ยลโฉม! 5 ทีมที่โดดเด่นเรื่องทีมเวิร์ค และ การประสานงานที่ลงตัว

ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราจะพาไปยลโฉม 5 ทีมที่มีทีมเวิร์คยอดเยี่ยม แถมมีการประสานงานที่ลงตัว ซึ่งมีจะสโมสรไหนบ้าง ไปติดตามกันได้เลย

เรอัล มาดริด

เจ้าของแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลล่าสุด ทำให้จบซีซั่น 2021-22 ด้วยการคว้าดิบเบิ้ลแชมป์พ่วงด้วย ลาลีกา สเปน อีกสมัย กลายเป็นขวบปีที่ยอดเยี่ยมของทัพ "ราชันชุดขาว" ภายใต้การรีเทิร์นกลับมาทำงานเป็นครั้งที่ 2 ของ คาร์โล อันเชล็อตติ

ซึ่งด้วยความเก๋า และประสบการณ์ของ "อันเช่" เจ้าตัวจัดการเปลี่ยนแปลง แต่งเติมเล็กน้อยให้กับลูกทีม จนกลายเป็นว่าทุกพื้นที่ในสนามเปี่ยมล้นไปด้วยคุณภาพ และทีมเวิร์คที่ยอดเยี่ยม ไล่มาตั้งแต่เกมรับแม้จะเสียง 2 ปราการหลังอย่าง ราฟาเอล วาราน กับ เซร์คิโอ รามอส ไป แต่ทว่าพวกเขายังคงความแข็งแกร่งเอาไว้ได้

ขยับมาที่แดนกลางคงไม่ต้องสาธยายถึงความเวิลด์คลาสของเหล่ามิดฟิลด์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น ลูก้า โมดริช, โทนี่ โครส หรือ คาเซมิโร่ ก่อนจะมีฟันเฟืองอย่าง เอดูอาร์โด้ คาร์มาวิงก้า มาช่วยสอดประสานเพิ่มอีกราย ส่วนเกมรุกกลายเป็นซีซั่นที่ วินิซิอุส ยกระดับตัวเองมากขึ้น และช่วยส่งเสริมให้ คาริม เบนเซม่า เป็นสุดยอดดาวยิงของฤดูกาลที่ผ่านมา

ส่วนมวลรวมทั้งหมดก็ต้องยอมรับว่า เรอัล มาดริด คือฟุตบอลที่ใช้ทีมเวิร์คอันข้างสูง จากแท็คติกของโค้ชที่สั่งลงมา บวกกับความสามารถของนักเตะ ทำให้กลายเป็นสุดยอดทีมของยุโรปแบบที่แฟนบอลได้ยลโฉมกันนั้นเอง

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

ทัพ "เรือใบสีฟ้า" ภายใต้การบริหารจัดการโดย เป๊ป กวาร์ดิโอล่า แน่นอนเมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นยอดกุนซือจากสเปนรายนี้สิ่งที่กลายเป็นเครื่องหมายการค้าคือฟุตบอลที่สวยงาม การส่งต่อ และเคลื่อนที่ และจบสกอร์

ซึ่งการเข้ามาของ เป๊ป แน่นอนว่าเขาค่อยๆ ปลูกฝั่งระบบในรูปแบบของตัวเองให้กับทีม จนยกระดับศักยภาพของผู้เล่น และสโมสรให้ขึ้นมาเป็นเต้ยของวงการฟุตบอลอังกฤษในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมันการันตีด้วยความสำเร็จมากมายที่ทีมได้มาเชยชม และมันมาพร้อมฟุตบอล Passing บอลแบบเท้าสู่เท้า เคลื่อนที่ไม่พร้อมๆ กันทั้งทีม

แน่นอนด้วยสไตล์ของ เป๊ป เราจะสังเกตุเห็นได้ว่าเป็นบอลแบบแท็คติกจ๋า แต่ทว่ามันก็มีความยืดหยุ่น และไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครคนใดคนหนึ่งเสมอไป ยกตัวอย่างซีซั่นที่ผ่านมาการที่ไม่มีกองหน้าตัวเป้าขนานแท้ แต่ก็สามารถมีความสำเร็จมาเชยชม เนื่องด้วยสิ่งสำคัญคือความลงตัว และความเข้าใจในทีม และแท็คติกที่โค้ชวางเอาไว้แล้วนั่นเอง

เอซี มิลาน

ยักษ์ที่หลับใหลไปนานก็ถึงเวลาที่ตื่นขึ้นมาผงาดคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง และเป็นในชนิดที่ว่าหักปากกาเซียนทุกด้าม เพราะถ้าว่ากันตามเหตุผลทา
ฟุตบอล และขุมกำลัง เอซี มิลาน ย่อมเป็นรองบิ๊กทีมอย่าง ยูเวนตุส หรือแชมป์เก่าอย่าง อินเตอร์ มิลาน ไหนจะดีกรีของกุนซือที่ สเตฟาโน่ ปิโอลี่ ย่อมมีประสบการณ์ฟุตบอลระดับสูงน้อยกว่า แม็กว์ อัลเลกรี เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

แต่แล้วกลายเป็นฟุตบอลที่ไม่ได้มีซูปเปอร์สตาร์สามารถตอบโจทย์กับแท็คติก และเล่นในรูปแบบที่ใช้ทีมเวิร์คเข้าสู้ จนกลายเป็นการประสานงานที่ลงตัวไล่มาตั้งแต่แดนหลัง ยันกองหน้าที่ช่วยกันประคองจนทีมสามารถเข้าป้ายคว้าโทรฟี่แชมป์มาครอง

ไล่มาตั้งแต่หลังบ้านพวกเขาคือทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในฤดูกาลที่ผ่านมาเพียง 31 ประตู ส่วนเกมรุกแม้จะยิงได้น้อยกว่าอันดับ 2 กับ 3 แต่ทว่าด้วยทีมเวิร์คอย่างที่บอก มันช่วยให้ทีมได้ผลการแข่งขันตามที่ต้องการได้สำเร็จ

ฉะนั้นแล้วทัพ "ปีศาจแดง-ดำ" เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาจึงเป็นบทพิสูจน์ที่สำคัญไม่น้อยว่าบางทีทีมก็มีระบบที่ดี มีนักเตะที่ทำได้ตามแท็คติกของโค้ช และมีการประสานงานที่ลงตัว ไม่จำเป็นต้องมีสตาร์ล้นทีมก็สามารถประสบความสำเร็จได้

ลิเวอร์พูล

พลพรรคทัพ "หงส์แดง" ภายใต้การดูแลของ เจอร์เก้น คล็อปป์ คือตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมในการเฟ้นหาทีมของตัวเองจนลงตัว และค่อยๆ ไต่ระดับมาตรฐานของทีมขึ้นมาจนกลายเป็นพญาหงส์ในยุคปัจจุบันเรียบร้อย

ย้อนกลับไป ลิเวอร์พูล ในช่วงแรกที่ คล็อปป์ เข้ามาคุมทีมต้องยอมรับว่าทรงของฟุตบอลนั้นเละเทะมากพอสมควร ไม่มีทิศทางที่แน่นอน ซึ่งกุนซือชาวเยอรมันก็ค่อยๆ ดัดแปลง และปรับเปลี่ยนหาผู้เล่นที่สามารถเข้ามาเล่นในระบบของตัวเองได้มากที่สุด ซึ่งเราจะสังเกตุเห็นว่าแทบทุกดีลในยุคของ คล็อปป์ มักจะคุ้มค่าทั้งหมด

ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปทุกอย่างเริ่มลงตัว ลิเวอร์พูล ในวันนี้กลายเป็นทีมที่เล่นด้วยระบบฟุตบอลอย่างแท้จริง "เกเก้น เพลสซิ่ง" คือแนวทางที่ คล็อปป์ ป้อนข้อมูลให้กับลูกทีม การวิ่งบีบกดดันคู่แข่งอย่างหนัก รวมไปถึงฟุตบอลที่สวยงาม หลากหลาย และการเข้าทำที่หวังพึ่งพาประสิทธิภาพได้ 

ฉะนั้นแล้วเมื่อพูดถึงทีมที่มีการประสานงานที่ลงตัวมากที่สุดแห่งยุคนี้ คงต้องมีชื่อของ ลิเวอร์พูล อยู่ในลิสต์ด้วยอย่างปฏิเสธไม่ได้

บาร์เซโลน่า

หนึ่งในทีมฟุตบอลที่ขึ้นชื่อเรื่องของการประสานงานอันยอดเยี่ยม อาจมีหลงทางไปบ้างในช่วงหลังแต่ทว่าการเข้ามาของ ชาบี เอรนานเดซ ก็เริ่มทำให้เห็นแล้วว่า บาร์เซโลน่า ยังคงเป็นทีมที่เน้นความเข้าใจ และมีรูปแบบการเล่นในกลิ่นอายของความเป็นตัวเอง

แน่นอนว่าในอดีต บาร์ซ่า ถูกยกให้เป็นหนึ่งในทีมที่เล่นฟุตบอลได้เพลิดเพลิน และน่าชมมากที่สุดจากสไตล์ที่เรียกว่า "ตีกี ตาก้า" การจ่ายบอลเท้าสู่เท้า ค่อยๆ เซตระบบจากแดนหลังไม่มีการเปิดมั่วซั่ว แถมจุดเด่นคือเกมรุกอันร้อนแรงโดยเฉพาะในยุค MSN เมสซี่, ซัวเรซ และ เนย์มาร์

แม้ในปัจจุบันด้วยมาตรฐานจะค่อนข้างห่างจากในยุคนั้น แต่ทว่าในเรื่องของความเป็นทีมเวิร์ค ชาบี กำลังไต่ระดับของตัวผู้เล่น และระบบทีมให้เข้าที่เข้าทางมากยิ่งขึ้น

ฉะนั้นแล้ว บาร์เซโลน่า จึงกลายเป็นอีกหนึ่งสโมสรที่มีความลงตัวในเรื่องของตัวผู้เล่น การสอดประสานเกม และทีมเวิร์คที่โดดเด่น ซึ่งอนาคตอันใกล้เราอาจได้เห็นพวกเขากลับมาผงาดไล่ล่าแชมป์อย่างต่อเนื่องอีกครั้ง

- Paolinho -