สดุดีแด่ โอซิล "ตัวเดียวเคยเสียวทั้งลีก"

เด็กรุ่นใหม่ อาจจะจำภาพ โอซิล ในแบบฉบับที่ไม่ค่อยดีนัก ทั้งโดนจับดองสมัยช่วงท้ายกับ อาร์เซน่อล, เป็นแพะรับบาปทำให้ทีมชาติเยอมัน ตกรอบ ฟุตบอลโลก 2018 หรือ แม้กระทั่งสไตล์การเล่นที่ดูจะขี้เกียจ ไม่ค่อยวิ่งช่วยเพื่อนร่วมทีมมากนัก

แต่กระนั้นในช่วงเวลาหนึ่ง โอซิล ได้สร้างผลงานบันลือโลกไว้มากมาย ครั้งหนึ่งเขาทำให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ต้องหัวเสียกับ เรอัล มาดริด มาแล้ว รวมถึงทำให้ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ต้องสั่นสะเทือนด้วยคำว่า "ตัวเดียว เสียวทั้งลีก" ดังนั้น เพื่อเป็นการยกย่อง โอซิล จะพาไปย้อนดู จิตรกรรมบนผืนฟลอร์หญ้า ที่เขาเคยรังสรรค์เอาไว้ให้ตราตรึง

เกมออนไลน์ฟรี ในโลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามาครอบงำทุกแง่มุมของชีวิตของเรารวมถึง วิธีที่เราสร้างความบันเทิงให้ตัวเองด้วยหนึ่งในรูปแบบความบันเทิงเว็บเกม y8 ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการเล่น เกมออนไลน์ ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้เกมออนไลน์เข้าถึงและสะดวกยิ่งขึ้นสำหรับคนทุกวัยเมื่อเราก้าวเข้าสู่ปี2024 เกมy8 เห็นได้ชัดว่าความต้องการเกมออนไลน์ฟรีจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและครองอุตสาหกรรมเกมในบทความนี้เราจะมาสำรวจบทความที่ดีที่สุดบางส่วนเกี่ยวกับการเล่นเกมออนไลน์ฟรีในปี2024

- แจ้งเกิดจากเวที ฟุตบอลโลก

การคว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก 2014 ของ ทีมชาติเยอรมัน ไม่ใช่เพราะความฟลุ๊ค แต่มันเป็นรากฐานที่วงการลูกหนังเมืองเบียร์ ปูกันมาตั้งแต่เยาวชน และ เวิลด์ คัพ 2010 ถือเป็นจุดกำเนิดของ ดาวรุ่งนรกแตกหลายคน อาทิ โธมัส มุลเลอร์, ซามี่ เคดิร่า แน่นอนต้องมีชื่อ เมซุต โอซิล

เยอรมัน ชุดนั้น สร้างผลงานกระหึ่มโลก ด้วยการคว่ำ อังกฤษ ยุค โกลเด้น เจเนเรชั่น ไปด้วยสกอร์ 4-1 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย และ ไล่ถล่ม อาร์เจนติน่า แบบขาดลาย 4-0 ต่อให้ อินทรีเหล็ก จะไปไม่ถึงฝั่งฝัน จบเพียงแค่อันดับ 3 แต่กระนั้นผลงานส่วนตัว มันเป็นที่โจษจันเหลือเกิน

โดยเฉพาะ เมซุต โอซิล ทัวร์นาเมนต์นั้น เขาสร้างสรรค์ผลงานด้วยการทำ 1 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ ทั้งลูกยิงประตูชัยที่พา อินทรีเหล็ก เฉือนเอาชนะ กาน่า 1-0 พร้อมผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ ยังคงตราตรึงใจ ซัดไกลจากนอกกรอบเขตโทษ บอลส่ายแหวกทะลุอากาศเข้าไป รวมถึงจ่ายให้เพื่อนทำประตูนัดถล่ม อังกฤษ และ อาร์เจนติน่า

ถึงขั้นที่ โอซิล มีชื่อติดท็อปเทน ลุ้นรางวัล โกลเด้น บอล ของศึก ฟุตบอลโลก 2010 เลยทีเดียว

- ไปโด่งดังเป็นพลุแตกกับ เรอัล มาดริด

หลังจบทัวร์นาเมนต์ ฟุตบอลโลก 2010 จากเด็กหนุ่มวัย 22 ปี แห่งค่าย แวร์เดอร์ เบรเมน ที่ชื่อเสียงไม่ได้กระฉ่อนมากนักในบ้านเรา กลายเป็นสตาร์ดังชั่วข้ามคืน มีทีมยักษ์ใหญ่ให้ความสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น บาร์เซโลน่า, อาร์เซน่อล หรือ แมนเชสเตอร์ ยุไนเต็ด ขนาด เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังรีเควสอยากได้มาร่วมทีม

อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแล้ว โอซิล ได้ย้ายไปลงเอยกับ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวที่ถูกจนไม่อยากเชื่อสายตา แค่ 15 ล้านยูโร เท่านั้น

เพราะผลงานของ โอซิล ในสีเสื้อ ราชันชุดขาว มันคุ้มเกินกว่าคุ้ม เขาไม่ได้ย้ายมาเพื่อเป็นนักเตะประดับทีม แต่เป็นสตาร์ที่ได้เล่นร่วมกับพวก คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ริคาร์โด้ กาก้า, เซร์คิโอ รามอส และ อีเกร์ กาซียาส เป็นต้น

เดิมที โอซิล ถูกซื้อมาเพื่อเป็นแบ็คอัพของ กาก้า แต่ด้วยฝีเท้าร้อนแรงเกินห้ามใจ เขากลับยึดตัวจริงอย่างรวดเร็ว และ กลายมาเป็นจอมทัพเพลย์เมกเกอร์ของ ราชันชุดขาว ในเวลาต่อมา

ด้วยการสวมหมายเลข 10 !!

ตลอดระยะเวลา 3 ซีซั่นกับ เรอัล มาดริด เขาลงสนามไป 159 เกม / ซัดไป 27 ประตู / พร้อมทำอีก 80 แอสซิสต์

ซีซั่นแรก : โอซิล ทำไป 25 แอสซิสต์ เป็นสถิติสูงที่สุดใน 5 ลีกใหญ่ของยุโรป เขาได้รับคำยกย่องอย่างมาก ทั้งจากแฟนบอล และ สื่อมวลชน

ซีซั่นสอง : โอซิล ได้รับเสื้อหมายเลข 10 พร้อมกับมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการทวงบัลลังค์คว้าแชมป์ ลา ลีกา สเปน พร้อมกับจบเป็นอันดับ 1 ร่วม ในชาร์ตแอสซิสต์ ที่ 19 ครั้ง เทียบเท่ากับ ลิโอเนล เมสซี่

ซีซั่นสาม : โอซิล ยังคงทำหน้าที่แอสซิสต์เป็นกอบเป็นกำให้กับ มาดริด ต่อให้จบซีซั่นนี้จะไม่สามารถป้องกันแชมป์ไว้ได้ แต่ทำไป 15 แอสซิสต์ ในลีก และ หากรวมทุกรายการ เขาจ่ายให้เพื่อนซัลโวมากถึง 29 ครั้ง เรียกว่าเป็นส่วนสำคัญของทีมจริงๆ 

อย่างไรก็ตาม หลังจาก โชเซ่ มูรินโญ่ ต้องอำลากุนซือ มาดริด เปลี่ยนมาเป็น คาร์โล อันเชล็อตติ ในซีซั่น 2013-14 อนาคตของ โอซิล ก็ไม่ได้สดใสอีกต่อไป เพราะตอนนั้น นำเข้าแนวรุกอย่าง แกเร็ธ เบล เข้ามา ไหนจะมี อิสโก้ ที่เป็นดาวรุ่งกำลังพุ่งแรงเหลือเกิน

ก่อนจะเกิดเรื่องเซอร์ไพรส์ เมื่อ มาดริด ตัดสินใจขาย โอซิล ไปให้กับ อาร์เซน่อล ด้วยค่าตัว 42.5 ล้านปอนด์ ก่อนปิดตลาดวันสุดท้ายพอดิบพอดี ต่อให้ก่อนหน้านี้จะเป็นจอมทัพคนสำคัญของ ราชันชุดขาว ก็ตาม

ถึงขั้นมีรายงานว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง เรอัล มาดริด อย่างมาก กับการปล่อยตัว โอซิล ไปอยู่กับ อาร์เซน่อล เพราะนี่คือนักเตะที่รู้ใจเขาอย่างยิ่ง โดยมีสถิติว่า

โอซิล คือเพื่อนร่วมทีม "ราชันชุดขาว" ที่แอสซิสต์ให้กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ มากที่สุด มันมีสถิติว่า 50 % ที่ ซีอาร์ 7 ส่งบอลเข้าไปซุกตาข่ายคู่แข่ง มาจากการทำเกม และ ลูกจ่าย คิลเลอร์พาส ของ โอซิล 

ดังนั้น เมื่อ โอซิล ย้ายไป คู่ขา โรนัลโด้ ก็ขาดหาย เพราะเพลย์เมกเกอร์รายนี้ มีสถิติสร้างสรรค์เกมให้เพื่อนยิงประตูถึง 324 ครั้ง ตลอด 3 ซีซั่นเต็มกับ เรอัล มาดริด 
แต่วันเวลาก็พาให้ทุกคน "มูฟออน" มาดริด มีสตาร์ดังเข้ามาใหม่เพียบ ขณะที่ โอซิล ไปสร้างผลงานกระหึ่มโลกกับ "ไอ้ปืนใหญ่"

- ตัวเดียวเสียวทั้งลีก

เพียงแค่ โอซิล ย้ายมาอยู่กับ อาร์เซน่อล .. นัดแรกที่เขาลงสนามก็ทำแอสซิสต์ได้ทันที เป็นการตอกย้ำประเด็นที่แฟนบอลโจมตี ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร เรอัล มาดริด ซึ่งถูกรุมด่าว่าขายนักเตะ "เพชรเม็ดงาม" ไปได้อย่างไร ?

นอกจากการเป็น "เซอร์ไพรส์ ดีล" แล้ว ยังมีประเด็นตามต่อกับการเสียหน้าของ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร เรอัล มาดริด ที่ถูกรุมประณามว่าขายนักเตะ "โคตรดี" ของทีมออกไปได้อย่างไร

การมาของ โอซิล มันทำให้เกิดปรากฎการณ์ วลีที่ว่า "ตัวเดียวเสียวทั้งลีก" .. เพราะแค่คนเดียว กลับมายกระดับทีม อาร์เซน่อล ได้อย่างเหลือเชื่อ จากทีมที่ไม่ค่อยมีลุ้นแชมป์ กลายมาเป็นทีมลุ้นแชมป์

5 ประตู 9 แอสซิสต์ พร้อมเป็นคีย์แมนทำให้ อาร์เซน่อล กลับมาคว้าแชมป์ครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2005 นับเป็นผลงานที่พูดให้ดูแบบผิวเผิน แต่แอสซิสต์แต่ละลูกที่เขาทำได้นั้น มันน่าอัศจรรย์ใจมากจริงๆ

ถึงแม้ว่า โอซิล จะไม่ได้สามารถพา อาร์เซน่อล กลับมาทวงบัลลังค์ พรีเมียร์ลีก แต่เขาได้ชื่อว่าเป็น "เจ้าพ่อ เอฟเอ คัพ" เนื่องจากเป็นแชมป์รายการนี้ถึง 4 สมัย พร้อมกับเคยคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี ไอ้ปืนใหญ่ เมื่อซีซั่น 2015-16

ต่อให้ โอซิล จะอำลา อาร์เซน่อล แบบไม่สวยนัก ไม่เหมาะสมกับคำว่า ตำนานของสโมสร อาจด้วยปัญหาเรื่องส่วนตัว หรือ ทัศนคติอะไรก็ตามแต่ ถึงกระนั้นมันไม่สามารถลบล้างประวัติศาสตร์ที่เขาสร้างขึ้นได้เลย

โอซิล จะถูกจดจำ เพลย์เมกเกอร์จอมคลาสสิคคนหนึ่ง แห่งประวัติศาสตร์ลูกหนัง คนที่เทคนิคไม่ต้องแพรวพราว ลากเลื้อยกินตัว 2-3 คน แต่สายตาอันแหลมคม และ วิสัยทัศน์ในการจ่ายบอล เขาเหนือมนุษย์ธรรมดาไปหลายขั้น

เจ้าของสถิติทำแอสซิสต์ มากที่สุดในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นอันดับ 3 ตลอดกาล นับ 1 ซีซั่น โดยทำไป 19 ครั้ง เป็นรองแค่ เธียร์รี่ อองรี กับ เควิน เดอ บรอยน์ เท่านั้น

เจ้าของสถิติทำแอสซิสต์มากที่สุด ในศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน และ ฟุตบอลโลก เมื่อปี 2010

และ ครั้งหนึ่ง โอซิล เคยเป็นเจ้าของสถิติแอสซิสต์มากที่สุด บนเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่จำนวน 7 ครั้ง

ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะคงอยู่ตลอดไป

แต่ด้วยเพราะฟุตบอลสมัยใหม่ ตัวรุกจะมาเดินเล่นไม่ได้แล้ว ต้องช่วยกันรุก ช่วยกันรับ ทำให้ เมซุต โอซิล ค่อยๆหายไปจากวงการ และ ตัดสินใจแขวนสตั๊ดในที่สุด นับเป็นการปิดตำนาน หนึ่งในราชาแอสซิสต์เบอร์ต้นๆของโลก 

787 เกม
137 ประตู
260 แอสซิสต์ 
และ 11 แชมป์

แด่นักเตะที่พร้อมจะแอสซิสต์ให้คุณอยู่เสมอ ไม่ว่าจะในหรือนอกสนาม "เมซุต โอซิล"

ฮาย ฮาวดี้