หลังเกม เมสซี่ ซัดให้ อาร์เจน ดับ จิงโจ้ วิ่งโร่สู่รอบ 8

เพราะต่อให้นำ 2-0 แต่ก็มีจังหวะช็อคฟีล เกือบโดนตีเสมอด้วยซ้ำทำเอาแฟนบอล ฟ้า-ขาว เป่าปากด้วยความโล่งใจ 

อย่างไรก็ตาม เกมนี้มีอะไรให้พูดถึงมากมาย โดยเฉพาะการทำประตูของ ลิโอเนล เมสซี่ เอาเป็นว่ามีสถิติอะไรน่าสนใจเกิดขึ้นบ้าง ไปติดตามกันเลยครับ

- เมสซี่  ทำประตูแรกในรอบน็อคเอาท์

ถึงแม้ ลิโอเนล เมสซี่ จะยิงจุดโทษไม่เข้าในเกมที่ อาร์เจนติน่า เอาชนะ โปแลนด์ 2-0 แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความมั่นใจของเขาลดลงไปแม้แต่น้อย เขายังคงเป็นจอมทัพให้กับทัพ ฟ้า-ขาว อยู่เหมือนเดิม

และ ในเกมรอบน็อคเอาท์ ลิโอเนล เมสซี่ ซึ่งลงสนามนัดที่ 1,000 ในอาชีพค้าแข้ง ก็จัดการซัลโวตุงแรกให้กับทัพ ฟ้า-ขาว ซึ่งประตูนี้มันมีความหมายมากเหลือเกิน ทั้งกับ อาร์เจนติน่า และ ตัวของเขาเอง เพราะมันเป็นลูกแรกของ เมสซี่ ในการแข่งขัน ฟุตบอลโลก รอบน็อคเอาท์ หลังลงเล่นมาทั้งหมด 9 เกม

นอกจากนี้ ยังเป็นประตูที่ 9 บนเวที เวิลด์ คัพ ของเจ้าตัว แซงหน้าตำนาน อาร์เจนติน่า อย่าง ดีเอโก้ มาราโดน่า เรียบร้อย เหลืออีกเพียงแค่ลูกเดียวจะทาบสถิติ กาเบรียล บาติสตูต้า อดีตกองหน้าตีนคม ที่จารึกสถิติเป็นแข้ง ฟ้า-ขาว ยิงเยอะสุดในศึก ฟุตบอลโลก มารอดูกันว่า รอบต่อไป เมสซี่ จะขึ้นไปเทียบเท่า และ ทำลายได้หรือไม่

เท่านั้นยังไม่พอครับ หลังจบเกม ลิโอเนล เมสซี่ คว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ไปครองตามคาด แต่เขาได้สร้างประวัติศาสตร์ ที่สามารถซิว แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ได้มากที่สุดในศึก ฟุตบอลโลก เหนือกว่าทุกคนทั้งปัจจุบัน และ อดีต มากถึง 8 ครั้ง

- ออสเตรเลีย สู้เต็มที่ แม้ตกรอบ

ตั้งแต่แพ้ ฝรั่งเศส ไป 1-4 ก็ไม่คิดว่า ออสเตรเลีย จะผ่านเข้ามาถึงรอบน็อคเอาท์ได้เหมือนกัน แต่พวกเขาโชว์ฟอร์มได้ยอดเยี่ยมเหลือเกิน โดยเฉพาะการเฉือนเอาชนะ เดนมาร์ก มาได้ 1-0  เป็นหนึ่งใน 3 ทีมจากโควต้าทวีปเอเชีย ที่ทะลุสู่รอบน็อคเอาท์

การผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ฟุตบอลโลก 2022 ทำให้พวกเขาผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งปีนั้นขุนพล จิงโจ้ แพ้ให้กับ ทีมชาติอิตาลี 0-1  และ กลายเป็น อิตาลี คว้าแชมป์โลก แต่ก็เชื่อการต้องมาเจอกับ อาร์เจนติน่า พวกเขาไม่ได้เกรงกลัวแม้แต่นิดเดียว

ถึงแม้ว่าสุดท้ายแล้ว ออสเตรเลีย จะต้องกระเด็นตกรอบ แต่พวกเขาก็ไม่ได้โดนกดตลอดทั้งเกม ต่อให้จะเป็นรองแบบสุดกู่ แต่ก็สู้ ฟ้า-ขาว ได้อย่างเต็มที่ เพราขนาดตามหลัง 2 ลูก ก็ยังอุตส่าห์ตามตีไข่แตกไล่มาได้ 2-1 จาก เคร็ก กู๊ดวิน จากนั้นเกมเปิดทันที ซึ่ง ออสเตรเลีย ก็เกือบโดน 3-1 แต่ก็มีช็อตที่เกือบตีเสมอ สร้างเรื่องช็อคไปทั่วโลกในช่วงนาทีสุดท้าย เพียงแค่โดน เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ เซฟไว้ได้ ดังนั้นการตกรอบของขุนพล จิงโจ้ ต้องขอนับถือหัวใจนักสู้จริงๆ

- กำเนิดดาวยิงคนใหม่ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ

ปกติแล้ว ตำแหน่งหัวหอกตัวจริงของ อาร์เจนติน่า จะต้องเป็น เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ดาวยิงค่าย อินเตอร์ มิลาน แต่เหมือนว่า 2 เกมแรกในรอบแบ่งกลุ่ม ที่แพ้ ซาอุดิอาระเบีย 0-1 และ ชนะ เม็กซิโก 2-0 เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ไม่ได้มีส่วนร่วมกับทีมมากนัก ขาดความเฉียบคม ไม่สามารถซัลโวให้กับ ฟ้า-ขาว ได้เลย

ทำให้นัดชิงตั๋วเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่เจอกับ โปแลนด์ นั้น ลิโอเนล สกาโลนี่ กุนซือ ฟ้า-ขาว ตัดสินใจดรอป เลาตาโร่ มาร์ติเนซ และ เลือกส่ง ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ลงเล่นเป็นตัวจริง ซึ่ง อัลวาเรซ ก็ตอบแทนความไว้วางใจ ด้วยการยิงประตูปิดกล่องเอาชนะ โปแลนด์ ไปได้ 2-0

ด้วยผลงานที่เข้าตา ทำให้ อัลวาเรซ ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงอีกครั้งเกมเจอ ออสเตรเลีย และ เขาก็เป็นคนซัลโวให้ อาร์เจนติน่า ขึ้นนำ 2-0 จากความผิดพลาดของ แมทธิว ไรอัน ผู้รักษาประตู จิงโจ้ เท่ากับว่า อัลวาเรซ ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง 2 นัด ยิงได้ 2 ประตู เชื่อว่ารอบต่อไปที่จะเจอกับ เนเธอร์แลนด์ .. ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ จะได้เป็น 11 ตัวจริงเหมือนเดิม ส่วน เลาตาโร่ ที่ยังปืนฝืด มีโอกาสจ่อๆก็ยังพลาด คงต้องนั่งสำรองต่อไป

- สถิติ เมสซี่ ก่อนเจอ เนเธอร์แลนด์

ผลงานบนเวที เวิลด์ คัพ ของ เมสซี่ ไม่ใช่แค่การทำประตูที่มันโดดเด่นเท่านั้น เพราะมันมีสถิติที่ คิง เลโอ สามารถขู่คู่แข่งรอบ 8 ทีมสุดท้ายอย่าง เนเธอร์แลนด์ ได้เลย เพราะเจอกันมาในศึก ฟุตบอลโลก 2 ครั้ง เขาไม่เคยพ่ายแพ้ 

แมตช์แรก ปี 2006 เจอกับรอบแบ่งกลุ่ม เสมอกันไป 0-0
แมตช์สอง ปี 2014 เจอกันรอบรองชนะเลิศ เสมอกัน 0-0 เหมือนเดิม แต่ อาร์เจนติน่า ดวลจุดโทษเอาชนะไป 4-2

นอกจากนี้ สถิติการลงสนามนัดที่ 1,000 ตลอดอาชีพค้าแข้ง ของ เมสซี่ เขาสามารถซัลโวใส่คู่แข่งไปถึง 789 ประตู พร้อมกับทำแอสซิสต์ให้กับเพื่อนได้อีก 338 ครั้ง เป็นผลงานที่เหนือมนุษย์จริงๆ ดังนั้นอีกแค่ไม่กี่ก้าว อาร์เจนติน่า จะไปถึงฝั่งฝัน ซึ่ง เมสซี่ จะเป็นบุคคลสำคัญ ที่ทำให้ความฝันเหล่านั้นเกิดขึ้นจริง

ฮาย ฮาวดี้