ราฟา พังขนาดไหน ถึงโดน ทอฟฟี่ ตะเพิดออกจากตำแหน่ง

กลายเป็นอดีตเรียบร้อยแล้วสำหรับ ราฟาเอล เบนิเตซ กับ เอฟเวอร์ตัน ภายหลังถูกปลดออกจากตำแหน่งกุนซือเนื่องด้วยผลงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แถมยังทำทีมร่วงหล่นมาอยู่ในโซนอันตรายท้ายตาราง

แน่นอนว่าการเข้ามาคัมทัพ "ทอฟฟี่" ของ ราฟา กลายเป็นประเด็นน่าสนใจ เพราะในอดีตเขาคือกุนซือของทีมคู่แข่งร่วมเมืองอย่าง ลิเวอร์พูล แต่ก็ไม่มีใครคาดคิดว่านายใหญ่ชาวสเปนจะอยู่ในตำแหน่งได้เพียงราว 6 เดือน ทั้งที่มีประสบการณ์ทำงานในพรีเมียร์ลีกมาอย่างโชกโชน ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราจะพาย้อนไปดูผลงานของ เบนิเตซ ในหัวโขนกุนซือ เอฟเวอร์ตัน กันหน่อยว่ามีเรื่องราวพังๆ อะไรบ้างที่ทำให้เขาต้องถูกบอร์ดบริหารประหารด้วยการไล่ออกจากตำแหน่ง

ออกสตาร์ทสุดแจ่ม

คงปฎิเสธไม่ได้ว่าการเข้ามาของ เบนิเตซ ย่อมถูกคาดหวังว่าจะพาทีมพัฒนาไปข้างหน้ามากกว่าเดิม แต่ทว่าถ้าหันมามองในภาพของความจริงดูเหมือนทุกอย่างตรงหน้านั้นมันจะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว โดยเฉพาะการเสริมนักเตะใหม่ที่ทีมควักกระเป๋าลงทุนในช่วงซัมเมอร์ไปเพียง 1.7 ล้านปอนด์เท่านั้นแลกกับการได้ เดมาไร เกรย์ ส่วนในรายอื่นๆ ล้วนนำเข้ามาแบบฟรีๆ ทั้ง อันดรอส ทาวน์เซนด์, อัสเมียร์ เบโกวิช หรือ ซาโลมอน รอนดอน บวกกับแข้งที่ปล่อยออกจากทีมอย่าง ฮาเมส โรดริเกวซ ที่ไม่ได้อยู่ในแผนของ เบนิเตซ ทำให้กลายเป็นตลาดที่น่าผิดหวังพอควรสำหรับแฟนบอล "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" แต่จะว่าไปการออกสตาร์ทเกมลีกช่วง 7 นัดแรกราวกับฝันเหมือนกัน เพราะทีมสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเก็บไปได้ถึง 14 คะแนน สะดุดพ่ายเพียงนัดเดียวเท่านั้นคือบุกไปแพ้ แอสตัน วิลล่า 3-0 แต่ทว่าผันที่เข้าสู่ช่วงเดือนตุลาคมดูเหมือนสถานการณ์ของทีมจะแปรผันไปมากพอควร ผลงานที่เคยโดดเด่นกลับกลายเป็นเข้าสู่ความย่ำแย่ แพ้แล้วแพ้เล่าในรูปแบบการเล่นที่แฟนบอลเองก็ไม่ประทับใจกับการจัดทัพ หรือแท็คติกที่ เบนิเตซ จัดการติดตั้งให้ทีม ซึ่งด้วยปัจจัยต่างๆ แม้ผลงานช่วงออกสตาร์ทจะยอดเยี่ยมมากขนาดไหน แต่ทว่าถ้าไม่อาจรักษามาตรฐานเอาไว้ได้ก็ยากนักที่เก้าอี้ของกุนซือจะแข็งแรง ซึ่งเคสของ ราฟา สามารถพิสูจน์คำพูดเหล่านี้ไว้ได้เป็นอย่างดี

ราฟา พังขนาดไหน ถึงโดน ทอฟฟี่ ตะเพิดออกจากตำแหน่ง

ปัจจัยนักเตะบาดเจ็บ

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทัพ "ทอฟฟี่" มีผลงานร่วงลงมาแบบเห็นได้ชัดคือปัญหาอาการบาดเจ็บของนักเตะ เรียกได้ว่าประเดประดังเข้ามาพร้อมๆ กันแบบไม่ได้นัดหมาย ทำให้ที่ผ่านมา เบนิเตซ แทบไม่ได้ใช้ชุดนักเตะที่ดีที่สุดในการลงสนามเลย โดยเฉพาะในแผนกเกมรุกที่เขาเองก็ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปในแต่ละนัด อย่างในเคสแดนหน้าการที่ไม่มี โดมินิค คาลเวิร์ต-เลวิน กับ ริชาร์ลิซอน ถือว่าส่งผลต่อทีมเป็นอย่างมาก ซึ่งปัญหาเหล่านี้มันก็เลยต้องวกกลับไปหาประเด็นในข้อแรกคือการเสริมทัพมันยังไม่ตอบโจทย์ได้มากเท่าที่ควร โอเคแหละครับว่าแข้งใหม่ป้ายแดงทั้ง เกรย์ หรือ ทาวน์เซนด์ ต่างสามารถทำผลงานได้ดี แต่ทว่าด้วยความเป็นทีมมวลรวมมันยังไม่ได้ยอดเยี่ยมจนพาทีมไปอยู่จุดที่ควรจะเป็น จะว่าไปก็เหมือนเป็นโชคร้ายนิดๆ ของ เบนิเตซ ที่ไม่ได้ใช้ทีมชุดที่ดีที่สุด แต่อย่างว่านี่คือปัญหาที่กุนซืออย่างเขาต้องพยายามแก้ไขให้ได้ ในเมื่อทีมจ้างคุณเข้ามาสิ่งเหล่านี้แหละที่คนเป็นโค้ชต้องแสดงกึ๋นการแก้ปัญหา และพาทีมรอดพ้นช่วงเวลาวิกฤตนี้ให้ได้ แต่ในเมื่อไม่สามารถรับมือ และพาทีมพุ่งชนแต่ความพ่ายแพ้ มันเลยกลายเป็นหนึ่งในความล้มเหลวของกุนซือรายนี้ในทันที

เกมรับเสียประตูแทบทุกนัด

ปัญหาใหญ่ที่ เบนิเตซ ไม่สามารถระดมความคิด และแก้ได้เลยคือเรื่องของเกมรับที่เสียประตูแทบทุกนัดจากสถิติ 16 นัด พวกเขาเสียไป 34 ตุง เก็บคลีนชีตได้เพียง 3 เกมเท่านั้น และในจำนวนดังกล่าวมีเกมที่เสียอย่างต่ำ 3 ประตู มากถึง 6 เกมด้วยกัน ซึ่งหนึ่งในแมตช์ที่แฟนบอลไม่อยากจดจำคือการเปิดบ้านพ่าย วัตฟอร์ด แบบเละเทะ 2-5 โดยถ้าลองไล่เรียงดูจะพบว่า เบนิตเซ พยายามปรับโฉมเกมรับให้เข้ากับสถานการณ์ และคู่แข่งในเกมนั้นๆ บางนัดอาจใช้ระบบปราการหลัง 3 คน ส่วนบางเกมก็ปรับให้เหลือเซนเตอร์ฮาร์ฟเพียง 2 ราย ซึ่งผลงานที่ออกมามันก็มีบ้างที่ผลลัพธ์ออกมาได้อย่างประทับใจอย่างในเกมที่บุกไปเสมอ เชลซี 1-1 หรือเปิดบ้านชนะ อาร์เซน่อล 2-1 แต่ทว่าส่วนใหญ่ภาพที่ออกมาดันไม่ประสบความสำเร็จมากกว่า ทั้งที่รายชื่อแผงเกมรับส่วนใหญ่ของทีมก็ต่างมีดีกรีติดตัวมากพอควรทั้ง ไมเคิ่ล คีน, เบน ก็อดฟรีย์, เยร์รี่ มีน่า หรือ เมสัน โฮลเกต แต่เมื่อมีรวมอยู่ด้วยกันต่างก่อความผิดพลาดออกมาในทุกเกมจะต้องมีจังหวะให้แฟนบอลวิจารณ์อยู่แทบตลอด ฉะนั้นแล้วการที่ทีมเสียเกมรับในทุกๆ เกมมันก็ยากนักที่จะพาทีมเก็บชัยชนะได้ และเมื่อบวกกับ เบนิเตซ ไม่สามารถแก้ปัญหาตรงนี้ได้ และนับวันแผลก็ยิ่งถูกฉีกขาดมากกว่าเดิมไม่แปลกหรอกที่แฟนบอลจะบ่นเช้าเย็นถึงความเฉื่อยชาของนักเตะ และทีมงานสต๊าฟฟ์ทุกคน

ความหวังในแดนหน้า

ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เอฟเวอร์ตัน มีกองหน้าฟอร์มอย่าง โดมินิค คาลเวิร์ต-เลวิน ในการเป็นความหวังในการผลิตสกอร์ รวมไปถึงหน่วยนสนับสนุนที่ยอดเยี่ยมอย่าง ริชาร์ลิซอน หรือ ฮาเมส โรดริเกวซ แต่กับซีซั่นนี้มันแตกต่างออกไป เพราะหัวหอกชาวอังกฤษได้รับบาดเจ็บตั้งแต่ช่วงต้นซีซั่น ส่วนในรายของ ริชาร์ลิซอน ก็ไม่ต่างเดี๋ยวเจ็บเข่า เดี๋ยวเจ็บน่อง ทำให้การลงสนามมันไม่ปะติดปะต่อเท่าไหร่นัก ฉะนั้นแล้วความหวังเดียวในแดนหน้าของ เอฟเวอร์ตัน ในยุค เบนิเตซ คือ ซาโลมอน รอนดอน กองหน้าคู่บุญตั้งแต่ นิวคาสเซิ่ล จนลากไปทำงานร่วมกันที่ไชนีช ลีก และกลับมาทำงานด้วยกันอีกที่ทัพ "ทอฟฟี่" แต่ทว่าดูเหมือนความเป็นลูกรักของ รอนดอน กับ ราฟา จะไม่อาจเค้นศักยภาพที่ยอดเยี่ยมออกมาได้ตัวเลข 1 ประตู จาก 15 นัด มันน้อยนิดเกินไปกับตำแหน่งกองหน้า แต่ทว่า เบนิตเซ เองก็พยายามที่จะเข็นลงสนามในแทบทุกเกม จนแฟนบอลเริ่มบ่นไปแล้วถึงการให้โอกาสนักเตะคนนี้มากเกินไปหรือเปล่า ซึ่งไม่รู้จะด้วยความอีโก้สูงหรืออะไร แต่บางทีในเมื่อนักเตะที่ใช้ไม่ตอบโจทย์เขาเองก็น่าจะปรับเปลี่ยน หรือให้โอกาสคนอื่นๆ ลงสนามไปโชว์ผลงานดูบ้าง กลายเป็นว่าตัวความหวังในการผลิตประตูไปตกอยู่กับปีกทั้ง 2 ฝั่งอย่าง เกรย์ และ ทาวน์เซนด์ ที่ยิงกันไปได้คนละ 6 ประตู ดังนั้นแล้วมันจึงเป็นอีกปัญหาของ ราฟา เมื่อนับประเด็นเกมรับเสียประตูง่าย มาบวกกับแดนหน้าผลิตสกอร์ไม่ได้ตามใจต้องการยิ่งกลายเป็นมรสุมคูณสองที่เขาไม่อาจฝ่ามันไปได้จริงๆ

ร่วงสู่ท้ายตาราง

ใครจะไปคิดว่า เอฟเวอร์ตัน ที่จบกลางตารางแบบสบายๆ เมื่อฤดูกาลก่อน จะร่วงมาอยู่พื้นที่ท้ายตารางได้แบบนี้ทั้งที่ทรัพยากรนักเตะก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก ปัจจุบันทัพ "ทอฟฟี่" รั้งอันดับ 16 เก็บไปได้เพียง 19 คะแนนเท่านั้น มีแต้มอยู่เหนือโซนตกชั้น 6 คะแนน แม้สถานการณ์อาจจะยังไม่ได้เข้าขั้นวิกฤตลงไปอยู่ในโซนแดง แต่ทว่าด้วยคุณภาพระดับ เอฟเวอร์ตัน พวกเขาไม่ค่อยร่วงลงมาอยู่ท้ายๆ ของตารางคะแนนในรูปแบบนี้ ซึ่งเหตุผลก็มาจากการแพ้ไปถึง 9 จาก 12 เกมหลังสุด และด้วยผลงาน บวกกับตัวเลขบนตารางไม่แปลกที่บอร์ดบริหารจะเลือกปลด เบนิเตซ ออกจากตำแหน่ง เพราะขืนปล่อยไปบางทีสโมสรอาจย่ำแย่ไปกว่านี้ และเช่นกันนี่คงจะเป็นอีกงานที่น่าผิดหวังของกุนซือมากประสบการณ์อย่าง เบนิเตซ ที่ไม่สามารถพาทีมบินสูงได้มากกว่านี้แม้วันที่เข้าเดินเข้ามาจะถูกยกย่องว่าเป็นเจ้าพ่อในเรื่องของแท็คติกก็ตาม จากนี้น่าสนใจว่า เอฟเวอร์ตัน จะแต่งตั้งใครเข้ามานั่งแท่นกุนซือ ตอนนี้ที่ตกเป็นข่าวด้วยก็อย่าง เวย์น รูนี่ย์,โรแบร์โต้ มาร์ติเนซ, นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต รวมไปถึง ดันแดน เฟอร์กูสัน ส่วน เบนิเตซ จะได้โอกาสคุมทีมในอังกฤษต่อไหม หรือจะโยกย้ายไปทำงานยังต่างแดนอีกครั้ง ทุกๆ การเคลื่อนไหวของทั้งคู่ในช่วงต่อจากนี้ต่างจะได้รับความสนใจจากสื่อ และแฟนบอลอย่างแน่นอน