โดยปกติแล้วการลุ้นแชมป์ "ลีก เอิง" แทบจะไม่ใช่อุปสรรคอะไรของสโมสรเบอร์ 1 อย่าง "ปารีส แซงต์-แชร์กแมง" อยู่แล้ว เรียกได้ว่าแต่ละปีนั้นแทบจะนอนมาเลยก็ว่าได้ เพราะเรื่องชื่อชั้นและศักยภาพจัดว่าเหนือกว่าทุกทีมใน ฝรั่งเศส
แต่ถ้าดูจากสถานการณ์ตอนนี้ต้องยอมรับเลยว่ามันไม่เป็นแบบนั้นอีกต่อไป ถึงแม้ "เปแอสเช" จะมีผู้เล่นอย่าง ลิโอเนล เมสซี่, คิเลียน เอ็มบัปเป้ และ เนย์มาร์ รวมไปถึงซูเปอร์สตาร์อีกมากอยู่เต็มทีมก็ตาม
ปารีส ยังคงเป็นจ่าฝูงก็จริงแต่ก็โดนทีมคู่อริอย่าง โอลิมปิก มาร์กเซย ทำแต้มไล่จี้เข้ามาเรื่อยๆ รวมไปถึงทีมม้านอกสายตาอย่าง "ล็องส์" ที่มีสิทธิ์ยัดเยียดความผิดหวังให้พวกเขาและสร้างเรื่องสุดเซอร์ไพรส์ให้กับวงการลูกหนังฝรั่งเศสในปีนี้ก็เป็นได้
ถ้าพูดถึงเหล่าบรรดาสโมสรชั้นนำของ ฝรั่งเศส คุณอาจจะนึกถึง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, โอลิมปิก มาร์กเซย, โอลิมปิก ลียง, โมนาโก, ลีลล์, แรนส์ หรือไม่ก็ นีซ ใช่ไหม ? แต่นับจากนี้มันอาจจะมีชื่อของ ล็องส์ ปรากฏขึ้นมาอีก 1 ทีมก็เป็นได้
ย้อนกลับไปบนหน้าประวัติศาสตร์เก่าๆ ของสโมสร พวกเขาเคยเถลิงบัลลังก์แชมป์ ลีก เอิง ครั้งแรกและครั้งเดียวเมื่อฤดูกาล 1997-98 และก็เคยเป็นรองแชมป์อยู่ 4 สมัยซึ่งได้แก่ปี 1956, 1957, 1977 และ 2002 แต่หลังจากนั้นเส้นทางของพวกเขาก็ไม่ได้ใกล้เคียงกับการลุ้นแชมป์อีกเลย
ผลงานส่วนใหญ่ของ ล็องส์ บนเวที ลีก เอิง นับตั้งแต่นั้นก็คือการจบอันดับ 7 หรือไม่ก็ 8 จะแค่มีฤดูกาล 2005-06 ที่ดูจะทำอันดับได้สูงที่สุดด้วยการจบอันดับ 4 ก่อนจะถึงคราวต้องตกชั้นไปในปี 2008 และจากนั้นก็วนลูปขึ้นๆ ลงๆ ระหว่างลีกดิวิชั่น 1 และ 2 อยู่บ่อยๆ
ล็องส์ เลื่อนชั้นกลับมาในปี 2009 แต่ก็ไม่ใช่ทีมที่ดีเหมือนแต่ก่อน กลายเป็นทีมครึ่งล่างของตารางที่มีเป้าหมายหลักคือการอยู่รอดบนลีกสูงสุดให้ได้ แต่ก็มีอันต้องมาตกชั้นอีกในปี 2011 และพอปี 2014 กลับมาอีกครั้งก็ต้องร่วงไปอีกทันทีด้วยการจบเป็นอันดับบ๊วย หลังจากนั้นบริบทส่วนใหญ่ก็คือการผจญภัยและสู้ฟัดอยู่ใน ลีก เดอซ์ แบบยาวๆ
แต่แล้วก็มาถึงยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงในช่วงต้นปี 2020 เมื่อ ฟร้องค์ ไฮส์ จากเดิมที่เป็นโค้ชให้ ล็องส์ ชุด บี ได้ก้าวขึ้นมาเป็นเฮดโค้ชให้ทีมชุดใหญ่แทนที่ ฟิลิปป์ มงตานิเย่ร์ และก็ช่วยยลโฉมและยกระดับทีมใหม่หมดจนสุดท้ายสามารถช่วยพา ล็องส์ ตีตั๋วเลื่อนชั้นกลับสู่เวที ลีก เอิง ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี
การกลับมาในครั้งนี้ ล็องส์ ไม่ได้อยู่ในวนอยู่ในลูปเดิมอีกต่อไปแล้ว ฟร้องค์ ไฮส์ คนนี้ได้ทำให้ทีมกลายเป็นเหมือนกับช่วง 20 ปีก่อน เป็นคู่แข่งที่อันตรายและต่อกรได้ยากมากๆ ทีมหนึ่ง เขาพาทีมจบอันดับที่ 7 ของตารางในฤดูกาล 2020-21 เช่นเดียวกับปีต่อมาซีซั่น 2021-22 ก็ยังคงแรงดีไม่มีตกจบที่อันดับ 7 เหมือนเช่นเคย
ถึงจะเล่นระบบหลัง 3 แต่แผนของ ฟร้องค์ ไฮส์ ไม่ได้ตายตัว บางทีก็เป็น 3-4-1-2 บางทีก็เป็น 3-5-2 หรือ 3-4-3 ขึ้นอยู่กับว่าสภาพความพร้อมของผู้เล่นและสภาพคู่แข่งที่เจอในวันนั้น และก็มันก็ได้ผลลัพธ์ที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียวและดูเหมือนกับว่าลูกทีมก็เข้าใจแท็คติกของเขาเป็นอย่างดี
ถ้าพูดถึงการเสริมทัพในปีนี้ ล็องส์ ได้นักเตะใหม่มาแค่ 3 คนเท่านั้นเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมานั่นก็คือ ลัวส์ โอเพนด้า กองหน้าจาก คลับ บรูซ, ไบรซ์ แซมบ้า นายทวารจาก น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และ ซาลิส อับดุล ซาเหม็ด กองกลางจาก แกลร์กมงต์ ฟุต และนั่นดูจะเป็น 3 การเสริมทัพที่ตรงจุด เพราะช่วยให้ทีมมีผลงานที่ดีขึ้นแบบเห็นได้ชัด
อย่าง ลัวส์ โอเพนด้า ตอนนี้พี่แกคือดาวซัลโวสูงสุดของทีมที่ 15 ประตู และตามหลังดาวซัลโวของลีกอย่าง โจนาธาน เดวิด กับ คิเลียน เอ็มบัปเป้ แค่ 4 ประตูเท่านั้น ส่วน ซาลิส อับดุล ซาเหม็ด เป็นผู้เล่นมิดฟิลด์ตัวรับและก็มีส่วนช่วยให้แดนกลางแข็งแกร่งแถมยังช่วยเกมรับได้มากมาย และก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ตอนนี้ ล็องส์ จะเป็นทีมที่เสียประตูน้อยที่สุดในลีกที่ 22 ประตู
ขณะที่ ไบรซ์ แซมบ้า ตอนนี้เขาคือนายทวารที่เก็บคลีนชีทได้มากที่สุดอันดับ 2 ของ ลีก เอิง ซีซั่นนี้ที่ 12 ครั้งโดยเป็นรองแค่เพียง เยห์วานน์ ดิอุฟ ของ แร็งส์ คนเดียวที่ทำไป 13 ครั้งด้วยกัน แน่นอนว่าเบื้องหลังการเสียประตูน้อยที่สุดก็ต้องยกเครดิตให้เขาเช่นกัน
เมื่อผสมผสานกันระหว่างนักเตะใหม่กับนักเตะเก่าที่ลงตัวกลายเป็นว่าปีนี้ ล็องส์ มีผลงานที่ยอดเยี่ยมสุดๆ ตอนนี้พวกเขาไต่ขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูง แข่ง 30 นัด มี 63 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง เปแอสเช แค่ 6 คะแนน ยิงได้ 50 ประตู เสียประตูน้อยที่สุดในลีกที่ 22 ประตู ไม่แพ้ในเกมลีก 7 นัดติดต่อกันและเก็บชัยชนะได้ถึง 5 เกม และที่เด็ดสุดๆ เลยก็คือสถิติการเล่นในบ้านที่เก็บชัยชนะได้ 13 จาก 15 นัดในปีนี้และแพ้ไปแค่นัดเดียวเท่านั้น
ต้องบอกเลยว่า ณ ชั่วโมงนี้ในเหล่าบรรดาทีมหัวตารางไม่มีทีมไหนที่มีผลงานดีและเข้าตาไปกว่า ล็องส์ อีกแล้ว ยิ่งจ่าฝูงอย่าง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ช่วงนี้กำลังระส่ำท่ามกลางปัญหาภายในมากมาย ด้วยช่องว่างที่ห่างกันแค่ 6 คะแนนกับอีก 8 เกมที่เหลือแน่นอนว่าทุกอย่างมีโอกาสเป็นไปได้ และมันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้ ล็องส์ คือทีมม้ามืดและมีโอกาสไม่น้อยที่จะเข้าเส้นชัยคว้าแชมป์ ลีก เอิง สมัยแรกในรอบ 25 ปี
HaMu Dos Santos
