ครั้ง จากทีมที่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่มากนักในยุค 80 และ มีปัญหาเรื่องจบสกอร์ แต่ คันโตน่า ทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สลัดเรื่องแย่ๆเหล่านั้นจนหมดสิ้น 185 นัด 82 ประตู ต่อให้มีคดีฉาว "กังฟูคิก" กระโดดถีบใส่แฟนบอล คริสตัล พาเลซ แต่ผลงานอันยอดเยี่ยมและเหนือชั้นที่เขาได้ฝากเอาไว้ มันคู่ควรอย่างยิ่ง แก่การถูกบรรจุลงใน "ฮอล ออฟ เฟม"

4. รอย คีน

ถึงแม้ รอย คีน จะเป็นพวกปากแซ่บ พูดจาขวานผ่าซาก ไม่ค่อยแคร์ความรู้สึกใครสักเท่าไหร่ แต่นั่นแหละครับ ถ้าคุณจะเกลียด ก็ให้เกลียดในแบบที่เขาเป็น เพราะนอกสนามดุดันยังไง ในสนามก็ดุดันแบบนั้น เผลอๆจะโหดเหี้ยมกว่าด้วยซ้ำ เนื่องด้วย รอย คีน คือตำนานมิดฟิลด์ฮาร์ดแมนแห่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผู้นำในสนามที่คอยปกป้อง, สั่งสอนน้องๆ ยามทำตัวไม่น่ารัก หรือ โดนรังแก ซึ่งในยุคหนึ่งเขาเป็นไม้เบื่อไม้เมากับ ปาทริค วิเอร่า อดีตมิดฟิลด์จาก อาร์เซน่อล แต่กระนั้น "คีโน่" ถือว่าเป็นนักเตะที่ค้าแข้งในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ และ ประสบความสำเร็จ มาอย่างยาวนาน รอย คีน ถูกยกย่องให้เป็นกัปตันที่ดีที่สุดตลอดกาลของ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภาพลักษณ์เขาอาจจะดูโหดร้าย แต่นี่แหละคือนักเตะที่ทุกทีมต้องการ เขามีส่วนสำคัญพา แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นแชมป์ลีก 7 สมัย ทุกวันนี้เวลาที่นักเตะ ปีศาจแดง ขาดแพสชั่น หรือ สนใจสิ่งเร้ารอบตัวอาทิเล่น โซเชี่ยล มากเกินไป ทำให้ คีโน่ จะถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงบ่อยครั้ง ว่าถ้ามีกัปตันแบบเขาอยู่ในทีม จะไม่มีใครกล้าทำพฤติกรรมที่ดูไม่มีความมุ่งมั้นอย่างแน่นอน

5. แฟร้งค์ แลมพาร์ด

แฟร้งค์ แลมพาร์ด ตำนานมิดฟิลด์ของ เชลซี ผู้ที่เติบโตมากับครอบครัวฟุตบอลโดยแท้ ใครจะเชื่อล่ะครับว่าเด็กหนุ่มจาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ซึ่งเคยถูกครหาว่าเป็นเด็กเส้น เพราะบารมีคุณพ่อ จะย้ายเข้ามาสู่รั้ว สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อปี 2001 ด้วยค่าตัวแค่ราวๆ 11 ล้านปอนด์ และ สร้างผลงานอันเป็นตำนาน ที่ต้องจารึกลงไว้ในพงศาวดารสโมสร "ซูเปอร์แฟร้งค์" เหมือนได้บัญญัติหน้าที่ของตำแหน่ง "มิดฟิลด์ตัวรุก" ขึ้นมาใหม่ นั่นคือการ "ทำประตู" แบบเป็นกอบเป็นกำ เพราะสไตล์ของเขาไม่ได้โดดเด่นแค่เรื่องการจ่ายบอล แต่เป็นการยิงประตูอันหนักหน่วงและเฉียบคม ชนิด "เปรี้ยงเดียวหาย" ไม่เชื่อลองดูสถิตินี่ซิครับ ตลอดเวลาที่ แลมพาร์ด ค้าแข้งในสีเสื้อ เชลซี 648นัด ซัลโวไปถึง 211 ประตู กลายเป็นนักเตะที่ทำประตูได้มากสุดตลอดกาลของสโมสร ทั้งที่ไม่ใช่กองหน้า  ยุคสมัย เชลซี ครองเมืองที่มี แลมพาร์ด เป็นกองกลาง และ ได้ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา เป็นศูนย์หน้า บอกเลยว่าพร้อมไฝว้ทั่วราชอาณาจักร ซึ่งตัวของ แลมพ์ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ สิงห์บลูส์ คว้าทุกแชมป์เมเจอร์บนเกาะอังกฤษ และ ที่มันยิ่งใหญ่ไปกว่านั้นก็คือการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครอง ไม่แปลกเลยที่ แฟร้งค์ แลมพาร์ด เป็นตำนานที่แฟนบอลเทิดทูน และ ก็ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์ ในการถูกบรรจุเข้าสู่ฮอล ออฟ เฟม

6. เดนนิส เบิร์กแคมป์

เวลาพูดถึง อาร์เซน่อล ยุค "ดิ อินวินซิเบิ้ลส์" ผู้คนมักจะนึกถึง อาร์แซน เวนเกอร์ หรือ เธียร์รี่ อองรี เป็นหลัก แต่เชื่อเถอะว่าในหัวของสาวก "เดอะ กันเนอร์ส" พร้อมลำดับชื่อของ เดนนิส เบิร์กแคมป์ ให้มาอยู่ต้นๆ กับบุคคลที่่ช่วยให้สโมสรประสบความสำเร็จมากมาย เพราะ เบิร์กแคมป์ อยู่ค้าแข้งให้กับ "ไอ้ปืนใหญ่" จนแขวนสตั๊ด นานถึง 11 ปี นับตั้งแต่ย้ายมาจาก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัมส์ เมื่อซีซั่่น 1995-96 เรียกว่าเป็นยุคปูรากฐานสู่ความสำเร็จ เนื่องด้วยตำนานรายนี้ ช่วยให้ อาร์เซน่อล คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ถึง 3 สมัย และ เอฟเอ คัพ อีก 4 สมัย แฟนบอลรุ่นใหม่ อาจจะไม่ทันเห็น เบิร์กแคมป์ วาดลวดลายในสนาม แต่ถ้าไปถามสาวกรุ่นใหญ่ เชื่อว่าคำพูดที่หลุดจากปาก คงจะมีแต่คำยกย่อง ถึงแม้ เบิร์กแคมป์ จะไม่ได้มีความเร็ว เหมือนรถไฟ "ชินคันเซน" แต่คลาสบอลของเขา เข้าขั้น “คลาสสิค” ทำลูกโคตรยาก ให้กลายเป็นของง่าย ฉายา "ดิ ไอซ์เบิร์ก" จึงถือกำเนิดมาบนโลก และ มันเหมาะสมอย่างยิ่ง ฟอร์มการเล่นอาจจะอยู่แค่ชั่วคราว แต่ "คลาส" มันจะอยู่ยาวนานตลอดไป หลายๆครั้งที่พวกเราเห็นไฮไลท์จาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยุคเก่า จะมีช็อตที่ เบิร์กแคมป์ แตะบอลด้วยเท้าซ้าย ก่อนหมุนตัวหนีผู้เล่น นิวคาสเซิ่ล พลิกเข้าไปยิงประตูด้วยเท้าขวา นั่นแหละครับคือความคลาสสิค ที่หาได้ในตัวนักเตะคนนี้ ซึ่งจังหวะนั้นเป็นเพียงแค่เสี้ยวหนึ่งของชายที่ชื่อ เดนนิส เบิร์กแคมป์ การถูกบรรจุเข้า ฮอล ออฟ เฟม เป็นอะไรที่ไม่เกินเลยไปสักนิด

7. สตีเว่น เจอร์ราร์ด

วางอคติลงไปก่อน แล้วมองไปถึงสิ่งที่ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ทำไว้กับ ลิเวอร์พูล เขาทำเพื่อสโมสรแห่งนี้ทุกอย่าง หยาดเหงื่อและหยดเลือดทุกหยด แทบจะหายใจเป็น หงส์แดง เท่านั้น จริงอยู่ที่ "สตีวี่ จี" ไม่สามารถคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้เหมือนกับตำนานคนอื่นๆ ที่ถูกบรรจุเข้า "ฮอล ออฟ เฟม" แต่กระนั้น เจอร์ราร์ด นับว่าเป็นมิดฟิลด์ ที่บรรดานักเตะซูเปอร์สตาร์ และ กุนซือดังๆหลายคนทั่วโลก ให้การยอมรับในเรื่องของฝีเท้า และ ความเป็นผู้นำ .. เจอร์ราร์ด เคยถูกยกย่องคนให้เป็นกองกลางดีที่สุดยุคหนึ่ง .. โดยอดีตกัปตันเลือด "สเก๊าเซอร์" ลงสนามให้กับสโมสรแห่งนี้ ไปถึง 504 นัด มากที่สุดเป็นอันดับ 11 ของสโมสร นับตั้งแต่เปิดซิงเมื่อตอนอายุ 18 ปี เท่านั้น ถึงแม้ เจอร์ราร์ด จะไม่ได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่เขาเป็นกัปตัน "แฟนตาสติค" ในใจสาวก เดอะ ค็อป ตลอดกาล ทั้งประตูและการปลุกใจ นำมาสู่ค่ำคืนแห่ง อิสตันบูล ด้วยการพลิกชนะ เอซี มิลาน คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือ ช็อตวอลเล่ย์ปาฏิหาริย์ยิงใส่ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด นำ หงส์แดง ซิวโทรฟี่ เอฟเอ คัพ มันจะถูกกล่าวขานไปอีกนานแสนนาน หากปีนี้ เจอร์ราร์ด ไม่ถูกบรรจุอยู่ใน ฮอล ออฟ เฟม ไม่ช้าก็เร็ว จะมีชื่อของเขาอยู่แน่นอน

8. เดวิด เบ็คแฮม

เดวิด เบ็คแฮม โด่งดังขนาดไหนนะเหรอ ลองไปถามแม่ๆของทุกคนดูซิ ว่ารู้จัก พี่เบ็คส์ รึเปล่า เพราะต่อให้คนที่ไม่ดูฟุตบอล หรือ ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเกี่ยวกับวงการลูกหนัง แต่กระนั้นความเป็นซูเปอร์สตาร์ของ เดวิด เบ็คแฮม มันดังทะลุฟ้ามาจนถึงคนรอบตัวเราจริงๆ เบ็คแฮม คือหนึ่งในตำนานแข้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ถูกบรรจุเข้าสู่ ฮอล ออฟ เฟม ตามรอย เอริค คันโตน่า และ รอย คีน แต่เขานับว่าเป็นนักเตะคนแรกของ ยุค คลาส ออฟ 92 แซงหน้า ไรอัน กิ๊กส์ ซึ่งต้องหลุดโผออกไปจากคดีฉาวทำร้ายร่างกาย เบ็คแฮม ไม่ได้มีหน้าตาอันหล่อเหล่าเป็นอาวุธอย่างเดียวเท่านั้น แต่การปั่นโค้งๆนับว่าเป็นเอกลักษณ์เหลือเกิน เพราะเขามีทีเด็ดในการยิงลูกฟรีคิก และ เปิดลูกเตะมุม พร้อมสร้างความสำเร็จมาให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, เอฟเอ คัพ รวมถึง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก โดยช็อตยิงไกลครึ่งสนาม นัดเจอ วิมเบิลดัน เมื่อซีซั่น 1996-1997 ยังคงตราตรึงมิรู้ลืม

ฮาย ฮาวดี้