"ศึกเหลี่ยมชนเหลี่ยม" อัพเดทสถานการณ์ กรีซมันน์

ดูเหมือนจะกลายเป็นศึกเหลี่ยมชนเหลี่ยมซะแล้ว สำหรับสถานการณ์ในดีล อองตวน กรีซมันน์ ระหว่าง บาร์เซโลน่า กับ แอตเลติโก มาดริด ที่อาจจะลุกลามกลายเป็นดีลฟ้องร้อง หรืออาจเป็นแค่การขู่กดดันราคากันไปกันมา

และแน่นอนวันนี้ ขอบสนาม ของเรา จึงอยากจะมาขอสรุปเหตุการณ์นี้แบบอัพเดทล่าสุด พร้อมกับไปคาดการณ์เจตจำนงของแต่ละฝ่าย รวมถึงคำตอบว่าท้ายที่สุดเรื่องนี้ จะออกหน้าไหนได้บ้างครับ ?

[เหลี่ยมมา]

ย้อนไปหลังจาก บาร์ซ่า ได้ปล่อย กรีซมันน์ ให้ ตราหมี ยืมตัวด้วยสัญญาถึง 2 ฤดูกาล โดยมีเงื่อนไขว่าต้องซื้อขาดหากนักเตะลงเล่นเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ใน 2 ซีซั่น ซึ่งจะนับเฉพาะเกมที่ กรีซมันน์ พร้อมลงสนาม ไม่รวมตอนเจ็บและแบน และที่สำคัญ คือจะนับเป็น 1 เกม ก็ต่อเมื่อลงสนามในนัดนั้นเกิน 45 นาทีเท่านั้น

โดยฤดูกาลแรกก็ดูเหมือนจะไม่มีปัญหา เมื่อ แอตฯ มาดริด ส่ง กรีซมันน์ ลงเล่นเกิน 45 นาที ไปถึง 30 เกม จาก 37 นัดที่เขามีชื่อติดทีม หรือคิดเป็นถึง 81% ตามเงื่อนไข

แต่อาจเพราะด้วยฟอร์ม กรีซมันน์ ปีก่อนที่ไม่ได้เปรี้ยงดังเก่าเลย ทำให้ซีซั่นถัดมาหรือฤดูกาลล่าสุด มีรายงานว่า แอตฯ มาดริด ไม่ต้องการจ่ายเงินถึง 40 ล้านยูโร ตามเงื่อนไขสัญญาเพื่อซื้อขาดแข้งรายนี้

ทำให้ฤดูกาลนี้ กรีซมันน์ เลยยังไม่ได้ลงสนามกับ ตราหมี เกิน 45 นาที คือจริง ๆ ยังไม่เกิน 30 นาทีเลยสักนัดด้วยซ้ำ เขาจะถูกส่งลงหลังนาทีที่ 60 ของการแข่งขันตลอด แม้จะเล่นดีแค่ไหนแต่ก็ไม่ได้รับการออกสตาร์ทเลย

นั่นเท่ากับว่า หากนับตามเงื่อนไขในสัญญา กรีซมันน์ ก็ยังไม่ได้มีจำนวนเกมที่เพิ่มเลยแม้แต่นัดเดียวในซีซั่นนี้ ซึ่งหากอัพเดทเปอร์เซ็นต์ล่าสุด จะเท่ากับว่าเขามีชื่อติดทีมมาแล้ว 44 นัด แต่ลงสนามเกิน 45 นาทีไปเท่าเดิมเลยที่ 30 เกม ทำให้เปอร์เซ็นลดลงมาที่ 68% แล้ว

และหาก ตราหมี ยังคงส่งชื่อ กรีซมันน์ ติดทีมหรือใช้งานแบบเดิมไปอีก 17 นัด จะเท่ากับว่าเขา จะมีจำนวนเกมตามข้อสัญญาไม่ถึง 50% แล้วนั่นเองครับ

ซึ่งนี่ก็ถือเป็นการโชว์ ‘เหลี่ยม’ จากฝั่ง แอตฯ มาดริด แม้จะไม่มีคนในสโมสรพวกเขาคนไหนบอกตรง ๆ ถึงสาเหตุที่ทำ อย่างพอไปถามกุนซือ ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ก็จะบ่ายเบี่ยงตลอด แต่เขาก็เคยเหมือนยอมรับกลาย ๆ ว่ามันเป็นใบสั่งจากบอร์ดบริหาร

โดยมันก็ตามมาด้วยข่าวย้อนหลัง ว่าในซัมเมอร์ที่ผ่านมา ตราหมี เคยยื่นข้อเสนอขอลดค่าตัว กรีซมันน์ ลงมาเหลือที่ 20 ล้านยูโร แต่ทางฝั่ง เจ้าบุญทุ่ม ยืนกรานต้องการตามค่าฉีกเท่านั้น มันจึงตามมาด้วยเหตุการณ์ดังข้างต้นนั่นเอง

ก่อนจากนั้นแน่นอนจึงมีการโต้กลับจากอีกฝั่ง …

[เหลี่ยมกลับ]

เมื่อเหลี่ยมมา อีกฝั่งก็พยายามเหลี่ยมกลับเป็นธรรมดา เมื่อเจอแบบนี้ บาร์ซ่า จึงพยายามโต้ตอบด้วยการขู่จะฟ้องร้อง

สื่อแดนกระทิงหลายสำนัก รายงานตรงกันว่า บาร์เซซ่า เตรียมใช้ข้อกฎหมายบังคับให้ แอตเลติโก มาดริด จ่ายเงิน 40 ล้านยูโร เพื่อซื้อขาด กรีซมันน์ 

หลังพวกเขาอ้างว่าส่งแข้งรายนี้ให้ ตราหมี ยืมตัวแค่ปีเดียว และเมื่อซีซั่นก่อน กรีซมันน์ ลงเกิน 50% เรียบร้อย จึงถือว่าบรรลุเงื่อนไขแล้ว ส่วนการยืมตัวในฤดูกาลที่ 2 นี้คือออปชั่นที่ต่อเนื่องกันมา 

เรียกได้ว่า ‘เหลี่ยมมา เหลี่ยมกลับ ไม่โกง’ จริง ๆ แต่กระนั้นก็ดูเหมือนฝั่ง ตราหมี จะไม่ได้วิตกกังวลแต่อย่างใด หลังพวกเขาเชื่อว่าข้อโต้แย้งดังกล่าวของ เจ้าบุญทุ่ม จะฟังไม่ขึ้นในชั้นศาลอยู่แล้ว

ซึ่งเมื่อมีข่าวแบบนี้ นักข่าวจึงชักไมค์ไปถาม ชาบี เอร์นานเดซ กุนซือ บาร์ซ่า บ้าง โดยเขาก็พยายามบ่ายเบี่ยงเช่นกัน ด้วยการตอบว่าตอนนี้ กรีซมันน์ ไม่ใช่นักเตะของเขา และให้กลับไปถาม ซิเมโอเน่ แทน พร้อมบอกมันขึ้นอยู่ระหว่างการดีลกันของสองสโมสร

จากนั้นมันจึงตามมาด้วยข่าวการเจรจาของทั้งสองทีม แต่ …

[ก็ยังไกล่เกลี่ยไม่ได้สักที]

หลังจากมีข่าวจากฝรั่งเศส ระบุว่า บาร์เซโลน่า กับ แอตฯ มาดริด ใกล้ที่จะบรรลุข้อตกลงในดีล กรีซมันน์ กันได้แล้ว โดยจะลดออปชั่นซื้อขาดจาก 40 ล้านยูโร ลงมาเหลือ 25 ล้านยูโร พร้อมกับยังไม่ได้มีการฟ้องร้องอะไรกันเกิดขึ้น

แต่จากนั้นไม่นาน เอ็นริเก้ เซเรโซ ประธานสโมสร แอตฯ มาดริด ก็ออกมาปฏิเสธแบบทันควัน ว่าไม่ได้มีการเจรจากับ บาร์เซโลน่า และไม่ได้มีความตั้งใจจะทำแบบนั้นด้วย พร้อมบอกยังมีจุดยืนเหมือนกับตอนต้นฤดูกาล

นั่นเท่ากับว่าตอนนี้ บาร์ซา กับ ตราหมี ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเรื่อง กรีซมันน์ กันได้ มันจึงตามมาด้วยคำถามที่อาจพอมีคำตอบที่ว่า …

[สรุปแล้วทุกฝ่ายต้องการอะไรกันแน่ ?]

ทางฝั่ง เจ้าบุญทุ่ม เราคิดว่าชัดเจนแล้ว ว่าพวกเขาต้องการปล่อย กรีซมันน์ ออกจากทีม ส่วนตัว กรีซมันน์ ก็ชัดเจนเช่นกัน ว่าเขาต้องการอยู่กับ ตราหมี

เห็นได้ชัด ๆ คือสัมภาษณ์หลังจบเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ตัวเขาลงสำรองมาทำประตูชัย พร้อมคว้ารางวัล แมนออฟเดอะแมตช์ พาทีมชนะ ปอร์โต้ คือนัดนั้นนอกจาก กรีซ์มันน์ จะดีใจด้วยการแสดงสัญลักษณ์จูบตราสโมสรแล้ว เขายังสัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมา ว่าเขาแฮปปี้กับ แอตฯ มาดริด และอยากจะค้าแข้งกับสโมสรนี้ต่อไป

แล้วฝั่ง ตราหมี ล่ะ? ที่ทำแบบนี้ต้องการแบบไหน โดยจากสัมภาษณ์ล่าสุดในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก เช่นกันแต่ล่าสุดคือแพ้ เลเวอร์คูเซ่น 2-0 ซิเมโอเน่ ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่าทีมจะเล่นได้ดีกว่า เมื่อ กรีซมันน์ อยู่ในสนาม

โดยหากเราดูจากสถิติฤดูกาลนี้ กรีซมันน์ แม้จะลงสนามไปเพียง 192 นาที แต่ก็สามารถทำได้ถึง 3 ประตู เป็นประตูชัยถึง 2 ครั้ง และเป็นการยิงเฉลี่ย ๆ ทุก 64 นาที ซึ่งว่าดีเยี่ยมเลย

ดูแล้ว ซิเมโอเน่ คงอยากจะใช้ กรีซมันน์ แบบเต็ม ๆ เหมือนกัน แต่มันติดที่สโมสรของเขาแหละครับ หลังมีเคยรายงานว่า ตราหมี นั้นมีปัญหาการเงิน จึงพยายามหลีกเลี่ยงให้ไม่ต้องจ่ายเงินค่าตัวเต็ม ๆ 40 ล้านยูโร

หรือว่าง่าย ๆ ว่า แอตฯ มาดริด ก็ดูเหมือนจะอยากได้ กรีซมันน์ แหละครับ แค่พวกเขาไม่อยากทุ่มเงิน และดูเหมือนเรื่องนี้ยังไม่มีท่าทีสักทีว่าจะได้ข้อสรุป จึงตามมาด้วยอีกคำถามที่ว่า …

[แล้วมันจะไปจบที่ทางไหน?]

ซึ่งเมื่อดูจากทุกอย่างแล้ว เราคิดว่ามันคงจบได้หลัก ๆ 3 ทาง

ทางแรก : บาร์ซ่า ไกล่เกลี่ยกับ ตราหมี ได้ลงตัว ค่าตัวอาจจะอยู่ที่ราว ๆ 20 ล้านยูโรตามที่ แอตเลติโก มาดริด เคยยื่นขอเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา

ทางที่สอง : บาร์ซ่า ไกล่เกลี่ยกับ ตราหมี ไม่ลงตัว เกิดการฟ้องร้องต่อศาล แต่ดูทรงคงยากที่ เจ้าบุญทุ่ม จะชนะคดี และเมื่อเป็นแบบนั้นจึงจะเกิดเป็น …

ทางที่สาม : บาร์ซ่า ต้องรับตัว กรีซมันน์ คืนสู่ทีมด้วยสัญญา 1 ปีที่เหลือกับสโมสร พร้อมกับแบกรับค่าเหนื่อยถึง 20 ล้านยูโรในปีนั้น โดยส่วนที่ว่าจะไปขายต่อยังไงก็ค่อยว่ากันอีกที

และท้ายที่สุดนี้ ก็คงต้องขอบอกให้เข้าใจนะครับว่าเคสนี้ ไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก ถึงจะเหลี่ยมแต่เป็นการเหลี่ยมกันในข้อกฎหมาย และมันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไรในวงการฟุตบอลของเรา เพราะเมื่อมันเป็นเรื่อง ‘เงิน’ อะไรก็สามารถซับซ้อนได้เสมอ ถูกไหมครับ?