ทำความรู้จัก! ตราหมี ด่านหินที่อาจพังงานอำลา เวนเกอร์

เป็นที่ทราบกันดีแล้วนะครับว่า อาร์แซน เวนเกอร์ จะก้าวลงจากบังเหียน อาร์เซน่อล หลังจบฤดูกาลนี้ ยุติบทบาทในทัพ "เดอะ กันเนอร์ส" ไว้ที่ 22 ปีเต็ม แม้จะมีข่าวว่า "เจ๊" ไม่ได้อยากออก แต่โดนบีบให้ออกก็ตามที

จากการประกาศแยกทางกันสิ้นซีซั่นนั่นหมายความว่าแชมป์สุดท้ายที่ เจ๊เหี่ยว มีโอกาสจะพา อาร์เซน่อล สอยมาครอบครองได้นั้นก็คือยูฟ่า ยูโรปา ลีก ซึ่งทะลุผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศได้แล้ว ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่แค่ที่การคว้าแชมป์ แต่ยังมีโควต้ายูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นเดิมพันอีกด้วย แม้ เวนเกอร์ จะไม่ได้คุมต่อแล้วก็ตาม แต่ก็คงอยากจะลงสวยๆ ด้วยแชมป์ พร้อมพาทีมที่เขารักไปเล่นถ้วยใหญ่สุดของยุโรปให้ได้

ทำความรู้จัก! ตราหมี ด่านหินที่อาจพังงานอำลา เวนเกอร์

ถ้าเทียบเป็นเกมการเข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ก็เหมือนว่ามาเจอกับรองหัวหน้าแล้ว ทว่ารองหัวหน้าตัวนี้ที่ "ปืนใหญ่" ต้องเจอมันดันน่ากลัวกว่าบอสใหญ่ที่ชื่อ มาร์กเซย หรือ ซัลซ์บวร์ก ที่มีโอกาสเจอกันในรอบชิงซะอีก เพราะรองหัวหน้านี้มีชื่อว่า "แอตเลติโก มาดริด" "ตราหมี" ทีมที่ซึ่งเข้าชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ครั้ง ใน 4 ปี หลัง และ 9 ปีหลังสุด คว้าแชมป์ยูโรปา ลีก มาแล้ว 2 สมัย ขณะที่ "ปืนใหญ่" ห่างหายจากอะไรเทือกนี้มานานนมแล้ว ฉะนั้นนี่ไม่ใช่งานง่ายเลยสำหรับ เวนเกอร์ ที่จะพาตัวเองประสบความสำเร็จก่อนก้าวลงจากเก้าอี้ ว่าแล้ววันนี้ผมก็เลยขอถือโอกาสยกสัก 5 ข้อเด่นของ แอต.มาดริด ชุดนี้มาให้ดูกัน เผื่อแฟนปืนคนไหนไม่เคยดูฟอร์ม "ตราหมี" ว่ามีดีอย่างไร

1.เสียประตูยาก

[caption id="attachment_8628" align="aligncenter" width="500"]

AFP[/caption] ขึ้นชื่อลือชาเรื่องเกมรับที่เหนียวแน่นอยู่แล้วสำหรับทัพ "ตราหมี" หากนับใน ลา ลีกา สเปน พวกเขาคือทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในลีก โดยโดนล่อเป้าไปเพียงแค่ 18 ตุง จากการลงเล่น 34 นัด เหตุผลที่เสียน้อยนอกจากเรื่องของแท็คติกที่เน้นรับแล้วโต้ ก็ยังมีผู้รักษาประตูที่เหนียวหนึบอย่าง แยน โอบลัค แนวรับมากประสบการณ์ ดิเอโก้ โกดิน ที่ผสมผสานจับคู่กับดาวรุ่งอย่าง โฆเซ่ คิเมเนซ ได้อย่างลงตัว

2.เข้าปะทะหนัก

[caption id="attachment_5360" align="aligncenter" width="500"]

AFP[/caption] ข้อนี้ถ้าให้พูดจริงๆ ก็ต้องบอกว่ามาจากแท็คติกของ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซืออีกนั่นหละ เนื่องด้วยตัวโค้ชเองสมัยเป็นนักเตะก็ดิบ เถื่อน ห่าม เข้าหนักอยู่แล้ว ดีเอ็นเอเลยถูกถ่ายทอดมาสู่ลูกทีม แต่แม้จะเข้าปะทะหนัก ทว่าก็เล่นในเกม ไม่ได้นอกเกมอะไร แถมมักจะเข้าปะทะแล้วทำได้ดี แย่งบอลได้หลายหน โดยที่ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาล์วด้วย ซึ่งการเจอกับ อาร์เซน่อล ที่ได้ชื่อว่าทีมกระดูกยุง ผู้เล่นเจ็บง่าย เห็นแล้วก็เสียวๆ แทนแฟนปืนเลย

3.ในบ้านแข็งแกร่ง

ผลงานการเล่นในบ้านของ แอต.มาดริด ในฤดูกาลนี้คือจุดเด่นที่ทำให้พวกเขาผงาดรั้งรองจ่าฝูง ลา ลีกา อยู่ในขณะนี้ เพราะ ณ ปัจจุบันลงเล่นเกมลีกในบ้านมาแล้ว 17 นัด ยังไม่ได้ใคร แบ่งเป็นชนะ 12 เสมอ 5 ยิ่งไปกว่านั้น 11 นัดหลังสุดที่ "ตราหมี" ได้เฝ้ารังรวมทุกถ้วยทุกรายการ พวกเขายังไม่เสียประตูเลยแม้แต่ลูกเดียว เค้ามีแต่เปลี่ยนสนามใหม่แล้วจะไม่ถนัด แต่ใช้ไม่ได้กับทีมนี้จริงๆ เปลี่ยนจาก บิเซนเต้ กัลเดรอน มาเป็น วานดา เมโทรโปลิตาโน่ ความจุเกือบ 70,000 คน ผลงานดีขึ้นชัดเจนมาก

4.กองหน้าไว้ใจได้

[caption id="attachment_10907" align="aligncenter" width="500"]

AFP[/caption] การได้ ดิเอโก้ คอสต้า มาเสริมทัพเมื่อช่วงตลาดเดือนมกราคมที่ผ่านมา ถือว่าตอบโจทย์ เพราะมีคนช่วยแบ่งเบาภาระของ อ็องตวน กรีซมันน์ ไปได้เยอะ น่าเสียดายหากไม่ไปทำผิดกฏจนโดนแบน เอามาใช้งานได้ตั้งแต่ต้นฤดูกาล อาจได้ลุ้นแชมป์ลีกกับ บาร์เซโลน่า มันส์กว่านี้ กลับมาที่เรื่องกองหน้าไว้ใจได้ กรีซมันน์ ไม่ต้องพูดถึงคมกริบ ถ้าย้ายตัวก็ราคาไม่ต่ำกว่า 100 ล้านปอนด์ ส่วน คอสต้า ก็คุ้นเคยกับสไตล์บอลอังกฤษดีอยู่แล้ว สมัยอยู่กับ เชลซี ก็ซัด อาร์เซน่อล ไป 4 ตุง จาก 8 เกม ไหนจะอะไหล่อย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ก็เคยเปรี้ยงปร้างที่อังกฤษมาแล้วเช่นกัน

5.ดิเอโก้ ซิเมโอเน่

สำหรับผมที่ว่ามา 4 ข้อด้านบน ก็ไม่สำคัญเท่าชายผู้นี้ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ผู้เป็นทุกอย่างให้ "ตราหมี" จริงๆ จากทีมกลางๆ ตาราง พอพี่แกเข้ามาคุมทีม ก็เปลี่ยนโฉมให้ แอต.มาดริด กลายเป็นทีมแกร่งโดยไม่ต้องซื้อซูเปอร์สตาร์เข้ามาร่วมทีมมากมาย แท็คติกที่เน้นรับเหนียวแน่น เกมโต้กลับฉับไว การเข้าปะทะที่ถูกที่ถูกเวลา การวิ่งไล่บี้แบบไม่มีหมด เขาผู้นี้แหละคือคนที่วางทุกอย่าง มาตั้งแต่ปี 2011 และที่สำคัญเขาเป็นตัวเต็งอันดับต้นๆ ด้วยที่จะเข้ามาสานต่อเก้าอี้ อาร์แซน เวนเกอร์