เชื่อว่าแฟนบอลไทยหลายๆ คนน่าจะใจชื้นขึ้นมาไม่มากก็น้อยกับผลงานการบุกไปเสมอกับ เอสโตเนีย 1-1 ในเกมอุ่นเครื่อง ฟีฟ่า เดย์ เมื่อวานนี้ เพราะการเสมอหลังโดนถลุง 8 เม็ดแบบสดๆ ร้อนๆ ได้ถือว่า “ใจนักบอล" ยังยอดเยี่ยม
ส่วนควันหลงหลังเกมเห็นที่เพิ่งจบไปเมื่อคืนนี้เห็นอะไรน่าสนใจบ้าง ขอบสนามบอลไทย ย่อยมาเป็น 5 ดังนี้ ....
อย่างแรก “ระบบการเล่นเปลี่ยน” เพราะเกมแรกที่เราแพ้ จอร์เจีย 8-0 “มาโน่ โพลกิ้ง” เลือกใช้ระบบหลัง 3 เข้าสู้ แต่พอในเกมนัดนี้เขากลับมาสู่โหมดกองหลัง 4 คนอีกครั้ง ซึ่งเป็นแผนถนัดของตัวเองด้วย แม้หลายคนจะบอกว่า เอสโตเนีย ไม่แกร่งเท่า จอร์เจีย เลยใช้ระบบนี้ได้ อันนั้นเข้าใจ แต่คนที่มองอย่างนั้นก็ควรให้เครดิตระบบหลัง 4 ที่เกมนี้ถือว่า ทีมชาติไทย ช่วยกันสอดซ้อนได้อย่างมีวินัยตลอดทั้งเกมด้วย
อย่างต่อมา “ความผิดพลาดน้อยลง” แน่นอนเมื่อคุณเล่นแบบไม่มีข้อผิดพลาดก็ไม่อาจนำไปสู่การเสียประตูแบบง่ายๆ เหมือนเกมแรกที่โดน จอร์เจีย ยิงไป 8 ประตู เพราะเกมนัดนั้นการเสีย 3 จาก 8 ประตูมาจากการจ่ายบอลที่ผิดพลาดของเราเองทั้งหมดเท่ากับว่าเราหยิบยื่นโอกาสยิงประตูให้กับคู่แข่งเอง กลับกันเกมนี้เราระวังมากขึ้น เน้นความชัวร์ในการเล่นมากขึ้น และช่วยกันแก้ไขสถานการณ์ได้ดี แม้จะมีจังหวะเสียอยู่บ้าง เหมือนกับตื่นตัวมาจากเกมแรกที่ผิดพลาดแล้วโดนลงโทษทันที
อย่างที่สาม “กล้าเล่นเหมือนเดิม” อันนี้ต้องชื่นชมหัวจิตหัวใจของน้องๆ นักบอลในชุดนี้ทุกคน เพราะการลงเล่นหลังจากโดนยิงมา 8 ประตูมันไม่ง่ายเลย แถมยังเป็นเกมที่ต้องเล่นเกมเยือนติดต่อกัน แต่ด้วยความมั่นใจของแต่ละคนที่เอาตรงๆ ก็เคยผ่านเวทีระดับชาติหรือเกมใหญ่ๆ ระดับสโมสรมาแล้วไม่มากก็น้อยทั้งนั้น เราจึงเห็นได้ว่า เกมบิ้วอัพกล้าสู้กล้าแลกไปเลย, การต่อบอลโชว์ให้เขาไล่เราไม่จน และที่คัญกล้าจ่าย กล้าเล่น ในจังหวะเสี่ยงๆ เพื่อสร้างโอกาสของตัวเอง มีให้เห็นตลอดทั้งเกม
อย่างที่สี่ “เอสโตเนีย ไม่หนีจากเรา” แน่นอนว่าสิ่งที่เราจะปฏิเสธไม่ได้คือ เอสโตเนีย ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่ดีกว่าเราเท่าไหร่ แม้ก่อนหน้านี้จะเคยเจอกันมา แต่นั่นเป็นเกมในบ้านเราซึ่งมันต่างจากนัดนี้ที่เป็นเกมเยือน เพราะความยากและความเข้มข้นของนักเตะมันต่างออกไป และจากผลเสมอในนัดนี้เราก็ได้เห็นเต็มๆ แล้วว่าทีมระดับนี้ในยุโรปเราสู้ได้และมีสิทธิ์ลุ้นได้ถึงชนะด้วย แต่ที่บอกก็คือการเจอกับทีมในระดับใกล้เคียงกันแบบนี้เราต้องเล่นให้มีความหวังแบบนี้แหละ
และอย่างสุดท้าย “ไทยชุดนี้ไม่ได้แย่” แม้เราเพิ่งโดน จอร์เจีย ตบมา 8 เม็ด แต่ด้วยหลายๆ ปัจจัยที่ชำแหละออกมาแล้วทำให้พอเข้าใจกับการโดนถลุงเละขนาดนั้น และแม้ว่าผู้เล่นชุดนี้จะไม่ใช่นักเตะชุดที่ดีที่สุดของเรา แต่สำหรับผู้เล่นในทีมชุดแรกที่ โค้ชมาโน่ เลือกใช้เป็นแกนหลักทั้ง 2 นัด ต่างก็เป็นนักเตะที่เข้าๆ ออกๆ ในเซ็ตทีมชาติของเขามาตลอด หรือเรียกง่ายๆ คือ บางคนในทีมชุดนี้ก็เป็นทั้งตัวจริงและตัวสำรองในทีมชาติของ มาโน่ มาแล้วนั่นเอง และเมื่อดูภาพรวมตั้งแต่เกม จอร์เจีย มาต่อด้วยการเล่นกับ เอสโตเนีย เอาตรงๆ แกนชุดนี้ก็ไม่ถึงกับขี้เหร่ขนาดที่หลายๆ คนเรียกกันว่า ทีมชาติไทยชุด C
บอลพาดู
