แต่คุณอย่าลืมว่า นี่คือชายอายุ 38 ปี ซึ่งปกติแล้วเป็นวัยนี้ ถ้ายังไม่แขวนสตั๊ดไปเลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน ก็อาจเป็นไม้ใกล้ฝั่งที่รอวันปลดเกษียณ ดังนั้นต่อให้เป็นลีกที่ไม่ได้แข็งแกร่ง เหมือน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป แต่การระเบิดฟอร์มขนาดนี้ นับว่าเป็นเรื่องไม่ธรรมดา อิทธิพลของเขา ทำให้ทั่วโลกต้องติดตาม
ขนาด ซาอุดิ โปร ลีก ไม่เคยมีถ่ายทอดสดมาก่อน แต่เพียงแค่ ซีอาร์ 7 ย้ายไปเหยียบแผ่นดิน สปอร์ตไลท์ก็สาดส่องหาเขาทันที ซึ่ง พี่โด้ ก็ไม่ทำให้ผิดหวัง โชว์ผลงาน กลบข่าวฉาว ก่อนที่เขาจะย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ นี่คือสถิติที่ต้องพูดถึง หลังเขามาค้าแข้งให้กับ อัล นาสเซอร์ เพียงแค่ 2 เดือน เท่านั้น
- ทำสถิติแฮตทริคเร็วสุดในประวัติศาสตร์ของลีก
ด้วยฝีเท้าของ โรนัลโด้ ยังคงโดดเด่นเหนือใครๆ ดังนั้นเขาไม่จำเป็นต้องใช้เวลามากมาย เพื่อปรับตัวเข้ากับทีม หรือ ให้เข้ากับลีกซาอุ เขาใช้เวลาเพียงแค่ 2 นัด ก็สามารถเปิดซิงตุงแรกให้กับ อัล นาสเซอร์ ได้แล้ว ซึ่งถ้าเป็นคนอื่น ก็อาจจะไม่แปลกก็ได้ครับ ยิ่งเป็นคนที่ค้าแข้งลีกใหญ่ยุโรป มาทั้งชีวิต
แต่กับ โรนัลโด้ มันทวีคูณมากกว่านั้น เพราะ 5 นัดในเกมลีก เขาระเบิดฟอร์มกดไป 8 ประตู โดยเป็นการซัดแฮตทริคได้ถึง 2 ครั้ง ซึ่งเป็นการทำแฮตทริกได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ลูกหนังลีกเศรษฐีน้ำมัน ยังคงเจ้าของฉายา "เครื่องจักรถล่มประตู"
ซึ่งแฮตทริคที่ พี่โด้ ทำได้นั้น คือนัดถล่ม ดามัค เอฟซี 3-0 โดยใช้เวลาเพียงแค่ 26 นาที นับจากประตูแรก ส่วนอีกนัดคือเหมาคนเดียว 4 ตุง เกมถล่ม อัล เวห์ดา 4-0 พร้อมกับทำประตูในระดับสโมสรเกิน 500 ประตู นับเฉพาะเกมลีกอาชีพ เรียบร้อยแล้ว
ปัจจุบัน โรนัลโด้ รั้งอยู่อันดับ 4 ของชาร์ตดาวซัลโว ตามหลัง ทาลิสก้า เพื่อนร่วมทีม อยู่เพียงแค่ 4 ลูก เท่านั้น เชื่อว่าสถิติการยิงประตูของ ซีอาร์ 7 จะไม่หยุดแค่นี้อย่างแน่นอน
- โอกาสพา อัล นาสเซอร์ คว้าแชมป์
โรนัลโด้ เพิ่งเสียสถิติไม่มีถ้วยแชมป์ติดมือเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปี ครั้งอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อซีซั่นก่อน พร้อมกับปัญหาแตกคอ ทำให้เขาต้องเก็บข้าวของออกจากถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก่อนจะเลือกปลายทางมาที่ อัล นาสเซอร์
ซึ่งวันที่ โรนัลโด้ ย้ายมานั้น อัล นาสเซอร์ รั้งเป็นจ่าฝูงของตาราง ปัจจุบันสถานะดังกล่าวก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดย 5 นัดที่ ดาวยิงทีมชาติโปรตุเกส ลงสนาม มีส่วนสำคัญช่วยพาทีมเก็บชัยชนะได้ 4 นัด และ หลุดเสมอ 1 นัด ด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม อัล นาสเซอร์ ยังไม่ได้การันตีคว้าแชมป์ลีกแบบ แบเบอร์ เพราะอันดับ 2 ที่ไล่หลังมาแค่ 2 แต้ม ก็คือ อัล อิตติฮัด และ ยังมี อัล ชาบับ อันดับ 3 ที่ตามมา 3 คะแนน โดยการแข่งขันยังเหลืออีก 12 นัด ต้องลุ้นว่าใครจะคว้าแชมป์ไปครอง แต่ต้องบอกว่า อัล นาสเซอร์ ภาษีดีสุด เพราะได้อาวุธหนักอย่าง พี่โด้ เข้ามา
.
แน่นอนว่าการที่ โรนัลโด้ ย้ายเข้ามา อัล นาสเซอร์ อาจทำให้สไตล์การเล่น หรือ บทบาทของพวกตำแหน่งแนวรุก มีปรับเปลี่ยนไปบ้าง แต่การผสมผสานมันเริ่มลงตัว เพราะไม่ใช่แค่ พี่โด้ จะบ้าทำประตูอย่างเดียว แต่เขาก็มีแอสซิสต์ให้เพื่อนซัลโวอยู่บ่อยๆ
หลายคนอาจจะมองว่าเป็นลีกบอท แต่ต้องไม่ลืมว่า ซาอุดิอาระเบีย คือลีกเบอร์ต้นๆของเอเชีย ไม่แพ้ทางฝั่ง เจ ลีก ญี่ปุ่น โดย 5 ปีหลังสุด ทีมจากลีกเศรษฐีแดนน้ำมัน ผ่านเข้าชิงชนะเลิศ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ถึง 3 หน และ เป็นแชมป์ถึง 2 ครั้ง นั่นนับว่าแข็งแกร่งพอสมควรเลยทีเดียว
การฉายแสงของ โรนัลโด้ มันทำให้เห็นว่าฝีเท้าของเขายังคงยอดเยี่ยมไม่เปลี่ยนแปลง ไม่ใช่ว่ากองหลังคู่แข่ง จะปล่อยโล่งให้ พี่โด้ เข้าไปยิงประตูง่ายๆ .. แต่การประสานงานกับเพื่อนๆ การวิ่งหาช่อง เขาเองยังทำได้ยอดเยี่ยม บางทีด้วยอายุอานามที่มากขึ้น การได้มาค้าแข้งที่ความเข้มข้นไม่เท่า พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็เป็นข้อดีเหมือนกัน
เพราะมันทำให้เห็นว่า พี่โด้ ยังคงไม่หมดไฟ ไม่แน่ว่าในอนาคตเขาอาจจะกลับไปโชว์ฟอร์มในเวทียุโรป ให้แฟนบอลได้เห็นเป็นขวัญตาอีกครั้ง ก็เป็นได้
เหมือนอย่างที่ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช ไปโชว์ฟอร์มเทพกับ แอลเอ แกแล็คซี่ ในศึก เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ สหรัฐอเมริกา ก่อนจะได้กลับมาอยู่กับ เอซี มิลาน อีกครั้ง ดังนั้นกับ โรนัลโด้ ที่ยังคงระเบิดฟอร์ม ก็มีโอกาสเช่นกัน
เพียงแค่ว่าเรื่องค่าเหนื่อยอาจเป็นอุปสรรคของหลายๆทีมในยุโรป ซึ่งเรื่องนั้นมันเป็นเรื่องของอนาคต ตอนนี้ โรนัลโด้ คงโฟกัสอยู่แค่กับ อัล นาสเซอร์ เท่านั้น เขาพร้อมเดินหน้าสร้างสถิติเรื่อยๆ และ คว้าแชมป์ให้ได้มากที่สุด ทั้งเกมลีก หรือ บอลถ้วยใหญ่ของเอเชีย ในซีซั่นต่อไป
เวลาต่อจากนี้เราควรซึมซับ และ เก็บรักษาผลงานของ โรนัลโด้ เอาไว้ให้นานที่สุด เท่าที่จะทำได้
ฮาย ฮาวดี้
