ประเด็นเกม พี่โด้ โดนวิจารณ์ยับ ฟอร์มดับ นัดเจ๊า วัตฟอร์ด

แต่แล้วก็มาสะดุดขาตัวเอง ด้วยการเปิดถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เสมอกับ วัตฟอร์ด ทีมหนีตาย 0-0 ซึ่งต่อให้จะบุกโถมเข้าใส่ตลอดทั้งเกม มีโอกาสซัดมากถึง 22 ครั้ง ทว่าแนวรุกไม่สามารถเปลี่ยนสกอร์ได้เลย โดยเฉพาะ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นัดนี้เขาโดนวิจารณ์อย่างหนักในเรื่องของฟอร์มการเล่น อีกทั้งยังโดนตั้งคำถามว่า ยังดีพอเล่นในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แล้วหรือไม่

เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เอาเป็นว่าไปติดตามประเด็นกันดีกว่าครับว่า มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง และ การเก็บได้เพียงแค่ 1 คะแนน ของ ปีศาจแดง ส่งผลเสียหายมากน้อยแค่ไหน

- โรนัลโด้ หมดแล้วหรือยัง ?

นี่คือประเด็นที่กระฉ่อนไปทั่วโลก หลังจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำได้เพียงเสมอกับ วัตฟอร์ด 0-0 เพราะแฟนบอล ปีศาจแดง หลายๆคน พุ่งเป้าไปที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงสัญลักษณ์ของสโมสร พร้อมกับคำถามในใจว่า "โรนัลโด้ หมดหรือยัง / ยังดีพอลงเล่นในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกหรือไม่ ?"

หลายๆครั้ง โรนัลโด้ จะได้รับการปกป้องจากแฟนบอล ปีศาจแดง ว่า สาเหตุที่ยังไม่ระเบิดฟอร์ม เป็นเพราะแท็คติคการเล่นไม่เอื้ออำนวย บ้างก็ว่าตัวสร้างสรรค์ยังไม่มีคุณภาพมากพอ แต่เกมกับ วัตฟอร์ด ด้านหลังของ ซีอาร์ 7 มีทั้ง บรูโน่ แฟร์นานเดส และ ปอล ป็อกบา

ตัดเรื่องสภาพแวดล้อมออกไป เกมนี้ โรนัลโด้ ทำผลงานได้ต่ำกว่ามาตฐานจริงๆ ผิดฟอร์มเสียคนแฟนบอล เร้ด เดวิลส์ บางส่วน ถึงกับพิมพ์ระบายผ่าน เฟซบุ๊ค ว่า "โรนัลโด้" ควรไปพัก ด้วยความที่พี่แก อายุ 37 ปี ทำอะไรด้วยตัวคนเดียวไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว แถมโดนบดโดนบี้ จนไปไม่เป็น ซึ่งอันนี้ทุกคนก็คงคิดเหมือนกัน

แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือ โรนัลโด้ ไม่สามารถเก็บบอลได้, เลี้ยงแทบไม่ผ่านคู่แข่ง, การดวลปะทะยิ่งไม่ต้องพูดถึง แทบไม่ชนะ และ สิ่งที่เขาควรจะทำให้ดีคือเรื่องจบสกอร์ กลายเป็นว่าความเฉียบคมหายไปซะอย่างงั้น ไม่แปลกเลยที่ 12 นัด จะทำไปได้แค่สกอร์เดียว ซึ่งการเสมอนัดกับ วัตฟอร์ด ไม่ต้องโทษใครเลยครับ นอกจากแนวรุกของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ล้วนๆ

เชื่อว่านับจากวินาทีนี้ จะมีข่าวเกี่ยวกับอนาคตของ โรนัลโด้ ออกมาเรื่อยๆ จากหลายๆความคิดเห็นเริ่มมองว่าแล้วว่า พรีเมียร์ลีก มันอาจไม่เหมาะกับ พี่โด้ เเล้วครับ เรื่องฝีเท้า ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ เขาคือระดับโลก แต่ด้วยฟอร์มปัจจุบัน และ สภาพร่างกาย ก็ต้องยอมรับตามตรงว่าไม่เหมือนเมื่อก่อน มีมุมหมดแรงให้เห็น อารมณ์ใจไป แต่ขาไม่ไป บางทีลีกใหญ่อื่นๆ อาจจะเหมาะกับ ซีอาร์ 7 มากกว่า

- ตัวสำรองเปลี่ยนเกม

ประเด็นนี้มันต่อยอดมาจากฟอร์มการเล่นของ โรนัลโด้ เพราะมันมีคำถามว่าทำไม ราล์ฟ รังนิค ถึงไม่กล้าเปลี่ยนนักเตะรายนี้ออกจากสนาม ทั้งๆที่อยู่ในสนามแล้วก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรขึ้นมา หรือ รังนิค กลัวจะสร้างความแตกแยก หรือ สร้างทีมเพื่อนักเตะรายนี้ อะไรทำนองนี้หรือเปล่า

ด้วยความเคารพ โรนัลโด้ สมควรโดนเปลี่ยนตัวออกจริงๆในเกมเจอกับ วัตฟอร์ด ยิ่งเป็นช่วงกลางครึ่งหลัง เขาไม่ได้มีพิษสงที่จะแสดงให้เห็นว่าสามารถทำประตูได้ มีหลายช็อตที่ไปยืนทับตำแหน่งกันด้วย แต่กระนั้นเมื่อสอดส่องไปตรงม้านั่งตัวสำรอง ไม่มีนักเตะในตำแหน่งกองหน้าอาชีพเลย

หนึ่งเรื่องที่พอจะชื่นชม รังนิค ในเกมนี้ก็คือ กล้าเปลี่ยนตัวสำรองในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับออกทั้ง เฟร็ด และ เนมานย่า มาติช ก่อนจะส่ง จาดอน ซานโช่ กับ มาร์คัส แรชฟอร์ด ลงมา เพื่อเติมเกมรุกแบบสุดขีด หวังเก็บ 3 คะแนน ให้ได้ แต่กระนั้นกลายเป็นว่าแบบแผนไม่มี ลงมาตามแท็คติคก็จริง แต่การเข้าทำดูไม่เป็นชิ้นเป็นอัน เน้นการครอสจากโดนข้าง แต่ก็แค่สร้างหวาดเสียวเท่านั้น ต้องเน้นใช้ความสามารถเฉพาะตัวอยู่ดี

เชื่อว่าแฟนบอล ปีศาจแดง คงจะคิดถึง เอดินสัน คาวานี่ จับใจเลยใช่ไหมครับ เพราะอย่างน้อยถ้ามี เอล มาทาดอร์ อาจลงมาเปลี่ยนเกมได้ เนื่องจากเขาเป็นหน้าเป้าอาชีพ หาช่องว่างเก่ง และ ที่สำคัญมีลูกหัวทำประตูได้อยู่เสมอ ดังนั้นก็ต้องยอมจำใจใช้ โรนัลโด้ ต่อไป

- บัลลังค์ท็อปโฟร์สั่นคลอน

ผลเสมอนัดนี้ ส่งผลร้ายแรงต่อบัลลังค์ท็อปโฟร์ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เหลือเกิน เพราะเดิมทีก็สุ่มเสี่ยงต่อการตกลงมาอยู่แล้ว แต่กระนั้นการเก็บได้เพียงแค่ 1 คะแนน ในเกมที่เจอกับทีมรองบ๊วย เป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น โดยเฉพาะการได้เล่นในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และ มีโอกาสหลุดออกนอก 4 อันดับแรกในสัปดาห์หน้าเลย

เนื่องจาก ปีศาจแดง จะขยับเพิ่มเป็น 47 คะแนน ลงแข่งไป 27 นัด ซึ่งมากกว่า อาร์เซน่อล ที่ไล่ตามมา อยู่ถึง 3 เกม ที่สำคัญลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า จี้ตูดอยู่เพียง 2 แต้ม เท่านั้น โชคดีที่ อาร์เซน่อล ไม่มีโปรแกรมลงเตะสุดสัปดาห์นี้ ไม่งั้นได้หลุดไปพื้นที่ ยูโรปา ลีก แล้ว

มารอดูกันว่า สัปดาห์หน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งมีคิวลงเตะศึกสำคัญ "แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้" ลงพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ ถ้า ปีศาจแดง ไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ มีโอกาสหลุดท็อปโฟร์เลยครับ โดยต้องรอดูผลของ ไอ้ปืนใหญ่ ว่าเกมบุกไปเยือน วัตฟอร์ด จะนำ 3 แต้ม กลับบ้านได้หรือไม่ บอกเลยงานนี้ลุ้นกันสนุกแน่นอน

- วัตฟอร์ด กับ โอกาสหนีตาย

ประเด็นปิดท้าย ขอพูดถึง วัตฟอร์ด กันบ้างแล้วกันครับ การบุกมายันเสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นับเป็น 1 แต้มที่ใหญ่มาก เพราะมันส่งผลถึงโอกาสรอดตกชั้น ดูมีความหวังมากกว่าแต่ก่อน

ต่อให้อันดับจะไม่ขยับ รั้งอยู่ที่ 19 ของตาราง แต่ก็เพิ่มมาเป็น 19 คะแนน จากการลงเล่น 26 นัด โดยตามหลังโซนปลอดภัยอย่าง เอฟเวอร์ตัน แค่ 3 คะแนน เท่านั้น อาจจะแข่งมากกว่า แต่ฤดูกาลนี้ยังอีกไกล เหลือราวๆ 12 นัด ฉะนั้นลูกกลมๆมีลมอยู่ข้างใน อะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้

โดยเกมหน้าของ วัตฟอร์ด เหมือนฟ้าลิขิตเอาไว้ เพราะพวกเขาจะได้เปิดบ้านเจอกับ อาร์เซน่อล ซึ่งเป็นทีมลุ้นท็อปโฟร์ เหมือนกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งผลการแข่งขัน มันจะเกิดการเปรียบเทียบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่ง แตนอาละวาด ก็ต้องพิสูจน์ตัวเองเหมือนกัน เพื่อโอกาสรอดตกชั้น เพราะเวลาเล่นที่ วิคาเรจ โร้ด แพ้มาแล้ว 7 นัดรวด

ฮาย ฮาวดี้-