ประเด็นคว่ำบาตร เสี่ยหมี ส่งผลกับ เชลซี แค่ไหน

เนื่องจากพวกเขามีเจ้าของสโมสร เป็น โรมัน อบราโมวิช เสี่ยหมีที่รักของสาวก สิงห์บูลส์ ซึ่งผู้มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับ วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำประเทศ

เพราะหลังจากที่หลายประเทศในแทบยุโรป ได้คว่ำบาตรทางเศรฐษกิจต่อ รัสเซีย โดยเฉพาะ สหราชอาณาจักร ทำให้ เสี่ยหมี ต้องตัดสินใจขายสโมสร เชลซี แต่ล่าสุดมันสั่นสะเทือนมากกว่านั้น เนื่องจาก “โดนยึดกิจการ” เป็นที่เรียบร้อย

ย้อนไปถึงเมื่อครั้ง คริส ไบรอันท์ ส.ส. พรรคฝ่ายค้านของประเทศอังกฤษ ได้เรียกร้องในสภาให้ โรมัน อบราโมวิช ยุติบทบาทการเป็นเจ้าของทีม เชลซี แต่โดยดี และ ควรยึดบ้านพักของ เสี่ยหมี ในอังกฤษ ซึ่งมีมูลค่า 152 ล้านปอนด์ (ประมาณ 6,600 ล้านบาท) ด้วย  โดยทิ้งเหตุผลว่า "โรมัน อบราโมวิช ไม่สมควรจะเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลในประเทศนี้อีกต่อไป"

สาเหตุที่ ส.ส. ไบรท์อัน เรียกร้องแบบนั้น เนื่องจาก ได้พบเอกสารที่หลุดออกมา และ พบว่า เสี่ยหมี เกี่ยวข้องกับกระบวนการ “ทางการเงินผิดกฎหมาย” พร้อมมีกิจกรรมต่างๆมากมายที่เป็นอันตราย และ ทุจริตของ รัสเซีย โดยเขามองว่าบุคคลประเภทนี้ จะต้องไม่มีสิทธิ์ทำกิจกรรมใดๆในประเทศอังกฤษ อีกต่อไป

เล่ามาถึงตรงนี้ เชื่อเหลือเกินครับว่า จะต้องมีแฟนบอลที่คิดในใจว่า "มันคนละประเด็นกันเลย !! ต้องแยกแยะให้ออกระหว่าง การเมือง กับ ฟุตบอล" 

ใช่ครับ สิ่งที่คุณคิด มันถูกต้องแล้ว มันต้องแยกแยะให้ออกระหว่าง การเมือง กับ ฟุตบอล .. แต่กระนั้นประเด็นที่ รัสเซีย ประกาศทำสงครามบุกรุกเข้าประเทศยูเครน มันร้ายแรงกว่าที่คุณคิด มีรายงานว่าวันนี้เพิ่งทิ้งระเบิดใส่โรงพยาบาลเด็ก ดังนั้นการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อ รัสเซีย คือสิ่งที่หลายประเทศทำ นั่นตัดขาด เลิกซื้อเลิกขาย หรือ ลงทุนกับประเทศรัสเซีย รวมถึงผู้คนสายเลือด หมีขาว ทั้งหมด ก็จะโดนหางเร่ ไปด้วย ดังนั้น เสี่ยหมี ที่เป็นคนสนิทของ วลาดิเมียร์ ปูติน ยิ่งหนีไม่พ้น

ยกตัวอย่าง สหรัฐอเมริกา ประกาศคว่ำบาตร ด้วยการพุ่งเป้าโจมตีไปที่ธนาคารรายใหญ่ของประเทศ รัสเซีย ตลอดจนรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่อีกหลายแห่ง เพื่อไม่ให้เข้าถึงสกุลเงินดอลลาร์, ยูโร และ เงินปอนด์ นอกจากนี้ ก็จะปิดกั้นการส่งออกสินค้าหลายประเภทไปยังแดนหมีขาว อีกด้วย

ส่วนทางอังกฤษ พวกเขาสั่งห้ามสั่งให้ แอร์โรฟล็อต (Aeroflot) สายการบิน รัสเซีย ซึ่งเป็นสปอนเซอร์ให้กับ แมนเสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงจอดในพื้นที่สหราชอาณาจักร สุดท้าย ปีศาจแดง ประกาศยกเลิกสัญญากับสายการบินดังกล่าว แล้วเรียบร้อย และ ตอนนี้ก็ตัดตอนยึดทรัพย์นักธุรกิจชาวรัสเซีย ที่มีชื่ออยู่ในแบล็คลิสต์

เดิมที เสี่ยหมี เคยถูกยึดวีซ่า และ ถูกสั่งห้ามเข้าประเทศอังกฤษ จากเรื่องข้อพิพาทระหว่างประเทศ อังกฤษ กับ รัสเซีย เมื่อราวๆ 10 ปีก่อน ต่อให้ เสี่ยหมี จะมีพาสสปอร์ต ถือสัญชาติอิสราเอล สามารถเดินทางเข้าประเทศอังกฤษ ได้ตามกฎหมาย แต่กระนั้นก็แทบไม่ได้โผล่หน้ามาให้เห็น เวลา เชลซี ลงเตะ พรีเมียร์ลีก

นอกเสียจาก เชลซี ไปเตะนอกเหนือพื้นที่สหราชอาณาจักร อย่างล่าสุด โรมัน อบราโมวิช ก็ไปร่วมชม และ แสดงความยินดีกับสโมสร ในการคว้าแชมป์สโมสร ที่ประเทศ ยูเออี

แล้ววันที่สาวก สิงโตน้ำเงินคราม ไม่อยากให้เกิดขึ้น ก็มาถึง เมื่อ เสี่ยหมี ตัดสินใจยอมขายสโมสร โดยตั้งราคาไว้ที่ 3 พันล้านปอนด์ เพื่อหากลุ่มทุน เข้ามาสานต่อเจตนาของเขา ซึ่งก็หวังว่าอยากให้ทุกอย่างเสร็จสิ้น ก่อนวันที่ 15 มีนาคม นี้ 

แต่มันไม่ทันการ เพราะรัฐบาลอังกฤษ ประกาศคว่ำบาตร โรมัน อบราโมวิช มหาเศรษฐีชาวรัสเซีย โดยมีสาเหตุมาจากสงครามยูเครน ซึ่งทรัพย์สินทั้งหมดของ เสี่ยหมี ในดินแดนสหราชอาณาจักร จะถูกอายัดไว้ทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าจะถูกระงับเรื่องการขายสโมสรไปด้วย

ซึ่งการถูก แช่แข็ง ครั้งนี้ บอกเลยว่ามันส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวง

เพราะนับตั้งแต่ เสี่ยหมี เข้ามาซื้อกิจการ สิงห์บลูส์ เมื่อปี 2003 ก่อรากสร้างฐาน เพียงแค่ 2 ปี ก็คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาครองได้สำเร็จ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร จากนั้นก็คือความยิ่งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น แชมป์ลีก 5สมัย, เอฟเอคัพ 5 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2 สมัย, ยูโรปา ลีก 2 สมัย และ สโมสรโลก อีก 1 สมัย

สำคัญที่สุดก็คือ เสี่ยหมี ทุ่มเงินมหาศาล ดึงเหล่านักเตะชั้นนำ, ยอดโค้ชมากฝีมือ มาร่วมทีมแทบทุกปี เพื่อช่วยกันต่อยอดสร้างความสำเร็จ ดังนั้นถ้า เชลซี ไม่มี เสี่ยหมี ยังนึกภาพไม่ออกเหมือนกัน ว่าพวกเขาจะต้องเดินไปในทิศทางไหน และ จะดึงแข้งชื่อดังหลายๆคนมารวมกันได้หรือเปล่า

ต่อให้ เชลซี จะมีทีมงานเก่งๆมากมาย แต่ถ้าไร้หัวเรือใหญ่คนมีฝีมืออย่าง โรมัน อบราโมวิช จะมีผลกระทบตามมามากมาย โดยเฉพาะเรื่องของการเงิน ซึ่งในปัจจุบันคือสิ่งที่สำคัญมาก

มันมีสถิติรายงานว่า เสี่ยหมี ใช้เงินสร้างทีม สิงห์บูลส์ ตั้งแต่เข้ามาเทคโอเวอร์ ไปแล้วมากกว่า 2 พันล้านยูโร ล่าสุดก็คือ โรเมลู ลูกากู ราคา 97.5 ล้านปอนด์ ถ้าขาดจุดนี้ แรงกะเพื่อมสูงมากแน่นอน

ยิ่งล่าสุด เสี่ยหมี ถูกระงับการขายสโมสร และ ห้ามทำธุรกรรมทางการเงินทุกประเภท หมายความว่า อบราโมวิช จะไม่สามารถขายสโมสร เชลซี, ไม่สามารถดำเนินการซื้อนักเตะ, ต่อสัญญาผู้เล่น รวมถึงไม่สามารถขายตั๋วใหม่เพิ่มได้ นอกจากคนที่ถือตั๋วปี แค่ลงเตะได้เหมือนเดิม สิงห์บลูส์ ยังลงเตะได้ตามปกติ 

เท่ากับว่าต่อจากนี้ เชลซี จะโดนโทษต่อไปนี้

❌ ทรัพย์สินทั้งหมดของ เสี่ยหมี ในสหราชอาณาจักรถูกอายัด
❌ ถูกระงับการขายสโมสร
❌ งดจำหน่ายบัตร เข้าได้แค่ตั๋วปี
❌ งดจำหน่ายสินค้าสโมสร
❌ ต่อสัญญาใหม่กับนักเตะไม่ได้
❌ ห้ามซื้อ-ขายผู้เล่น

นั่นหมายความว่านักเตะที่กำลังจะหมดสัญญาอย่าง เซซาร์ อัซปลิกวยต้า กับ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ อาจต้องย้ายสโมสร เพราะสัญญาจะหมดลงหลังจบซีซั่นนี้ / ต่อไปถ้าลงเล่นที่สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็จะไม่ได้เปรียบคู่แข่งอีกแล้ว เพราะไม่รู้เหมือนกันว่าคนถือตั๋วปีมากน้อยแค่ไหน

ถึงแม้ค่าเหนื่อย และ ค่าจ้าง จะได้ตามเดิมปกติ แต่จะต้องเล่นไปด้วยความรู้สึกที่อนาคตไม่มีความแน่นอน เพราะทุกอย่างมันอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลยูเค แล้ว

ตอนนี้แฟนบอลกำลังวิจารณ์กันอย่างหนัก เพราะหลายข้อที่สั่งระงับ ก็ไม่แฟร์กับ เชลซี เท่าไหร่เลย เพราะมองว่า สโมสรไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยกับสงคราม ยูเครน-รัสเซีย ที่เกิดขึ้น แต่เชื่อเถอะครับการเมืองมันเกี่ยวข้องกับทุกเรื่องที่อยู่รอบตัวเรามานานแล้ว และ เชลซี กำลังโดนผลกระทบอันร้ายแรงนั้นอยู่

ฮาย ฮาวดี้-