แต่อีก 10% ที่เหลือ วันนี้สิ่งที่ ขอบสนาม อยากนำเสนอก็คือ การรวบรวมเหล่าบรรดาแข้งดังที่เนื้อตัวสะอาดไร้รอยสัก จะมีใครไปบ้างไปดูกัน
คริสเตียโน่ โรนัลโด้
สำหรับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ นอกจากจะได้รับการยกย่องว่าเป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกลูกหนังยุคนี้แล้วพี่แกยังถูกมองว่าเป็นแบบอย่างในอีกหลายๆ เรื่องด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแต่งตัวจากการเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้แบรนด์ดังๆ มากมาย เช่นเดียวกับเรื่องการดูแลตัวเองก็จัดว่าเฮลตี้สุดๆ นับเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับนักกีฬาหลายๆ คนที่กำลังหาวิธีดูแลตัวเอง และสามารถยืนระยะการเดินบนเส้นทางนักกีฬาอาชีพได้แบบเขาในวัย 37 ปี
ไม่ดื่มเหล้าเบียร์ของมึนเบาและไม่สูบบุหรี่ไม่พอ แต่สำหรับเรื่องผิวกาย เจ้าของโค้ดเนม CR7 ยังถือเป็นนักฟุตบอลส่วนน้อยอีกด้วยที่ไม่มีรอยสักบนเรือนล่างแม้แต่จุดเดียว ส่วนเหตุผลนั้นก็เป็นเพราะเจ้าตัวมักบริจาคเลือดและไขกระดูกอยู่เป็นประจำในทุกๆ 6 เดือน แถมยังเป็นตัวแทนขององค์กรการกุศลที่รณรงค์ให้นักกีฬาทุกคนหันมาบริจาคเลือดอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นนักกีฬาที่ดูหล่อเท่ห์แล้วยังเป็นนักกีฬาที่ใจบุญสุดๆ อีกด้วย
โมฮาเหม็ด ซาลาห์
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นราชาคนต่อไปของวงการฟุตบอลอียิปต์ อันนี้ไม่มีข้อสงสัยใดๆ เพราะเรื่องของผลงานและศักยภาพฝีเท้าที่ปรากฏกับ ลิเวอร์พูล ก็ถือเป็นหลักฐานที่ฟ้องให้เห็นชัดเจนอยู่แล้ว
เมื่อพูดถึงแฟชั่นที่เป็นที่ฮอตฮิตของนักบอลนั่นก็คือรอยสัก จะสังเกตได้ว่า "บังโม" นับเป็นเปอร์เซนต์ส่วนน้อยที่ไม่มีรอยบนร่างกายเลยส่วนเรื่องของเหตุผลก็เป็นเพราะการนับถือศาสนาอิสลามซึ่งหนึ่งในข้อห้ามของการเป็นชาวมุสลิม และตัวของ โม ซาลาห์ ก็ศรัทธาในเรื่องนี้มากๆ ด้วยเช่นกัน
"ผมไม่สัก ผมไม่เปลี่ยนทรงผม ผมไม่รู้วิธีการเต้น ผมใส่ใจแค่เรื่องของการเตะฟุตบอลเท่านั้น" นี่คือสิ่งที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เคยกล่าวไว้
เอ็นโกโล่ ก็องเต้
เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นผู้เล่นที่ดูบุกตะลุยพร้อมฟันฝ่าทุกอุปสรรค วิ่งไล่สกัดบอลปัดกวาดทุกพื้นที่ของสนามฟุตบอลไม่ว่าลูกบอลจะอยู่ที่ไหนก็ตามทั้งที่มีรูปล่างเล็กราวกับพริกขี้หนูจนได้รับการยกย่องว่าเป็นมิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดในโลก ณ ตอนนี้
แต่จริงๆ แล้วทุกๆ ท่านทราบว่านี่คือนักเตะที่สุขุม ขี้อาย และถ่อมตัวสุดๆ แถมยังใช้ชีวิตที่มัธยัสถ์สุดๆ ด้วย พวกของแพงๆ ของ แบรนด์เนม อะไรก็ตามที่ได้ชื่อว่าเป็นแฟชั่นที่ใครๆ เขาทำกัน แต่ เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ไม่เคยให้ความสำคัญกับมันเลย เช่นเดียวกับเรื่องรอยสักก็ไม่เคยอยู่ในความต้องการของเขา และเขาก็เป็นนักเตะเพียงคนเดียวของ เชลซี ที่ไม่มีรอยสักรอยแม้แต่จุดเดียว
ปอล ป็อกบา
ได้ชื่อเป็นนักเตะสายแฟชั่นจ๋าๆ อยู่แล้ว เรียกได้ว่าเป็นตัวท็อปๆ ของวงการเลยก็ว่าได้สำหรับ ปอล ป็อกบา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแต่งตัว รวมไปถึงทรงผมใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นทุกๆ ครั้งที่ลงสนามให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
แต่ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นสายแฟจัดๆ แต่คุณรู้ไหมว่า ปอล ป็อกบา ไม่ใช่ผู้นำหรือเป็นนักเตะที่โปรดปรานในเรื่องรอยสักเหมือนกับนักเตะคนอื่นๆ เลยซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นเพราะว่าพี่แกนั้นนับถือและศรัทธาในศาสนาอิสลามนั่นเอง
คิเลียน เอ็มบัปเป้
คิเลียน เอ็มบัปเป้ ถูกวางตัวเอาไว้ว่าจะกลายเป็นนักฟุตบอลที่ดีที่สุดในโลกคนต่อไปหลังหมดยุคของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ และ ลิโอเนล เมสซี่ เรื่องของศักยภาพฝีเท้านี่ไม่ต้องพูดถึง เพอร์ฟอร์แมนซ์ของพี่แกกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และกับ ทีมชาติฝรั่งเศส เป็นบทพิสูจน์ที่ชัดเจนอยู่แล้ว
ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นนักเตะระดับชั้นนำและโดดเด่นมากๆ จนถูกพูดถึงกันไปต่างๆ นาๆ ของวงการ แต่ในเรื่องของรอยสักก็ยังไม่ใช่แฟชั่นในความต้องการของ เอ็มบัปเป้ เพราะพี่แกได้ให้เหตุผลเอาไว้ว่า ด้วยความที่ตอนนี้อายุแค่ 23 ปีมันยังเด็กเกินไปเกินกว่าจะมีรูปรอยบนร่างกาย
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
นี่คือกองหน้าที่ดีที่สุด เก่งกว่านี้ไม่มีใครเกินแล้วสำหรับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ กับค่าเฉลี่ยการระเบิดสกอร์ 30-40 ประตูในทุกๆ ฤดูกาลและที่พี่แกยังคงยืนระยะเล่นได้โหดขนาดนี้ในวัย 33 ปีโดยที่มาตรฐานไม่ได้ตกลงเลยก็มาจากการดูแลตัวเองที่ดีมากๆ ไม่ว่าจะเป็นการกินและการใช้ชีวิต
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เป็นหนึ่งในนักเตะเพียงไม่กี่คนที่ไม่มีรอยสักบนร่างกาย เพราะว่าเขานั้นไม่ได้ต้องการสื่อถึงสิ่งที่เป็นตัวเขานอกจากโปร์ไฟล์ที่โชว์ออกมาบนสังเวียนฟุตบอล ดังนั้นเรื่องของแฟชั่นอะไรต่างๆ ตัดไปได้เลย
เควิน เดอ บรอยน์
น่าจะเป็นนักเตะระดับโลกอีกคนที่คุณคงไม่ได้คำนึงถึงเลยว่าเขาจะมีรอยสักรึเปล่า ? สำหรับ เควิน เดอ บรอยน์ ใช่แล้ว เขาคือนักเตะชื่อดังระดับซุปตาร์เพียงส่วนน้อยที่ไม่ได้มีรอยสักเลยแม้แต่ที่เดียว เพราะว่าสิ่งเดียวที่เขาโฟกัสก็คือผลงานในสนามเท่านั้นโดยที่ไม่คำนึงถึงสิ่งใดอื่นเลย
อย่างที่ทราบกันดีว่า เควิน เดอ บรอยน์ คือกุญแจสำคัญแห่งความสำเร็จตลอดช่วงที่ผ่านมากับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยความชื่นชอบและความหลงใหลในตัวเขามาจากสิ่งที่เกิดบนสังเวียนฟลอร์หญ้าล้วนๆ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องนอกสนามเลยแม้แต้น้อย
เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์
คล้ายๆ กับ คิเลียน เอ็มบัปเป้ อาจจะยังเด็กเกินไปที่ดาวรุ่งที่จะมีรอยสักบนร่างกาย แต่เราก็ไม่รู้ว่าอนาคตพี่แกจะตัดสินใจยังไงกับเรื่องนี้สำหรับ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เพราะทุกวันนี้สิ่งเดียวที่อยู่ในหัวและจิตใจของเขาก็คือการเตะฟุตบอลเพียงอย่างเดียว วันๆ เอาแต่ใส่ใจแต่เรื่องการซ้อมและหาวิธีให้ตัวเองเก่งขึ้นเรื่อยๆ ดูแล้วเรื่องความเป็นสายแฟก็เป็นสิ่งที่อยู่ไกลตัวพี่แกมากๆ จริงๆ
ด้วยความที่พี่แกมุ่งมั่นกับสิ่งที่เกิดในสนามเพียงอย่างเดียวมันก็เลยมันก็เลยทำให้เกิดผลงานที่ยอดเยี่ยมตลอดช่วงที่ผ่านมากับการซัดไป 80 ประตูจากการลงเล่นแค่ 82 เกมกับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และตอนนี้เรื่องของอนาคตก็ยังเป็นเครื่องหมายคำถามว่าจะเอายังไงเพราะมีโอกาสย้ายทีมสูงมากท่ามกลางความสนใจจากหลายทีมดัง
ซน ฮึง-มิน
ถ้าจะพูดถึงนักฟุตบอลเอเชียที่ป็อบปูลาร์ที่สุด และดีที่สุดตอนนี้ก็คงไม่มีใครฮอตเปรี้ยงปร้างไปเกินกว่า ซน ฮึง-มิน ผลงานของพี่แกเด่นและเป็นที่ประจักษ์ในสายตาของแฟนบอลทุกคนไม่ว่าจะเป็นกับ ทีมชาติเกาหลีใต้ หรือว่า กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ส
ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นนักเตะที่ได้รับความนิยมสูงจากผู้คนในผู้คนหมู่แถบเอเชีย และด้วยความเท่ห์หล่อเหลาสไตล์อปป้าของ พี่ซน เขาอาจจะเป็นแบบอย่างที่ดีในหลายๆ เรื่อง แต่ถ้ามองถึงเรื่องแฟชั่นเกี่ยวกับรอยสักขอบอกเลยว่าตัดไปได้เลย เพราะเรือนร่างของพี่แกนั้นสะอาดมากจริงๆ
แฮร์รี่ เคน
"พ่อของผมไม่เคยอนุญาตให้ผมไปสักเลย ทั้งที่ผมอยากสักมากๆ สมัยยังเด็ก แต่พ่อผมก็บอกว่าผมจะเสียใจกับเรื่องนี้เมื่อแก่ตัวไป เขาบอกว่า 'ถ้าอายุ 21 ปีแล้วอยากทำอะไรทำเลย แต่พอถึงตอนนั้นผมไม่ได้รู้สึกอยากเลย มันไม่ใช่ทางเลือกของผม ผมคิดว่าความสะอาดบนเรือนร่างคือสิ่งที่ได้รับการยอมรับจากทุกคนอยู่แล้ว และมันก็เป็นเรื่องดีสำหรับผมที่ได้เป็นโมเดลต้นแบบให้ใครหลายๆ คน' "
นี่คือสิ่งที่ แฮร์รี่ เคน ดาวยิงตัวเก่งจาก ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ และ ทีมชาติอังกฤษเคยพูดไว้ถึงประเด็นที่พี่แกไม่คิดเอารอยสักมาไว้บนร่างกาย
HaMu Dos Santos
