5 แข้งเนื้อหอม เมื่อ “เลสเตอร์” ต้องตกชั้น

ซึ่งทัพ จิ้งจอกสยาม ถือว่าเป็นหนึ่งในทีมที่สร้างสีสันให้กับวงการฟุตบอลอังกฤษได้ไม่น้อย ทั้งผลงานในสนาม และความสำเร็จที่คว้ามาเชยชม นอกจากพรีเมียร์ลีกแล้ว ยังมีโทรฟี่เอฟเอ คัพ มาประดับเพิ่มอีกหนึ่งรายการ

ทว่าจะด้วยวัฏจักร หรือวิถีลูกหนังอะไรก็ตามแต่ ปัจจุบันสถานะของพวกเขาคือทีมในดับ แชมเปี้ยนชิพ ภายหลังร่วงตกชั้นในฤดูกาลนี้

แน่นอนว่าเมื่อ เลสเตอร์ ตกชั้น นักเตะหลายคนที่ผลงานดี ฝีเท้าเยี่ยม ย่อมต้องตกเป็นเป้าหมายของทีมใหญ่อื่นๆ ในการสอยตัวไปเสริมแกร่ง

ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราในวันนี้เราจะพาไปส่อง 5 นักเตะที่มีโอกาสย้ายออกจากทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ ซึ่งจะมีใครบ้าง ไปติดตามกันได้เลย

ก่อนจะไปเริ่มที่รายแรกขอบอกก่อนเลยว่าในลิสต์นักเตะ 5 รายนี้ ไม่นับเหล่าแข้งที่กำลังจะหมดสัญญากับทีมในช่วงซัมเมอร์นี้อย่างพวก ยูริ ติเลอมองส์, ดาเนียล อมาร์ตีย์ หรือ ชากลาร์ โซยุนชู 

เจมส์ จัสติน

เริ่มต้นที่รายแรกจากตำแหน่งเกมรับแบ็คขวากันก่อนอย่าง เจมส์ จัสติน ซึ่งฤดูกาลที่ผ่านมาเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บหนัก พักยาวมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

ทว่าถ้าวัดกันถึงเรื่องของฝีเท้าแล้วต้องยอมรับว่า จัสติน เป็นหนึ่งในฟูลแบ็คที่ผลงานก่อนหน้านี้โดดเด่นมากพอสมควร จนเคยถูกเรียกติดทีมชาติอังกฤษไปแล้วเมื่อช่วงปี 2022 พร้อมประเดิมเปิดซิงเกมแรกในศึก เนชั่นส์ ลีก เรียบร้อย

ซึ่งด้วยวัยเพียง 25 ปี บวกกับฝีเท้าที่การันตีได้ระดับหนึ่ง เคยผ่านเวทีพรีเมียร์ลีกมาแล้วก็ถือว่าน่าจะเป็นช้อยส์ที่น่าสนใจของทีมระดับกลางบนลีกสูงสุด อีกอย่างความสารพัดประโยชน์ของเขาคือสามารถโยกไปเล่นแบ็คซ้ายได้อีกด้วย

ราคาประเมินของเจ้าตัวในตอนนี้อยู่ที่ราว 20 ล้านปอนด์​ ซึ่งถือว่าเป็นมูลค่าที่ไม่ได้สูงจนมากเกินไป และน่าจะช่วยเติมเต็มแล้วแข็งแกร่งให้กับทีมอื่นๆ ได้ด้วยเช่นกัน

ทิโมธี คาสตาญ

อีกหนึ่งแบ็คขวาที่ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นในช่วงที่ผ่านมา จุดเด่นคือการเติมเกมรุกสุดมันส์ จนทำมาซึ่งการทำ 4 แอสซิสต์ในซีซั่นนี้ 

คาสตาญ ย้ายมาร่วมทัพ เลสเตอร์ เมื่อช่วงซัมเมอร์ 2020 จาก อตาลันต้า ซึ่งเจ้าตัวจะเป็นตัวหลักของทีมมาโดยตลอด ลงสนาม 30 นัด/ซีซั่น ขึ้นไปตลอดช่วงเวลาสามฤดูกาลในถิ่น คิง พาวเวอร์ สเตเดียม

ปัจจุบันสัญญาของฟูลแบ็ครายนี้เหลือกับทีมอีก 2 ปี ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยตกเป็นข่าวกับ อาร์เซน่อล ที่ประจวบเหมาะกับตำแหน่งแบ็คขวาตรงนี้ของทัพ “ปืนใหญ่” ยังคงไม่นิ่ง และต้องการหาใครสักคนมาอุดรอยให้ทีมมีสมดุลที่ดีขึ้น

แต่ทั้งนี้น่าสนใจว่า เลสเตอร์ จะตั้งค่าตัวของดาวเตะรายไว้นี้เอาที่ราคาเท่าไหร่ เพราะเป็นหนึ่งในนักเตะระดับเบอร์ต้นๆ ของทีม และน่าจะสร้างมูลค่าได้ไม่ใช่น้อย

วิลฟรีด เอ็นดีดี้

กองกลางตัวตัดเกมที่ผลงานยอดเยี่ยมมากที่สุดคนหนึ่งของทีมหลังจากที่เสีย เอ็นโกโล่ ก้องเต้ ออกไป และยังคงยึดเป็นตัวหลักของทีมในซีซั่นที่ผ่านมา

จุดเด่นของ เอ็นดีดี้ คือการคอยดักจังหวะ เก็บกวาดเกมรุกของคู่แข่งก่อนที่จะหลุดไปถึงพื้นที่แดนสุดท้าย สถิติในพรีเมียร์ลีกซีซั่นนี้เจ้าตัวสามารถแท็คเคิลชนะคู่แข่งได้ 69% คิดเฉลี่ยเป็น 3 ครั้งต่อเกม ไหนจะเรื่องของการแย่งบอลคืน หรือดวลชนะคู่แข่งที่เฉลี่ยมากถึง 5 ครั้งต่อเกม ถือว่าเป็นตัวเลขที่ยอดเยี่ยมพอสมควร

ซึ่งเมื่อประเมินจากสถานการณ์ และฝีเท้าของเจ้าตัวมันดีมากกว่าที่จะลงไปเล่นในลีกรอง และเชื่อว่าคงมีหลายทีมกำลังติดตามดาวเตะทีมชาติไนจีเรียรายนี้แบบใกล้ชิด และครั้งหนึ่ง พอล สโคลส์ เคยเชียร์ให้ เทน ฮาก ดึงตัวมาเป็นสมาชิกของ แมนฯ ยูไนเต็ด

ส่วนในเรื่องของสัญญา เอ็นดีดี้ เหลือกับ เลสเตอร์ อีกเพียงปีเดียวเท่านั้น ฉะนั้นเป็นไปได้ว่าทีมอาจจำเป็นต้องรีบปล่อยตัวออกไปในวันที่ยังคงนำเงินเข้าสโมสรได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าพวกเขาอาจโก่งราคาไม่ได้สูงมากนัก

ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์

ดาวเตะที่ถูกคาดการณ์ว่าในช่วงซัมเมอร์นี้มีโอกาสย้ายทีมสูงมากๆ เพราะนอกจากจะเป็นสตาร์ของ เลสเตอร์ แล้ว ผลงานที่ผ่านของ บาร์นส์ ต้องยอมรับว่าจี๊ดจ๊าด และสอบผ่านเอามากๆ ในการลงเล่นบนเวทีพรีเมียร์ลีก

จากเด็กปั้นของ เลสเตอร์ ที่ขึ้นมามีส่วนร่วมกับทีมชุดใหญ่เต็มตัวครั้งแรกเมื่อซีซั่น 2018-19 จากนั้นเขากลายเป็นตัวหลักของทีมมาโดยตลอด ลงสนามรวมทุกรายการไปแล้วมากถึง 186 นัด

และถ้านับเฉพาะในช่วง 3 ฤดูกาลหลังสุด บาร์นส์ ผลิตสกอร์ 10 ตุงบวกมาตลอด อย่างในซีซั่นที่เพิ่งผ่านพ้นไปเจ้าตัวซัดไปได้ 13 ประตู เป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมอีกด้วย

ด้วยสัญญาที่เหลือกับ เลสเตอร์ อีก 2 ปี อาจทำให้ค่าตัวของเขาอาจจะพุ่งพรวด และสูงหน่อย จากคาดการณ์ของสื่อระบุว่าอยู่ที่ราว 40 ล้านปอนด์ โดยที่มี นิวคาสเซิ่ล เป็นแคนดิเดตที่เสนอตัวหวังดึงไปร่วมทีม

เจมส์ แมดดิสัน

เชื่อเหลือเกินว่าในช่วงซัมเมอร์นี้เนื้อตัวของ แมดดิสัน คงหอมฉุย เป็นที่ต้องการของหลายๆ ทีมในศึกพรีเมียร์ลีก อย่างแน่นอน

ที่ผ่านมาเราจะเห็นข่าวการย้ายทีมของเจ้าตัวอยู่เรื่อยๆ ที่ถูกจับไปเชื่อมโยงกับเหล่าสโมสรชั้นนำในลีก ทว่าท้ายที่สุดก็ยังไม่มีดีลที่เกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ ทว่าซัมเมอร์นี้คงจะเป็นสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป

ผลงานของ แมดดิสัน คงไม่ต้องสาธยายอะไรให้มากความ เขาเปรียบเสมือนหัวใจในเกมรุกของ เลสเตอร์ อย่างแท้จริง อย่างในฤดูกาลนี้ทำไปได้ 10 ประตู กับ 9 แอสซิสต์ ส่วนสถิตอื่นๆ ที่น่าสนใจเจ้าตัวจ่ายบอลแบบ Key pass ไป 67 ครั้ง พร้อมมีโอกาสยิง 49 ครั้ง ตรงกรอบ 27 ครั้ง และมีอัตราการเลี้ยงบอลสำเร็จอยู่ที่ 51%

จากสถิติต่างๆ และฝีเท้า ไม่แปลกที่ แมดดิสัน จะได้รับความสนใจจากทีมใหญ่ๆ หัวตารางอย่าง อาร์เซน่อล หรือ นิวคาสเซิ่ล รวมไปถึงทีมอื่นๆ ที่คงจ้องตาเป็นมันหวังสอยไปเสริมแกร่ง

หลังจากนี้ช่างน่าสนใจอนาคตของ แมดดิสัน ในวัย 26 ปี จะดำเนินไปทางไหนในช่วงอายุที่กำลังเข้าสู่ช่วงพีคของอาชีพ

- Paolinho -