ไค ฮาแวร์ตซ์ ย้ายมาถิ่น เอมิเรตส์ ด้วยค่าตัว 65 ล้านปอนด์ ในช่วงตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมา พร้อมกับถูกตั้งคำถามมากมายว่า ทำไม มิเกล อาร์เตต้า ถึงดึงตัวเขามาด้วยค่าตัวมหาศาลขนาดนี้ ทั้งที่ฟอร์มการเล่น ก็ไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้นกับ เชลซี และจะเอามาลงไหนตำแหน่งอะไรกันแน่
วันนี้ทางขอบสนามเกาตรงจุด จะมาเจาะลึกทีละตำแหน่ง ที่เหมาะสมกับ ไค ฮาแวร์ตซ์ ว่าจะมีตำแหน่งอะไรบ้าง ลองไปดูพร้อมๆกันครับ
[ กลองกลางตัวรุก หมายเลข 10 ]
ตำแหน่งกองกลางตัวรุกหมายเลข 10 เป็นตำแหน่งแจ้งเกิดของ ไค ฮาแวร์ตซ์ ในสมัยที่เจ้าตัวยังค้าแข้งอยู่กับ ทีมห้างขายยา เลเวอร์คูเซ่น ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เจ้าตัวโชว์ฟอร์มได้อย่างเปรี้ยงปร้าง
ไค ฮาแวร์ตซ์ ลงสนามในฐานะตำแหน่ง มิดฟิลด์ตัวรุก หรือตำแหน่งจอมทัพ ไปทั้งหมด 143 นัด ยิงได้ 32 ประตู กับอีก 29 แอสซิสต์ ด้วยฟอร์มการเล่นที่ไฉไลขนาดนี้ ทำให้ ณ เวลานั้น คิงไค ตกเป็นที่หมายปองของบรรดาทีมชั้นนำของยุโรป ไม่ว่าจะเป็น เรอัล มาดริด, บาร์เซโลน่า, แมนฯซิตี้ แต่ในท้ายที่สุดแล้วเขาก็เลือกที่จะไปเล่นให้กับ ทัพ สิงห์บลูส์ ในปี 2020 ด้วยค่าตัว 71 ล้านปอนด์
แต่ทว่ากับ อาร์เซน่อล แล้ว ตำแหน่งนี้เป็นของ กัปตันทีมอย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด ซึ่งเปรียบเสมือนสมองและหัวใจในเกมรุกของ ทีมปืนใหญ่ ณ เวลานี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ฟอร์มการเล่นของ ไค ฮาแวร์ตซ์ ในตอนนี้จะไปเบียดแย่งตำแหน่ง กัปตันทีมชาวนอร์เวย์ ที่ยิงไปแล้ว 3 ประตู 1 แอสซิสต์ ในฤดูกาลนี้ แม้ว่า ไค ฮาแวร์ตซ์ จะทำผลงานได้ที่สุดในตำแหน่งนี้ก็ตาม
[ กองกลางหมายเลข 8 ]
เชื่อได้เลยว่า มิเกล อาร์เตต้า ดึงตัว ไค ฮาแวร์ตซ์ มาจาก เชลซี ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 65 ล้านปอนด์ เพื่อมาเล่นในตำแหน่ง มิดฟิลด์หมายเลข 8 แทนที่ของ กรานิท ชาก้า ที่ได้ย้ายไป เลเวอร์คูเซ่น เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ซึ่ง มิดฟิลด์ชาวสวิสผู้นี้ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จนเกือบพา อาร์เซน่อล คว้าแชมป์ได้ในฤดูกาลที่ผ่านมา
ถ้าจะถามถึงเหตุผลว่าทำไมถึงเชื่อว่า มิเกล อาร์เตต้า ถึงต้องการให้ ฮาแวร์ตซ์ เล่นในตำแหน่ง มิดฟิลด์หมายเลข 8 ก็เพราะ ในช่วงปรีซีซั่นจนถึงปัจจุบัน กุนซือชาวสแปนิช อาจจะมองเห็นอะไรบ้างอย่างที่เชื่อว่าเจ้าตัวสามารถเล่นได้ เลยจับเขามาเล่นตำแหน่งนี้มาโดยตลอด
แต่ทว่า ฟอร์มการเล่นของ ไค ฮาแวร์ตซ์ ในฐานะมิดฟิลด์หมายเลข 8 เขาแทบจะสร้างอิมแพคอะไรกับทีมไม่ได้เลย มีหน้าที่คอยแปะบอลไปมาเท่านั้น เกมรับก็ตัดบอลไม่ได้ แถมยังมีจังหวะพลาดง่ายๆให้เห็นอยู่แทบทุกเกมที่ลงสนาม และทำได้เพียงประตูเดียวเท่านั้นจากทั้งหมด 8 นัดที่ลงสนาม
ในสายตาผู้จัดการทีมอย่าง มิเกล อาร์เตต้า อาจจะมองว่า คิงไค มีคุณสมบัติที่จะเล่นตำแหน่งนี้ได้ แต่ความเป็นจริงแล้วกลับไม่ใช่แบบนั้นเลย เพราะตำแหน่งมิดฟิลด์หมายเลข 8 ต้องมีความ “ไดนามิค” สูง จำเป็นต้องวิ่งขึ้นวิ่งลงอยู่ตลอด ไม่ว่าจะสอดขึ้นไปเล่นเกมรุก หรือทำหน้าที่เกมรับ ก็ต้องทำได้ดีไม่แพ้กัน และต้องมีความดุดันในการเล่นสูง ซึ่ง ฮาแวร์ตซ์ ไม่มีในจุดนี้ รวมไปถึงสไตล์การเล่นของเจ้าตัวที่ออกแนว “อาร์ตติส” อยู่หน่อยๆ จึงดูไม่ค่อยเหมาะกับตำแหน่งนี้สักท่าไหร่นัก
แต่ก็ต้องเข้าใจ ไค ฮาแวร์ตซ์ อีกเช่นเดียวกันเพราะ เจ้าตัวเคยลงสนามในฐานะ มิดฟิลด์หมายเลข 8 เพียงแค่ 18 นัดเท่านั้นก่อนที่จะย้ายมา อาร์เซน่อล ซึ่งจัดได้ว่าน้อยมากๆถ้าเทียบกับตำแหน่งอื่น คงต้องให้เวลากับเจ้าตัวสักหน่อย
ยิ่งถ้ามองไปที่ม้านั่งสำรองของ อาร์เซน่อล แล้วก็แทบจะไม่มีใครที่เล่นในตำแหน่งนี้ได้เลย มีเพียงแค่ ฟาบิโอ วิเอร่า เท่านั้น แต่ฟอร์มการเล่นสามวันดี สี่วันไข้ เอาแน่เอานอนไม่ได้
ฉะนั้นแล้วอาจจะด่วนสรุปเร็วเกินไปถ้าจะบอกว่า ไค ฮาแวร์ตซ์ นั้นไม่สามารถเล่นในตำแหน่ง มิดฟิลด์หมายเลข 8 ได้ ซึ่งในอนาคตอาจจะเวิร์คก็เป็นไปได้เช่นเดียวกัน
[ ศูนย์หน้า ]
ตำแหน่งศูนย์หน้า เป็นตำแหน่งที่ ไค ฮาแวร์ตซ์ เล่นมาโดยตลอดในตอนที่อยู่กับ ทีมสิงห์บลูส์ ถ้าดูจากผลงานในการเล่นตำแหน่งนี้แล้วจะตอบว่าห่วยก็บอกได้ไม่เต็มปาก แต่ถ้าจะบอกว่าดีก็ไม่ได้ดีอะไรขนาดนั้น ด้วยผลงานการลงสนามในตำแหน่งศูนย์หน้าคือ ลงสนามทั้งหมด 78 นัด ยิง 29 ประตู กับอีก 6 แอสซิสต์
ถ้าดูจากสถิติแล้วก็ถือว่าเป็นกองหน้าดาดๆคนนึง แต่ถ้าจะมาเจาะลึกถึงคุณสมบัติในการเป็น ศูนย์หน้า ของ ไค ฮาแวร์ตซ์ แล้วถือว่ามีว่ายังพอมีภาพให้เห็นอยู่บ้างเหมือนกัน
ด้วยความที่ว่าเจ้าตัวมีที่รูปร่างสูงใหญ่ สามารถเก็บบอลได้ พักบอลได้ มีเซนต์บอลสูง มีเทคนิคที่ดี เล่นลูกกลางอากาศได้ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเล่นเป็นตำแหน่ง ศูนย์หน้า ก็คือ “ความคมในการจบสกอร์” ซึ่ง ฮาแวร์ตซ์ ก็ยังขาดในจุดนี้ไป เหมือนกับกองหน้าอีกสองคนของ อาร์เซน่อล อย่าง กาเบรียล เชซุส และ เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ที่มีดีทุกอย่างยกเว้นการจบสกอร์ที่ดี
แต่ก็ไม่แน่เหมือนกันในตำแหน่ง ศูนย์หน้า ของ ไค ฮาแวร์ตซ์ กับทีมปืนใหญ่ โดยนัดล่าสุดที่สามารถเอาชนะ แมนฯซิตี้ เจ้าตัวถือว่าทำผลงานได้ดีทีเดียว แถมยังแอสซิสต์ให้กับ มาร์ติเนลลี่ซัดประตูชัยได้อีกด้วย พอจบเกมนี้แล้ว มิเกล อาร์เตต้า อาจจะเห็นอะไรบางอย่างในความเป็น ศูนย์หน้า ของนักเตะชาวเยอรมันผู้นี้ เหมือนกับ โค้ชของ เชลซี ก็เป็นไปได้เช่นกัน
คงต้องมาติดตามดูกันต่อไปครับว่าในท้ายที่สุดแล้ว มิเกล อาร์เตต้า จะจับ นักเตะสารพัดตำแหน่งชาวเยอรมัน รายนี้ ไปไว้ในส่วนไหนของทีมกันแน่ ไม่ว่าจะเป็น กองกลางตัวรุก มิดฟิลด์หมายเลข 8 และ กองหน้า หรือ ที่แย่ที่สุดเลยคือ “การตกเป็นตัวสำรองของทีม” ถ้าเจ้าตัวยังไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งออกมาได้
บีเบลล์ กูนเนอร์
