รวม! 5 ดาวยิงฟอร์มเด่นประจำรอบแบ่งกลุ่มศึกยูโร

จบลงไปแล้วสำหรับรอบแบ่งกลุ่มศึกยูโร 2020 ซึ่งยิงกันอุตลุดสนุกสนาน ชาติดังๆ ต่างพาเหรดเข้าสู่รอบน็อคเอ้าท์ได้ทั้งหมด ซึ่งก็มีนักเตะหลายรายที่ถูกพูดถึง 2-3 วันมานี้ อัลบาโร่ โมราต้า กองหน้าทีมชาติสเปน นี่มาแรงมากนะ แต่ไม่ได้แรงในด้านดี โดนด่าล้วนๆ เต็มหน้าฟีดไปหมด

ฉะนั้นวันนี้เราขอเปลี่ยนฟีลลิ่งกันบ้าง เลิกสน โมราต้า ปืนฝืดสักแปป หันมาดูแข้งตีนคมที่ไม่ค่อยได้รับคำชมมากสักเท่าไหร่กันดีกว่า เพราะคนมัวแต่ไปสนไปล้อ โมราต้า กันหมด 555 ว่าแล้วไปดูกันเลย 5 ดาวยิงฟอร์มเด่นประจำรอบแบ่งกลุ่มที่เราคัดมาจะมีใครกันบ้าง

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ - โปรตุเกส

รวม! 5 ดาวยิงฟอร์มเด่นประจำรอบแบ่งกลุ่มศึกยูโร

เปิดหัวประเดิมคนแรกก็คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ซูเปอร์สตาร์กัปตันทีมชาติโปรตุเกส ที่ตะบันไปแล้วถึง 5 ประตู จาก 3 นัดที่ผ่านมา แม้ว่าจะเป็น 3 ตุดโทษก็เหอะ แต่ก็สุดยอดอยู่ดี ตอนนี้ขึ้นนำเป็นดาวซัลโวเดี่ยวประจำทัวร์นามเม้นท์นี้ไปเป็นที่เรียร้อยแล้ว แถมยังทำได้ 1 แอสซิสต์อีกต่างหาก เท่านั้นไม่พอ 5 ประตูที่ยิงได้จาก 3 นัดแรกในรอบแบ่งกลุ่มนี้ ก็ทำให้ "ซีอาร์ 7" ในวัย 36 ย่าง 37 ปี ซัดให้ทัพ "ฝอยทอง" ชุดใหญ่ไปแล้วถึง 109 ประตู ทาบสถิติสูงสุดในโลกของ อาลี ดาอี ตำนานแข้งทีมชาติอิหร่าน ได้เป็นที่เรียบร้อย ขอแค่ประตูเดียว พี่โด้ ก็จะขึ้นแท่นยืน 1 เป็นคนเดียวเดี่ยวๆ ในโลกใบนี้ที่ยิงประตูให้ทีมชาติได้มากที่สุดในโลก ซึ่งเผลอๆ ประวัติศาสตร์หน้าใหม่อาจจะเกิดขึ้นในศึกยูโรหนนี้เลย ก็เป็นได้. ..

โรเมลู ลูกากู - เบลเยี่ยม

หัวหอกฟอร์มแรงที่เป็นกำลังสำคัญช่วยพา อินเตอร์ มิลาน ผงาดคว้าแชมป์ สคูเด็ตโต้ มาครองได้สำเร็จในฤดูกาลที่ผ่านมา ถูกหมายหัวเอาไว้ว่าจะเป็นหนึ่งในตัวเต็งลุ้นดาวซัลโวลศึกยูโรหนนี้ เพราะนอกจาก "พี่ตู้" ในวัย 28 ปี กำลังฟอร์มเข้าฝักแล้ว เบลเยี่ยม ก็ยังเป็นชาติที่มีตัวป้อนบอลชั้นเลิศมากมายหลายตัว ซึ่ง ลูกากู ก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง ลูกากู ประเดิมด้วยการกด 2 ประตู ในเกมแรกที่ถล่ม รัสเซีย ไป 3-0 ก่อนจะฝืดเล็กน้อยปล่อยให้ เควิน เดอ บรอยน์ เป็นพระเอกบ้างในเกมที่พลิกกลับมาเอาชนะ เดนมาร์ก ได้ 2-1 ประตู ก่อนที่นัด 3 จะยิงช่วงท้ายเกมปิดกล่องฝัง ฟินแลนด์ 2-0 พาทัพ "ปีศาจแดงแห่งยุโรป" จบเป็นแชมป์กลุ่มด้วยการมี 9 คะแนนเต็ม โดย ลูกากู หาโอกาสยิงรวมได้ทั้งหมด 7 ครั้งจาก 3 นัด ซึ่งถือว่าไม่ได้เยอะมาก แต่เฉียบขาดใช้ได้ เพราะตรงกรอบไป 4 เปลี่ยนเป็น 3 ประตูได้

โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ - โปแลนด์

ไม่มีใครกล้าเถียงหรอกครับว่า โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ไม่ใช่กองหน้าระดับโลก เพราะพี่แกก้าวข้ามผ่านจุดนั้นมานานแล้ว ไม่มีอะไรต้องให้พิสูจน์ตัวเองอีก ว่ากันว่าถ้าปีที่แล้วไม่มีโรคโควิดระบาด พี่แกนี่แหละที่จะเป็นผู้คว้ารางวัล บัลลงดอร์ ไปครองด้วยซ้ำ ทว่าในนามทีมชาติ ว่ากันตามตรงมันยากมากที่พี่แกจะประสบความสำเร็จ เพราะทุกวันนี้ เลวานดี้ ในฐานะกัปตันทีมชาติคือ "เดอะ แบก" ที่เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว แต่สุดท้ายก็ไม่ดีพอที่จะพา โปแลนด์ ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอ้าท์ หัวหอกวัย 32 ปี พยายามแล้วพยายามอีกในการส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่าย สโลวาเกีย ในเกมแรกแต่ไม่เป็นผล สุดท้ายกก็แพ้ไป 1-2 ประตู แต่มานัดที่ 2 เจอของแข็งอย่าง สเปน เลวานดอฟสกี้ ก็แผลงฤทธิ์ยิงได้แล้ว และเป็นการช่วยให้ โปแลนด์ ตามตีเสมอ "กระทิงดุ" 1-1 เก็บ 1 คะแนนสำคัญได้ลุ้นกับ สวีเดน ในนัดสุดท้าย ซึ่งพอมาถึงนัดสุดท้าย ดาวยิงจาก บาเยิร์น มิวนิค ก็แสดงให้เห็นอีกครั้งว่าเขาคือ "เดอะแบก" ของแท้ เมื่อเหมา 2 ประตู แต่กองหลังเพื่อนร่วมทีมดันรั่วยับ ทำให้สุดท้ายแพ้ไป 3-2 กระเด็นตกรอบไปด้วยการเป็นบ๊วยของกลุ่ม แต่ผลงานส่วนตัวของ เลวานดี้ ถือว่าดีเลยเพราะยิงได้ถึง 3 ลูก จากการที่มีเพื่อนร่วมทีมที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวยสักเท่าไหร่ ก็ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว

แพทริค ชิค - สาธารณรัฐเช็ก

กองหน้าจาก ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ถือว่าเป็นม้ามืดที่ทำเซอร์ไพร้ส์ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว หลังมีเอี่ยวขึ้นมาลุ้นเป็นดาวซัลโวประจำทัวร์นาเม้นท์ แต่แม้ผลงานการกระหน่ำประตูกับทัพ "ห้างขายยา" ในฤดูกาลที่ผ่านมาจะไม่ได้ดีเด่อะไรมาก กดไป 13 ประตู จาก 36 นัด ทว่าถ้าเวลาเล่นทีมชาติ ชิค มักจะทำได้ดีนะ ก่อนทัวร์นาเม้นท์นี้จะเริ่มก็ยิงไป 11 ประตูจาก 26 นัด ซึ่งพอประเดิมเปิดสนามเกมแรก แข้งวัย 25 ปี ก็สร้างความฮือฮาด้วยการเหมา 2 ประตูช่วยให้ เช็ก เอาชนะ สก็อตต์แลนด์ แดนน้ำเมาไปได้ 2-0 ประตู ยิ่งไปกว่านั้น 1 ใน 2 ประตูนั้นยังเป็นประตูที่เจ้าตัวฉวยโอกาสยิงไกลครึ่งสนามเข้าประตูไปซะด้วย มีลุ้นเป็นประตูยอดเยี่ยมประจำทัวร์นาเม้นท์นี้เลย ไม่เพียงแค่นั้นนัดถัดมา ชิค ยังคงโชว์ความยอดเยี่ยม แสดงความนิ่งยิงลูกโทษเข้าไปช่วยให้ขึ้นนำ โครเอเชีย 1-0 ก่อนจะจบลงด้วยผลเสมอ 1-1 ก่อนที่ในนัดสุดท้ายเกมนี้เจอเต็งแชมป์กลุ่มอย่างอังกฤษ ชิค หาโอกาสไม่ค่อยจะได้มากนัก แล้วก็ยิงไม่ได้สุดท้ายทีมแพ้ไป 1-0 แต่ก็ยังดีพอที่จะผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ในฐานะอันดับ 3 ที่ดีที่สุด

จอร์จินิโอ้ ไวจ์นัลดุม - ฮอลแลนด์

คนสุดท้ายนี้นี่ก็ถือว่าเซอร์ไพร้ส์พอๆ กับ แพทริค ชิค เลย แล้วก็เป็นคนเดียวในลิสต์นี้ที่ไม่ได้เป็นกองหน้าธรรมชาติ เพราะ จินี่ ไวจ์นัลดุม ถือว่าเป็นนักเตะตำแหน่งกองกลางตัวบัญชาเกม ใครเล่าจะไปคิดว่าน้าแกจะท้อปฟอร์มตะบันไปซะ 3 ประตูจาก 3 นัด ขึ้นนำเป็นดาวซัลโวประจำทัพ "อัศวินสีส้ม" ในทัวร์นาเม้นท์นี้ซะงั้น เล่นเอา เมมฟิส เดปาย อายไปเลยทีเดียวเชียว โดย 3 ประตูที่ ไวจ์นัลดุม ทำได้นั้นมาจากเกมแรกที่ ฮอลแลนด์ เฉือนเอาชนะ ยูเครน ไปอย่างสุดมันส์ 3-2 ประตู ส่วนอีก 2 ประตูมาจากเกมนัดที่ 3 ซึ่งจริงๆ "อัศวินสีส้ม" เข้ารอบไปแล้วด้วยแต่ก็ยังจัดหนักจัดเต็ม ไวจ์นัลดุม เองก็เช่นกัน ยิงอย่างมั่นใจกดไปเพิ่มอีก 2 ประตูช่วยให้ ฮอลแลนด์ ชนะ มาซิโดเนียเหนือ ไป 3-0 ประตู ซึ่งน่าเหลือเชื่อตรงที่ว่า ฤดูกาลที่ผ่านมา แข้งวัย 30 ปี ลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก ให้ ลิเวอร์พูล ไป 38 นัด เพิ่งจะยิงได้แค่ 2 ประตูเท่านั้น แต่นี่กับทีมชาติไม่รู้พี่แกไปโดนตัวไหนมายิงเป็นหายทะลวงตาข่ายไปแล้ว 3 ตุง