เชื่อเหลือเกินว่าค่ำคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เรตติ้ง คู่ระหว่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่บุกไปเยือน แร็งส์ จะได้รับเรตติ้งถ่ายทอดสดถล่มทลาย เนื่องจากว่า ลิโอเนล เมสซี่ ซูเปอร์สตาร์ทีมชาติอาร์เจนติน่า มีชื่ออยู่ในทีมเป็นครั้งแรก ต่อให้จะอยู่ในฐานะตัวสำรองก็ตาม
ลิโอเนล เมสซี่ ได้รับความสนใจอย่างมากตั้งแต่เกมยังไม่เริ่ม เรียกว่ากล้องถ่ายทอดสดรู้งาน จับภาพเขาแบบไม่พัก .. เดินออกจากอุโมงค์ มานั่งตรงซุ้มสำรอง หรือ แม้กระทั่งวิ่งวอร์ม จะเห็นหน้าของ เมสซี่ อยู่ตลอดเวลา
โดยโมเมนต์ที่เจ้าตัวก้าวลงสู่สนาม ก็สร้างเอฟเฟ็กต์ได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจะพาไปดูว่ามันมีสิ่งที่น่าสนใจอะไรบ้าง เมื่อดาวเตะทีมชาติอาร์เจนติน่า ได้บรรเลงเพลงแข้งในศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส แบบเต็มตัวเป็นนัดแรก
- เอฟเฟ็กต์คนดูในสนาม
สต๊าด โอกุสต์-เดอโลน รังเหย้าของ แร็งส์ มีความจุอยู่ที่ 21,029 ที่นั่ง แต่ด้วยความที่เป็นทีมระดับกลางๆ ไม่ได้มีฐานแฟนบอลเยอะมากนัก จึงมีค่าเฉลี่ยแฟนบอลเข้าชมต่อนัดอยู่ที่ราวๆ 9 พันคน
อย่างไรก็ตาม แค่วันนี้รู้ว่า ลิโอเนล เมสซี่ มีชื่อเดินทางมากับ เปแอสเช โดยที่ยังไม่รู้ว่าจะได้ลงสนามหรือไม่ ตั๋วเข้าชมเกมนี้ทุกที่นั่ง ถูกจับจองเต็มทั้งหมด 21,029 ใบ โดยไม่เหลือที่ว่างอยู่เลย ซึ่งถ้าไม่ใช่เอฟเฟ็กต์ของ ลิโอเนล เมสซี่ แฟนบอลก็คงไม่แห่กันมาขนาดนี้ เพราะมันจะเป็นครั้งแรกของโลกที่ได้เห็นเขา ลงเล่นในศึก ลีก เอิง ฝรั่งเศส
เอาง่ายๆแค่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ สั่งให้ เมสซี่ ไปวิ่งวอร์มตรงข้างสนาม แฟนๆก็กรี๊ดกันลั่นสเตเดี้ยมแล้ว เรียกว่าใครที่อยู่ใกล้โซนที่ เมสซี่ ไปวิ่งวอร์ม ไม่สนใจฟุตบอลในสนามกันแล้ว โดยหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาถ่ายรูป ลิโอเนล เมสซี่ เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึก หรือ เอาไปอวดเพื่อนๆในเฟซบุ๊ค และ ไอจี
- วินาที ลิโอเนล เมสซี่ ลงสู่สนาม
นาที 65 ได้ถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ของ ลีก เอิง ฝรั่งเศส แล้วว่า ลิโอเนล เมสซี่ ลงวาดลวดลายเป็นครั้งแรกในฐานะนักเตะของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง อย่างเป็นทางการ เนื่องจาก 17 ปีก่อนหน้านี้ เขาใช้เวลาทั้งชีวิตค้าแข้งให้กับ บาร์เซโลน่า เพียงแค่สโมสรเดียวเท่านั้น แต่ทว่าเจ้าตัวได้ลงสนามมาแทน เนย์มาร์ นั่นหมายความว่าพวกเราจะยังไม่ได้เห็น 3 ประสาน MMN
ส่วนบรรยากาศขณะเปลี่ยนตัว ต้องบอกว่าเกิดขึ้นในช่วงที่ เปแอสเช ยิงประตูขึ้นนำ 2-0 จาก คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ พอดิบพอดี ซึ่งจริงๆจังหวะนี้มันก้ำกึ่งว่าจะล้ำหน้า แต่กล้องถ่ายทอดสดไม่สนใจแล้วว่าจะได้ประตูหรือไม่ เพราะสวิตไปจับภาพแค่ เมสซี่ และ วินาทีนั้น ในสนาม สต๊าด โอกุสต์-เดอโลน กึกก้องไปด้วยเสียงเฮทั้งกองเชียร์เจ้าบ้าน และ ทีมเยือน โดยเสียงเรียกชื่อ เมสซี่ ดังทะลุผ่านจอโทรทัศน์เข้ามาเลยทีเดียว
- ผลงานเกมแรกยังดู เก้ๆกังๆ
ความสามารถและคุณภาพฝีเท้าของ ลิโอเนล เมสซี่ ไม่ต้องบรรยายอีกแล้ว เขาคือหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดแห่งโลกลูกหนัง ไปเล่นให้กับทีมไหนก็ได้ในโลกนี้ แต่กระนั้น เมสซี่ ก็คือมนุษย์คนหนึ่ง ที่ต้องใช้เวลาในปรับตัวเข้าสู่สังคมใหม่ๆเช่นกัน เพราะต้องไม่ลืมว่าเขาต้องออกจากพื้นที่เซฟโซน มาพบเจอโลกที่แตกต่างจาก บาร์เซโลน่า
ดังนั้นตลอด 25 นาที ที่ เมสซี่ อยู่ในสนาม ผลงานยังไม่ฉายแววอะไรมากมาย การวิ่งหาช่อง ยังดูเก้ๆกังๆ ขยับไม่ค่อยถูกจังหวะกับเพื่อนสักเท่าไหร่ หรือ การประสานงานกับ เอ็มบัปเป้ ก็ไม่ได้มีช็อตหวือหวา คงต้องใช้เวลาอีกสักระยะเพื่อปรับจูนให้เข้ากับเพื่อนๆ
ส่วนตำแหน่งที่ เมสซี่ ได้ลงไปยืนนั้น แรกๆเหมือนจะอยู่ด้านขวา แต่พอเล่นไปสัก 10-15 นาที ก็ขยับมาอยู่ตรงกลาง เป็นตัวอิสระในแนวรุก หลายๆครั้งลงมาต่ำเพื่อมารับบอลคอยเซ็ตเกมรุกมากกว่า ทำให้โอกาสง้างเท้าทำประตูยังไม่มี พอจะมีช็อตที่ เอ็มบัปเป้ จะปั้นให้ยิง ก็โดนกองหลังของ แร็งส์ สกัดไว้ได้หมด
- สิ่งที่ เมสซี่ ต้องเจอ เมื่อมาเยือน ลีก เอิง ฝรั่งเศส
เวลาจะเป็นคำตอบ ว่า เมสซี่ จะประสบความสำเร็จกับ ปารีส เหมือนอย่างที่เขาสร้างความยิ่งใหญ่กับ บาร์เซโลน่า ได้หรือไม่ แน่นอนว่าระดับฝีเท้าของซูเปอร์สตาร์ชาวอาร์เจนติน่า สามารถเล่นในศึก ลีก เอิง ได้แบบสบายๆ แต่มันก็ไม่ได้ถึงขนาดที่ เมสซี่ จะมาเลี้ยงฟุตบอลผ่านใครง่ายๆ
นับตั้งแต่ที่ ดาวเตะเบอร์ 30 ของ เปแอสเช ลงสนาม จะเห็นเลยว่าผู้เล่นของ แร็งส์ คึกคักเป็นพิเศษ พยายามจะวิ่งสู้ฟัดไล่ตามประกบเป็นเงาตามตัว ซึ่งจากสิ่งที่เห็นเลยคือความหนักหน่วงที่ เมสซี่ ต้องเจอ เพราะถูกรับน้องด้วยการถูกเข้าปะทะหนักๆ ทั้งโดนแขนฟาดบ้องหูบ้าง โดนเหนี่ยวคอบ้าง หรือ โดนสไลด์บ้าง ซึ่งมันจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่ เมสซี่ ต้องพบเจอ
แน่นอนว่าสิ่งนี้ เมสซี่ เจอมาทั้งชีวิตอยู่แล้ว แต่ด้วยจังหวะฟุตบอล และ สไตล์การเล่นของ ลีก เอิง ฝรั่งเศส กับ ลา ลีกา สเปน มันแตกต่างกัน ทำให้เขายังจับจังหวะไม่ถูก อย่างที่บอกครับทุกอย่างต้องใช้เวลาในการปรับตัว และ 2 สัปดาห์ต่อจากนี้ ที่มีโปรแกรมทีมชาติ จะเป็นช่วงเวลาที่ ลิโอเนล เมสซี่ จะได้ซึมซับแท็คติค และ DNA ของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง มากขึ้น
สรุปง่ายๆว่าเกมนี้ เมสซี่ ได้บอลไม่เยอะสักเท่าไหร่ เพราะทีมไม่ต้องเน้นฝากมาที่เขาเหมือนตอน บาร์ซ่า แต่ที่ได้เยอะมากในเกมนี้คือ บาทาของคู่แข่ง
ส่วนใครที่รอดู 3 ประสาน MMN เมสซี่ / เอ็มบัปเป้ และ เนย์มาร์ เชื่อว่าในเกมที่ ปารีส จะเปิดบ้านพบกับ แกลร์กมงต์ ฟุต ทีมน้องใหม่ ในวันที่ 12 กันยายน นี้ จะมีโอกาสได้เห็นเป็นขวัญตา ถ้าหาก น้องเป้ ไม่ย้ายทีมไปเสียก่อน และ เมื่อถึงวันนั้น เมสซี่ อาจมองตาก็รู้ใจเพื่อนๆมากกว่าเดิม
ฮาย ฮาวดี้-
