"เซลจ์โก้ บูวัช เปรียบเสมือนเป็นมันสมองของ เจอร์เก้น คล็อปป์ และรู้ใจกันถึงขนาดที่ไม่ต้องเอ่ยปากอะไร ทั้งคู่มีสายสัมพันธ์อันแนบแน่นสุดๆ"
บทสัมภาษณ์ที่กล่าวถึง "ความสัมพันธ์ของ คล็อปป์ กับ บูวัช " ในการทำงานร่วมกันมาตลอด 17 ปี ไม่มีใครแทบคาดคิดมาก่อนเลยว่า "ทั้ง 2 คน" จะมีเรื่องบาดหมางถึงขั้นแยกทางไปดื้อๆ
เพราะทั้ง 2 คน มีความสัมพันธ์ฉันเพื่อนมาเนิ่นนาน บูวัช เป็นชาวบอสเนีย และมาเป็นเพื่อนสนิทกับ คล็อปป์ ตั้งแต่ที่ทั้งคู่ได้บรรเลงเพลงแข้งด้วยกันกับสโมสร ไมนซ์ นับตั้งแต่ปี 1991 หรือ เกือบ 3 ทศวรรษมาแล้ว โดย บูวัช เล่นกองกลาง ส่วน คล็อปป์ เล่นกองหน้า เมื่อครั้งที่ บูวัช ต้องแขวนสตั๊ด ด้วยวัย 36 ปี และผันตัวไปคุมทีมเล็กๆ ในลีกดิวิชั่น 4 ของเยอรมัน ก่อน คล็อปป์ จะดึงตัวมาทำหน้าที่ผู้ช่วย เรียกง่ายๆว่า "มือขวา" หลังได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกุนซือ ไมนซ์ เมื่อปี 2001 การทำงานร่วมกันของทั้งคู่ เสมือนการเริ่มต้นที่เต็มไปด้วยกลีบกุหลาบ เพราะพวกเขาสามารถช่วยให้ ไมนซ์ เลื่อนชั้นขึ้นมาสู่เวที บุนเดสลีกา เยอรมัน ได้เป็นครั้งแรก และที่ดีไปกว่านั้น คือถึงขั้นพาสโมสร ไปลุยเวทียุโรป รอบคัดเลือกมาแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อครั้งจบซีซั่น 2006-07 ไมนซ์ มีอันต้องตกชั้น และ 12 เดือนถัดมา คล็อปป์ และ บูวัช ไม่สามารถพาทีมเลื่อนชั้นกลับมาใหม่ได้ ก็เลยต้องแยกทางกับสโมสรไป ถึงกระนั้น โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จับตามองอยู่นาน 2 นาน และก็ไปจีบ คล็อปป์ มาเป็นกุนซือใหญ่ แน่นอนก็ไปเรียกใช้บริการ บูวัช มาเป็นมือขวาเช่นเดิม จากนั้นบทตำนานก็เริ่มขึ้น ทั้งคู่พัฒนาให้ "เสือเหลือง" กลับมายิ่งใหญ่ในเมืองเบียร์ อีกครั้ง ด้วยการคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา เยอรมัน 2 สมัยซ้อน พร้อมซิวโทรฟี่ เดเอฟเบ โพคาล ได้อีกด้วย นูริ ซาฮิน ดาวเตะ "เสือเหลือง" เคยให้สัมภาษณ์ไว้เลยว่า "เซลจ์โก้ บูวัช เหมือนเป็นฝาแฝดของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เขาจะนั่งอยู่ตรงม้านั่ง แต่เห็นฟุตบอลในแบบเดียวกันกับ คล็อปป์ ถึงวันที่ คล็อปป์ ต้องแยกทางกับ ดอร์ทมุนด์ และได้งานกุมบังเหียน ลิเวอร์พูล นั้น "เดอะ นอร์มอล วัน" ก็ยังนำ "มันสมอง" ของเขาอย่าง บูวัช มาทำงานร่วมกันอีกครั้งในถิ่นแอนฟิลด์ สามารถช่วยกันพา "หงส์แดง" ผ่านเข้ามาถึงรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นนี้ คล็อปป์ เคยพูดถึง บูวัช มันสมองของเขาว่า “เซลจ์โก้ บูวัช เป็นโค้ชที่ดีที่สุดที่ผมเคยเจอ เขาน่าเหลือเชื่อมาก เขาเป็นเหมือนกับคัมภีร์ฟุตบอล ผมคงไม่มีอะไรเลยถ้าไม่มีเขา ผมคิดว่าจุดแข็งที่สุดสำหรับคนที่แข็งแกร่งคือการวางคนรอบๆตัว"
-ฮาย ฮาวดี้-
ถอดบทเรียน "ช้างศึก ยู23" หลังตกรอบแรก และสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นกับทีมชาติไทย
เอเวอร์ตัน กอนซาลเวส หัวใจสำคัญที่อาจนำพา ทรู แบงค็อก ไปถึงแชมป์
เดือนเมษาพาซวย ! "อาร์เซน่อล" กับประวัติศาสตร์ที่อาจซ้ำรอย
บียู ฟัด ลำพูน จุดตัดสินชะตาเจ้าถิ่น หากพลาดอาจหมดสิทธิ์ลุ้นแชมป์ไทยลีก
ช้างศึก ลบคำสบประมาท ประเดิมสวยคว่ำ อิรัก U23 ชิงแชมป์เอเชีย เกมแรก
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม 
