โดยเกมนัดต่อไปจะยกพลบุกไปเยือน เอสโตเนีย อีกหนึ่งทีมจากโซนยุโรปในค่ำคืนวันอังคาร (17 ต.ค.) นี้ ซึ่งถือว่าเป็นอีกเกมสำคัญที่แฟนบอลจับตามอง ภายหลังพวกเขาเพิ่งพ่ายแบบหมดรูปต่อ จอร์เจีย ไป 8-0
ว่ากันตามตรง เอสโตเนีย นอกจากสถาปัตยกรรม และเกาะที่สวยงาม เรื่องของฟุตบอลเราแทบไม่รู้จักเลยว่าพวกเขาเป็นอย่างไร และมีผลงานที่ผ่านมาในรูปแบบไหน
ซึ่งวันนี้ ขอบสนาม ของเราจะพาไปรู้จักกับทีมชาติเอสโตเนียให้มากขึ้น รวมไปถึงส่องว่ามีนักเตะคนไหนน่าจับตามองบ้าง
ทีมฟุตบอลไม่ได้เฉิดฉาย
ทีมชาติเอสโตเนีย ในช่วงที่ผ่านมาถูกปรามาสว่าเป็นเหมือนสมันน้อยของยุโรปที่มักจะเป็นเพียงทางผ่านของทีมอื่นในการก้าวเข้าสู่รอบสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ ทั้งฟุตบอลโลก หรือศึกยูโร
ด้วยขนาดประเทศที่ใหญ่เป็นอันดับ 29 ของยุโรป มีประชากรราวๆ 1.3 ล้านคน อาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศของพวกเขาไม่ได้โดดเด่นเรื่องของกีฬามากนัก ซึ่งรวมไปถึงฟุตบอลด้วย แม้ครั้งหนึ่งจะเคยขึ้นไปอยู่ในอันดับ 47 ของฟีฟ่า แรงกิ้ง ก็ตาม
ทั้งนี้ทั้งนั้นในภาพรวมเรื่องของฟุตบอลก็ไม่ได้ถูกหยิบยกมาพูดถึงมากนัก และไม่แปลกที่อันดับแรงกิ้งในตอนนี้จะร่วงลงไปรั้งอันดับ 115 ของโลก
ไม่เคยเข้ารอบสุดท้ายศึกใหญ่
อย่างที่กล่าวไปว่า เอสโตเนีย ไม่เคยได้มีโอกาสเข้าสู่รอบสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ เลย ส่วนมากจะจอดป้ายในรอบคัดเลือกเท่านั้น
อย่างเช่นศึกยูโร 2024 รอบคัดเลือกที่กำลังแข่งขันกันอยู่ในตอนนี้ เอสโตเนีย อยู่ในกลุ่ม F ร่วมกับ เบลเยี่ยม, สวีเดน, ออสเตรีย และ อาเซอร์ไบจาน ลงเล่นไปแล้ว 6 เกม ยังคงไม่ชนะใคร เก็บได้เพียงคะแนนเดียวเท่านั้น พร้อมเสียไปมากถึง 18 ประตู
แน่นอนว่าผลงานแบบนี้ปิดประตูการเข้าสู่รอบต่อไปอย่างเป็นทางการแล้ว
ส่วนรอบคัดเลือกศึกฟุตบอลโลกก็เช่นกันที่ผ่านมาๆ ผลงานก็ไม่ได้น่าอภิรมย์เท่าไหร่นัก ถ้าจะหาสักปีที่ผลงานดีคงเป็นเมื่อปี 2006 ที่เก็บไปได้ถึง 17 คะแนน แต่ก็เพียงเท่านั้นจบอันดับ 4 ของตาราง เป็นรอง โปรตุเกส, สโลวาเกีย และ รัสเซีย
ผลงานในปีนี้
นับตั้งแต่ขึ้นปี 2023 เป็นต้นมา เอสโตเนีย ลงสนามไปแล้วในทุกรายการ 9 นัด ผลปรากฎว่าเก็บชัยชนะได้เพียงเกมเดียวเท่านั้นเหนือ ฟินแลนด์ ในเกมอุ่นเครื่องเมื่อเดือนมกราคม
ส่วนที่เหลือแบ่งเป็นเสมอ 2 นัด และแพ้ไปมากถึง 6 เกม ที่สำคัญคือ 4 นัดหลังสุดแพ้รวดในรูปแบบที่ไม่สามารถทำประตูได้เลย ประกอบไปด้วยพ่าย เบลเยี่ยม 0-3, แพ้ สวีเดน 0-5, แพ้ เบลเยี่ยม 5-0
และนัดล่าสุดเปิดบ้านพ่าย อาเซอร์ไบจาน 0-2 ซึ่งเกมนี้ รามิล เชย์ดาเยฟ แนวรุกจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สามารถทำประตูได้ด้วย
ถ้าวัดจากตัวเลขที่กล่าวไปต้องยอมรับเลยว่าแนวรุกของ เอสโตเนีย ปืนฝืดเลยทีเดียว แต่มองในอีกมุมพวกเขากับคู่แข่งระดับหัวกะทิที่ยากในการต่อกรพอสมควร
กุนซือของทีม
ปัจจุบัน เอสโตเนีย ถูกกุมบังเหียนโดย โทมัส เฮแบร์ลี นายใหญ่วัย 49 ปี ชาวสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเจ้าตัวเข้ามารับงานเมื่อเดือนมกราคม 2021
ที่ผ่านมา เฮแบร์ลี ส่วนมากคือการรับบทบาทเป็นผู้ช่วยโค้ชเสียส่วนใหญ่ทั้งกับ ยัง บอยส์ หรือ บาเซิ่ล แต่ก็มีโอกาสคุมทีมเองอยู่บ้างกับ ลูเซิร์น สโมสรล่าสุดก่อนเข้ามารับงานคุมทัพ เอสโตเนีย ซึ่งผลงานถือว่าไม่ดีและร้าย 42 นัด คว้าชัยได้ 17 เสมอ 6 และแพ้ 19 เกม
คราวนี้มาดูสถิติการคุมทัพ เอสโตเนีย ของเขากันบ้าง แน่นอนว่าตัวเลขอาจไม่สวยงามเพราะพาทีมเก็บชัยชนะได้เพียง 10 จาก 32 เกม ส่วนที่เหลือแบ่งเป็นเสมอ 6 และแพ้ 16 นัด คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ชนะอยู่ที่ 31.25% เท่านั้น
นักเตะน่าจับตามอง
คอนสแตนติน วาสซิลเยฟ - กองกลางที่ลงสนาม และทำประตูได้มากของ เอสโตเนีย ในชุดนี้ อีกทั้งเป็นคนที่มีโอกาสขึ้นไปรั้งเป็นเจ้าของตำแหน่งรับใช้ทีมชาติมากที่สุดตลอดกาลอีกด้วย ภายหลังลงสนามไปแล้ว 153 นัด ตามหลังอันดับ 1 อย่าง มาร์ติน เรม เพียง 4 เกม เท่านั้น
แม้อายุที่มากถึง 39 ปีแล้ว แต่ด้วยตัวเลขที่ไม่ได้ห่างมากนัก และ เอสโตเนีย ยังคงมีโปรแกรมลงสนามอย่างต่อเนื่องบางทีอาจก้าวขึ้นไปรั้งอันดับ 1 ได้ไม่ยากนัก
คาร์ล เฮน - นายด่านดาวรุ่งวัย 21 ปี แต่ลงสนามให้กับ เอสโตเนีย ชุดใหญ่ไปแล้วมากถึง 24 เกม เพราะเจ้าตัวได้โอกาสเฝ้าเสาให้ทีมตั้งแต่อายุเพียง 18 ปี เท่านั้น
ปัจจุบันเจ้าตัวสังกัดอยู่กับ อาร์เซน่อล มีโอกาสลงเล่นให้ทีมไป 1 เกมในศึกลีก คัพ เมื่อฤดูกาลก่อนในเกมที่ทีมพ่าย ไบรท์ตัน 1-3
เฮนรี่ อานิเยร์ - กองหน้าที่แฟนบอลไทยลีกน่าจะคุ้นหูเป็นอย่างดี เพราะเคยย้ายมาค้าแข้งกับ เมืองทอง ยูไนเต็ด เมื่อ 2 ฤดูกาลก่อน พร้อมกับฝากผลงานไว้ที่ 12 ประตู จากการลงสนาม 34 เกม
ปัจจุบันเจ้าตัวย้ายไปร่วมทัพ ลี แมน ทีมในประเทศฮ่องกง ส่วนผลงานกับทีมชาติลงเล่นให้เอสโตเนียไปแล้ว 88 นัด ซัด 21 ประตู รั้งดาวซัลโวตลอดกาลอันดับที่ 4
และนี่คือทีมชาติเอสโตเนียที่ทัพ “ช้างศึก” ของเราจะลงสนามดวลแข้งด้วยในค่ำคืนวันอังคาร (17 ต.ค.) นี้ เวลา 23:00 น. อย่าลืมให้กำลังทีมชาติไทยของเราด้วยนะครับ
- Paolinho -
