ยลโฉม ! 10 ดีลยอดเยี่ยมประจำซีซั่น 2021-22

บรูโน่ กิมาไรซ์ - นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 

จัดว่าเป็นความท้าทายที่เสียงไม่ใช่น้อยสำหรับ บรูโน่ กิมาไรซ์ ที่ตัดสินใจย้ายจาก โอลิมปิก ลียง ที่เป็นทีมดังและก็ได้โลดแล่นในเกมยุโรปอย่าง ยูฟ่า ยูโรปา ลีก แต่กลับต้องย้ายมาอยู่กับทีมที่สุ่มเสี่ยงต่อการตกชั้นอย่าง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์ เพราะ ณ เวลานั้นทัพ "สาลิกาดง" กำลังจมอยู่อันดับ 17-18 เลยทีเดียว

บรูโน่ กิมาไรซ์ ได้เปิดตัวในเกมที่เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-1 ก่อนจะเปิดซิงประตูแรกได้ในเกมที่เชือด เซาธ์แฮมป์ตัน 2-1 เท่านั้นยังไม่พอเพราะหลังจากนั้นพี่แกก็มาเป็นฮีโร่ที่เหมา 2 ประตูพา นิวคาสเซิ่ล พลิกกลับมาแซงชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-1 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 90+5 อีกต่างหาก

จริงๆ เรื่องของการพังประตูอาจไม่ใช่สิ่งที่หลายๆคนโฟกัส เพราะสิ่งที่จับต้องได้มากกว่าก็คือเกมตรงกลางของ นิวคาสเซิ่ล ที่แน่นและแข็งแกร่งมากขึ้นแบบเห็นได้ชัด และนั่นก็เป็นจุดสำคัญที่เริ่มทำให้ทีมเก็บแต้มได้เรื่อยๆ จนในที่สุดจากทีมอันดับ 18 ก็รอดตกชั้นได้สำเร็จพร้อมกับจบที่อันดับ 11 บนตารางคะแนน พรีเมียร์ลีก

ไมค์ เมญอง - เอซี มิลาน 

ไมค์ เมญอง เป็นเด็กปั้นของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง แต่มาสร้างชื่อจริงๆ ก็ตอนสมัยเฝ้าเสาให้กับ ลีลล์ การได้แชมป์ ลีก เอิง และรางวัลผู้รักษาประตูยอดเยี่ยมแห่งปี 1 สมัยได้ทำให้พี่แกแจ้งเกิดในฐานะผู้รักษาประตูหน้าใหม่ที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่ง ก่อนที่ความท้าทายครั้งใหม่จะเกิดขึ้นกับ เอซี มิลาน เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2021

ผู้รักษาประตูทีมชาติฝรั่งเศส วัย 26 ปีโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมบนสังเวียน กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ตั้งแต่ปีแรก ได้ลงเฝ้าเสาไป 32 นัด เก็บได้ 17 คลีนชีทซึ่งเป็นสถิติที่มากที่สุดประจำฤดูกาล และที่สำคัญที่สุดเลยก็คือการเป็นคีย์แมนหลักที่ช่วยให้ทัพ "ปีศาจแดง-ดำ" เถลิงบัลลังก์คว้า สคูเด็ตโต้ เป็นสมัยแรกในรอบ 11 ปี และแน่นอนว่ารางวัลนายทวารยอดเยี่ยมแห่งปีก็ไม่มีใครเหมาะสมเกินกว่า ไมค์ เมญอง คนนี้อีกแล้ว

อารอน แรมส์เดล - อาร์เซน่อล

โดนวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อยสำหรับ อาร่อน แรมส์เดล นายทวารชาวอังกฤษ เมื่อตอนย้ายมาอยู่กับ อาร์เซน่อล ใหม่ๆ ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นโกล์ดาวรุ่งที่ดูดีมีอนาคต แต่ด้วยโชคชะตาอันเลวร้ายที่อยู่กับทีมไหนก็ตกชั้นไปหมดไม่ว่าจะเป็น บอร์นมัธ ไล่มาจนถึง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด คำถามส่วนใหญ่ที่เจอก็คือเจ้าตัวจะไหวรึเปล่ากับการได้โอกาสกับทีมดังอย่าง "ไอ้ปืนใหญ่" และมีค่าตัว 24 ล้านปอนด์

แต่ดูเหมือนกับว่าความกดดันจะเป็นแรงผลักดันชั้นดีเพราะปีนี้ผลงานกับ อาร์เซน่อล ก็จัดว่าเด็ดดวงสุดๆ เหมือนกัน มีช็อตเซฟลูกยากๆ ให้เห็นมากมาย เขามีส่วนสำคัญในการพา อาร์เซน่อล เข้าวินในศึก นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ ที่ชนะ สเปอร์ส 3-1 รวมไปถึงเกมที่บุกชนะ เลสเตอร์ ซิตี้ 2-0 แถมยังได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำเดือนของ พรีเมียร์ลีก ด้วยอีก 1 สมัย สำหรับผลงานในปีนี้การเก็บไป 12 คลีนชีทจาก 34 นัด ก็ถือว่าไม่ได้ด้อยไปกว่านายทวารเบอร์ท็อปๆ ของ พรีเมียร์ลีก เลยทีเดียว ถึง อาร์เซน่อล จะต้องผิดหวังกับการตีตั๋วไปลุย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อีก 1 ปี แต่การมีเขาคนนี้ก็นับเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมยกระดับขึ้นไม่ใช่น้อยเลยจริงๆ

อชาร์ฟ ฮาคิมี่ - ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

พิสูจน์ตัวเองมาพักใหญ่ๆ แล้วสำหรับ อชาร์ฟ ฮาคิมี่ ตั้งแต่สมัยอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไล่มาจนกับ อินเตอร์ มิลาน จนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในแบ็กขวาที่ดีที่สุดในโลกลูกหนังยุคปัจจุบัน มีทีเด็ดมากมายและสามารถหวังผลได้ในการของการสร้างสรรค์เกม และในฤดูกาลที่ผ่านมา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คือความท้าทายครั้งใหม่สำหรับเขา

ฟูลแบ็กทีมชาติโมร็อคโก ยังคงรักษามาตรฐานของตัวเองได้ดีอย่างต่อเนื่องได้ลงเล่นใน ลีก เอิง ฝรั่งเศส ไป 32 นัด และมีส่วนร่วมกับประตูที่ทีมทำได้ 10 ประตูโดยแบ่งเป็น ยิง 4 ประตูและทำได้ 6 แอสซิสต์ และก็ถือเป็นส่วนสำคัญที่พา เปแอสเช คว้าแชมป์ลีกสมัยที่ 10 มาครองได้าสำเร็จ

ลุยซ์ ดิอาซ - ลิเวอร์พูล

ผลงานเข้าตามากๆ ในช่วงครึ่งปีแรกของซีซั่น 2021-22 กับ เอฟซี ปอร์โต้ สำหรับ ลุยซ์ ดิอาซ กับการซัดไป 14 ประตู กดไปอีก 5 แอสซิสต์จากการลงเล่น 18 นัด นั่นทำให้ชื่อของ ปีกทีมชาติโคลอมเบีย กลายเป็นที่สนใจจากเหล่าบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป ก่อนที่ท้ายที่สุดจะเป็นทาง ลิเวอร์พูล ที่ได้ตัวมาครอบครองด้วยค่าตัว 37.5 ล้านปอนด์ ถ้าหากรวม add-ons ต่างก็มีมูลค่าที่สูงถึง 50 ล้านปอนด์เลยทีเดียว

ชื่อของ ลุยซ์ ดิอาซ อาจยังไม่ได้เป็นที่คุ้นหูกันมากเท่าไหร่มันก็เลยมีการตั้งข้อสงสัยว่าด้วยเงินจำนวนดังกล่าวมันจะคุ้มค่ารึเปล่า ? แต่ผลปรากฏว่าสิ่งที่พี่แกได้วาดลวดลายบนสนามมันทำให้มูลค่าตรงนั้นกลายเป็นถูกไปเลยจากการซัดไป 8 ประตู กดอีก 4 แอสซิสต์จากการลงเล่นใน พรีเมียร์ลีก และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และในจำนวนนั้นล้วนแล้วก็มีประตูสำคัญๆ มากมายที่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ได้ลุ้นความสำเร็จถึง 4 แชมป์จนวินาทีสุดท้าย

ดาวิด อลาบา - เรอัล มาดริด

ดาวิด อลาบา ดาวเตะสารพัดประโยชน์ตัดสินใจเก็บข้าวของไปจาก บาเยิร์น มิวนิค แบบไม่มีค่าตัว ไม่ว่าทีมไหนก็อยากได้ตัวไปร่วมทีม และสุดท้ายก็เป็น เรอัล มาดริด ที่ได้ตัวไปร่วมทีม พร้อมกับรับช่วงต่อเสื้อหมายเลข 4 ต่อจากตำนานกองหลังกัปตันทีมอย่าง เซร์คิโอ รามอส ที่ย้ายไปอยู่กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

ถึงจะประจำการได้หลากหลายตำแหน่งแต่บทบาทหลักๆ ของ ดาวิด อลาบา ก็คือการยืนเป็นเซ็นเตอร์แบ็กตัวหลัก และก็ทำผลงานได้ดี ไม่ต้องปรับตัวอะไรมากมายนักเหมือนกับว่าอยู่ค้าแข้งที่ ซานติอาโก้ เบร์นาเบว มานาน แน่นอนว่าเขาคือกำลังสำคัญที่ช่วยพา เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน โดยมีระยะห่างจากทีมอันดับ 2 ที่ไกลใช้ได้เลย แถมยังช่วยให้ทีมเสียประตูน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 และที่พีคสุดๆ เลยก็คือการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก สมัยที่ 3 บนในเส้นทางอาชีพค้าแข้ง

เดยัน คูลูเซฟสกี้ - ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

เดิมที ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ก็มีดูโอ้คู่มหาประลัยที่น่ากลัวอยู่แล้วนั่นก็คือ แฮร์รี่ เคน กับ ซน ฮึง-มิน ว่ากันว่าตอนนี้พวกเขาคือคู่บัดดี้ที่น่ากลัวที่สุดในศึก พรีเมียร์ลีก แต่มันยังไม่หยุดอยู่แค่นั้นเพราะเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา อันโตนิโอ คอนเต้ ได้ดึง เดยัน คูลูเซฟสกี้ จาก ยูเวนตุส มาเป็นอีกหนึ่งไม้เด็ดด้วยสัญญายืมตัว พ่วงออปชั่นซื้อขาดไว้ที่ 35 ล้านยูโร

จากโอกาสที่ไม่ค่อยสม่ำเสมอที่ ยูเวนตุส ในยุคของ มัสซิมิเลียโน่ อัลเลกรี ไปๆ มาๆ กลายเป็นขุมกำลังสำคัญที่มีส่วนกับเกมอย่างมากในแคมป์ "ไก่เดือยทอง" เพราะตอนนี้พี่แกมีส่วนร่วมอย่างมากถึง 13 ประตูจากการลงเล่น 18 นัดใน พรีเมียร์ลีก แบ่งเป็นยิง 5 และ แอสซิสต์ 8 ครั้ง ถ้าจะพูดถึงประตูที่น่าจดจำก็คือก็คงจะเป็นการใส่สกอร์ในเกมที่ชนะ แมนฯ ซิตี้ 3-2 และที่เซอร์ไพรส์สุดๆ ก็คือการปรับตัวเข้ากับสไตล์บอลอังกฤษได้ทันท่วงที และก็ประสบความสำเร็จในการช่วยให้ สเปอร์ส คว้าโควต้าไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้สำเร็จ แน่นอนว่าออปชั่นซื้อขาดถาวรยังไงก็ได้ใช้แน่นอน

โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ - เอซี มิลาน

ความท้าทายครั้งใหม่ของ โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ เกิดขึ้นในฤดูกาล 2021-22 กับ เอซี มิลาน เพราะอยู่กับ เชลซี สถานะของพี่แกนั้นถูกมองว่าไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมเนื่องจากการมาของ โรเมลู ลูกากู ถึงแม้อายุอานามจะปาเข้าไป 35 ปีแล้ว แต่โปรไฟล์ที่สร้างไว้บนสังเวียน กัลโช่ เซเรีย อา ก็จัดว่าไม่เลวเลย เขามีส่วนร่วมถึง 15 ประตูจากการลงเล่น 29 นัด โดยแบ่งเป็นยิงไป 11 ประตู และกดไปอีก 4 แอสซิสต์

เดิมที โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ ถูกมองไว้ว่าเป็นหน่วยสนับสนุนของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช แต่ด้วยเรื่องปัญหาอาการบาดเจ็บที่ตามรุมเร้าก็ทำให้ได้โอกาสอย่างเต็มที่ และก็นับเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ เอซี มิลาน กลับมาเถลิงบัลลังก์แชมป์ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี สมัยแรกได้รอบ 11 ปีได้สำเร็จ ถ้าจะเกิดจะถามถึงดีลสุดคุ้มแห่งปีแน่น่อนว่ามันต้องมีชื่อของพ่อหน้าหล่อคนนี้อย่างมิต้องสงสัย

แทมมี่ อบราฮัม - โรม่า 

พิสูจน์ตัวเองมาไม่น้อยสำหรับ แทมมี่ อบราฮัม ไล่ตั้งแต่สมัยอยู่กับ แอสตัน วิลล่า ไล่มาจนถึง เชลซี ตลอด 2 ซีซั่น ถึงจะมีสถิติการพังประตูที่ดีอย่างต่อเนื่องแต่ถึงกระนั้นก็ไม่อาจก้าวขึ้นไปเป็นหัวหอกเบอร์ 1 ของ เชลซี ได้ในยุคของ โธมัส ทูเคิ่ล และนั่นก็ทำให้พี่แกต้องระเห็จเก็บข้าวของไปหาความท้าทายครั้งใหม่กับ โรม่า ในยุคของ โชเซ่ มูรินโญ่ ในท้ายที่สุดด้วยค่าตัว 34 ล้านปอนด์

สิ่งที่ แทมมี่ อบราฮัม ได้สร้างเอาไว้ในฤดูกาลนี้นับเป็นสิ่งที่ตอกหน้าทีมเก่าอย่าง เชลซี ที่มองข้ามคุณค่าในตัวเขากับการซัดไป 27 ประตูรวมทุกรายการ และกดไปอีก 5 แอสซิสต์ สร้างสถิติเป็นผู้เล่นชาวอังกฤษที่ทำประตูได้มากที่สุดกับการเปิดตัวปีแรกในลีกอิตาลี เมื่อเทียบผู้เล่นแนวรุกที่ เชลซี แล้วไม่มีใครผลงานดีสู้ไอ้หมอนี่ได้เลยสักคน แน่นอนว่าเรื่องความดีความชอบส่วนหนึ่งก็ต้องยกให้กับ แทมมี่ ด้วยกับการพา โรม่า ประสบความสำเร็จในถ้วย ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ ลีก

ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมอยอง - บาร์เซโลน่า

จากกองหน้าระดับเวิลด์คลาสได้กลายเป็นตัวปัญหาสำหรับ อาร์เซน่อล หลังมีปัญหาด้านความสัมพันธ์กับ มิเกล อาร์เตต้า รวมไปถึงความผิดเรื่องวินัยมากมายจนโดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากมาย และในเมื่อไม่มีใครเอา ไม่ได้เป็นที่ต้องการของทีมอีกต่อไปนั่นก็ทำให้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมอยอง ได้ตัดสินใจเก็บข้าวของย้ายไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ บาร์เซโลน่า ช่วงต้นปีที่ผ่านมาแบบไม่มีค่าตัว

การมาของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมอยอง ได้สร้างความแตกต่างและช่วยยกระดับให้ บาร์เซโลน่า กลับมาเป็นทีมที่มีเกมรุกที่น่ากลัวอีกครั้ง เขาได้เปิดตัวในเกมที่เจอกับ แอตเลติโก มาดริด และช่วยให้ทีมเอาชนะได้ 4-2 ก่อนจะมาซัดแฮตทริกในเกมที่ถล่ม บาเลนเซีย 4-1 และที่เด็ดดวงที่สุดในระดับมาสเตอร์พีซเลยก็คือการทำ 2 ประตู กดอีก 1 แอสซิสต์ในศึก เอล กลาซิโก้ ที่ถล่ม เรอัล มาดริด 4-0

เบ็ดเสร็จแค่เพียงช่วงครึ่งฤดูกาล ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมอยอง เล่นหวดไปทั้งหมด 11 ประตู ทำ 1 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 17 นัด ถึงจะไม่มีความสำเร็จอะไรติดไม้ติดมือมา แต่การพา บาร์เซโลน่า จบด้วยการเป็นรองแชมป์ก็ถือเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมมากๆ

HaMu Dos Santos