แรมส์เดล จาก "ดินสู่ดาว" แห่งค่าย ไอ้ปืนใหญ่

ซึ่งสถานการณ์เหล่านั้น อาร่อน แรมส์เดล เคยผ่านมันมาก่อน เมื่อครั้งที่ มิเกล อาร์เตต้า ตัดสินใจทุ่มเงิน 30 ล้านปอนด์ เพื่อซื้อตัวมาจาก เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมตกชั้นเมื่อปี 2021

วันเวลาผ่านไปแค่เกือบๆ 2 ปี สถานะของ แรมส์เดล ก็เปลี่ยนไป จากนายทวารที่เป็นดินเปลื้อนโคลน กลายเป็นดาวประดับฟ้า ที่กำลังมีส่วนช่วยให้ อาร์เซน่อล ไล่ตามความฝันคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ดังนั้น ขอบสนาม อินไซด์ วันนี้ ผมจะพูดถึง แรมส์เดล ที่กว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิด

- ตัวกาลกิณี อยู่ทีมไหน ทีมนั้นตกชั้น

การย้ายมาอยู่ อาร์เซน่อล ของ แรมส์เดล สร้างความมึนงงให้กับสาวก เดอะ กันเนอร์ส มากเหลือเกินครับ เพราะในช่วงที่ทีมกำลังวิกฤติ ต้องการนักเตะฝีเท้าดี เข้ามากอบกู้สโมสร ให้กลับไปอยู่ในที่ที่ควรอยู่อีกครั้ง แต่กระนั้น อาร์เตต้า กลับไปเลือกซื้อ แรมส์เดล มาด้วยราคา 30 ล้านปอนด์ พร้อมกับสถานะที่น่าจะเป็นมือ 2 ของ แบรนด์ เลโน่ ด้วยซ้ำ

ดีลนี้ แทบไม่มีแฟนบอล อาร์เซน่อล เห็นชอบ พร้อมตั้งคำถามว่า "ซื้อมาเพื่ออะไร" อีกทั้งไปดึงตัวมาจาก เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ที่เพิ่งหล่นตุ้บลงไปเล่นในศึก เดอะ แชมเปี้ยนชิพ โดย แรมส์เดล ถูกด่าว่าเป็นตัวกาลกิณี อยู่ทีมไหน ทีมนั้นตกชั้น ซึ่งก่อนจะเป็น เชฟฟิลด์ ก็เคยตกชั้นกับ บอร์นมัธ มาแล้ว

จำได้เลยว่า วันที่ แรมส์เดล กำลังจะย้ายมาอยู่กับ อาร์เซน่อล ไอจีของเขา ต้องลุกเป็นไฟ เพราะโดนทัวร์ลงจากแฟนบอลอย่างหนัก โดยเฉพาะคำพูดที่ว่า "ไสหัวเอ็งออกไปซะ ที่นี่ไม่มีใครต้อนรับแกหรอก" มีบางคอมเมนท์เล่นไปถึงบุพการี เลยด้วยซ้ำ

แรมส์เดล ทำอะไรไม่ได้ นอกจากปิดคอมเมนท์ .. เขาโดนด่าเสียๆหายๆ ถูกตัดสินว่า "ไม่ดี" ทั้งๆที่ยังไม่ได้ลงสนามเลยสักนัดเดียว

- จากคนที่ถูกเกลียดชัง
กลายเป็นที่รักของแฟนบอล อาร์เซน่อล

ก่อนหน้านี้ มิเกล อาร์เตต้า พยายามหาเหตุผล และ ออกมาปกป้อง ถึงการทุ่มเงินเพื่อคว้าตัว แรมส์เดล มาร่วมทีม แต่ไม่ว่าเขาจะใช้คำพูดแบบนั้น ก็ไม่สามารถโน้มน้าวใจได้เลย จนกระทั่ง ไอ้ปืนใหญ่ ออกสตาร์ทซีซั่น ด้วยการแพ้ 3 นัดรวด ทั้งแพ้ เบรนท์ฟอร์ด 0-2, แพ้ เชลซี 0-2 และ โดน แมนฯ ซิตี้ ไล่ยำ 5-0 ซึ่งคนที่เฝ้าเสาวันนั้นเป็น เลโน่ และนั่นคือจุดเริ่มต้นให้ แรมส์เดล ได้ลงเล่นกับ อาร์เซน่อล เรื่อยมา

3 นัดแรกกับ อาร์เซน่อล .. แรมส์เดล สามารถเก็บคลีนชีตได้ทั้งหมด เขาทำให้แผงหลังของ อาร์เซน่อล รู้สึกอุ่นใจทุกครั้ง ที่มีเขาลงเฝ้าเสา จากคนที่โดนด่าเสียๆหายๆ กลายมาเป็นที่รักของเหล่า เดอะ กันเนอร์ส ในเวลาเพียงแค่ไม่ถึง 1 เดือน

เขาเป็นผู้รักษาประตูสมัยใหม่ ที่ออกบอลกับเท้าได้ดีมาก และ มักมีช็อตเซฟมหัศจรรย์ให้เห็นเป็นประจำ ลูกไหนที่คิดว่าต้องเข้าแน่ๆ เขากลับสามารถป้องกันเอาไว้หลายต่อหลายครั้ง .. จากค่าตัว 30 ล้านปอนด์ ที่แฟนบอลตั้งคำถาม กลายมาเป็นคุ้มค่าทันที กับผลงานที่ แรมส์เดล แสดงออกมากับ "ไอ้ปืนใหญ่"

57 นัด 24 คลีนชีต คือความยอดเยี่ยมของ แรมส์เดล

 .. คนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น ตัวกาลกิณี กลายเป็นบุคคลสำคัญที่ทำให้ อาร์เซน่อล ขึ้นนำเป็นจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมทิ้งห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 2 ถึง 8 คะแนน โดยเกม นอร์ธ ลอนดอน ดาร์บี้ ที่บุกไปเอาชนะ สเปอร์ส 2-0 ได้ถึงถิ่น ซึ่ง แรมส์เดล สร้างผลงาน ด้วยการโชว์เซฟสำคัญช่วยทีมได้มากถึง 7 ครั้ง พร้อมเป็นนายทวารคนแรกที่เก็บคลีนชีต ในถิ่น ไก่เดือยทอง เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2014

ซึ่งมีสถิติว่า สเปอร์ส ควรจะต้องยิงประตูได้ในเกมนั้น อยู่ที่ 2.41 ลูก แต่เป็น แรมส์เดล ปัดป้องเอาไว้ได้หมดเลย 

ถึงตรงนี้ ไม่มีใครสงสัยในฝีมือของ แรมส์เดล อีกแล้ว เขาครองตำแหน่งมือ 1 ของทีม ไม่ใช่ในฐานะเด็กเส้น มิเกล อาร์เตต้า แต่เป็นฝีมือตัวเองล้วนๆ ยิ่งถ้ามีแชมป์ พรีเมียร์ลีก ก็ยิ่งทำให้โปรไฟล์ของเขายิ่งใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม ส่วนกับทีมชาติอังกฤษ ก็อยู่ที่ แกเร็ธ เซาธ์เกต แล้วล่ะว่า เขาจะมีโอกาสได้ลงเล่นเป็นตัวจริงมากน้อยแค่ไหน

เอาจริงๆ ตัวผมเอง ก็เคยมองว่า แรมส์เดล คงไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้ ตอนย้ายมาอยู่กับ อาร์เซน่อล แรกๆ แต่นั่นแหละครับ บางช่วง บางเวลาของชีวิต ถ้าคุณอยู่ถูกที่ ถูกเวลา ทุกอย่างมันจะเพอร์เฟ็คต์ในตัวของมันเอง

ฮาย ฮาวดี้