ถ้าถามว่าในฤดูกาลนี้ทีมไหนที่ฟอร์มร้อนแรงที่สุด คงต้องยกให้กับ "แข้งเทพ" ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ยังไม่แพ้ใครเลยในฤดูกาลนี้ ทั้งในฟุตบอลไทยลีก และเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ที่บียู ไปเตะเป็นครั้งแรก แต่สร้างประวัติศาสตร์คว้าชัยชนะได้ 3 นัดติดต่อกัน และเป็นทีมที่มีโอกาสจะผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์มากที่สุดในบรรดา 3 ทีมของไทย
กลับมาที่ในศึกไทยลีก ทีมแข้งเทพ ลงเตะไปแล้ว 7 นัด ชนะได้ 6 เสมอ 1 ยังไม่แพ้ใคร มีอยู่ 19 คะแนน เท่ากับจ่าฝูงการท่าเรือ เอฟซี แต่บียู แข่งน้อยกว่า 2 นัด ถ้าแข่งเท่ากัน ไม่แน่ว่าตอนนี้ ทรู แบงค็อก อาจจะนำเป็นจ่าฝูงอยู่ก็ได้ เพราะก่อนหน้านี้พวกเขาก็นำฝูงมาตลอด ก่อนที่จะถูกเลือ่นโปรแกรมไป 2 นัด กับ บุรีรัมย์ และ ชลบุรี
ฤดูกาลนี้ทีมแบงค็อก เริ่มต้นด้วยการคว้าแชมป์ไดกิ้น คัพ ที่พวกเขาเอาชนะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปได้ 2-0 ก่อนเปิดฤดูกาล ถือเป็นการคว้าแชมป์แรกในประวัติศาสตร์สโมสร ซึ่งก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยสัมผัสถ้วยแชมป์อะไรเลย หลังจากเปลี่ยนมาใช้ชื่อ "แบงค็อก ยูไนเต็ด"
ในฤดูกาลที่ผ่านๆ มา ทีม "แข้งเทพ" ก็มีผลงานที่ดีมาโดยตลอด และเป็นทีมที่ลุ้นแชมป์ไทยลีกมาตลอดเช่นกัน แต่สุดท้ายก็จะพลาดท่าช่วงท้ายฤดูกาล และก็ได้แค่รองแชมป์ จนแฟนบอลบียู หลายคนคิดว่าทีมตัวเองนั้นถูกสาปหรือเปล่า ที่ไปไม่ถึงแชมป์สักที เข้าชิงอะไรก็แพ้นัดชิงตลอด ก่อนที่จะมาปลดล็อคได้ในไดกิ้น คัพ
พอเริ่มฤดูกาล บียู ภายใต้การคุมทัพของ "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน ก็ยังคงฟอร์มร้อนแรงในไทยลีก อย่างที่บอกว่า 7 นัดชนะได้ถึง 6 เกม มีสะดุดเสมอไปนัดนึงกับเมืองทอง ไม่เช่นนั้นอาจจะชนะรวดไปแล้ว
ยิ่งกับเกมล่าสุดที่พบกับราชบุรี ก่อนเกมหลายคนก็คิดว่า บียู น่าจะชนะได้ไม่ยาก อีกทั้ง ราชันมังกร ก็เล่นทีมเยือนไม่แต่ แต่ในเกมนี้ ราชบุรี เป็นฝ่ายออกนำไปก่อน 1-0 จนกระทั่งท้ายเกม 5 นาทีสุดท้าย ตอนนั้นก็คิดว่าเกมนี้อาจจะแพ้คาบ้านนัดแรก หรือเต็มที่อาจจะกลับมาได้แค่ตามตีเสมอ
ซึ่งพวกเขาก็ทำได้ มาตามตีเสมอในช่วงนาทีที่ 85 จากนั้นในช่วงทดเจ็บ พวกเขามายิงเพิ่มอีก 2 ประตู พลิกแซงชนะไปอย่างสุดมันส์ 3-1 เป็นการพลิกสถานการณ์จากที่จะแพ้อยู่แล้ว กลับมาเก็บชัยชนะได้ นี่มันคือคุณสมบัติของทีมลุ้นแชมป์ชัดๆ
แต่กระนั้นถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครกล้าพูดได้เต็มปากว่า บียู จะเป็นแชมป์ไทยลีกในฤดูกาลนี้ เพราะยังเหลือโปรแกรมอีกตั้งหลายนัดทั้งในเลกแรกเอง และในเลกสองอีกเต็มๆ
โดยเฉพาะทีมอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์เก่าที่แม้จะฟอร์มไม่ดีตอนนี้ก็ยังประมาทไม่ได้ รวมทั้งทีมอย่างการท่าเรือ, บีจี ปทุม ก็ยังมีลุ้นเช่นกัน
น่าเสียดายที่ก่อนหน้านี้ ทรู แบงค็อก มีโปรแกรมที่จะต้องเจอกับ บุรีรัมย์ ในศึกไทยลีก ซึ่งอาจจะเป็นเกมตัดสินอะไรบางอย่าง แต่เกมนั้นดันถูกเลื่อนไปเสียก่อนเนื่องจากฝนตกหนัก ล่าสุดไทยลีกกำหนดมาแล้วมาคู่นี้จะไปเตะกันในปีหน้าวันที่ 6 มกราคม 2567 ซึ่งเป็นช่วงโปรแกรมทีมชาติด้วย
ซึ่งในเกมนั้นแหละ ถ้าสมมติว่า ทรู แบงค็อก ย้ำแค้นบุรีรัมย์ ได้อีกครั้ง ผมเชื่อมั่นว่าปีนี้พวกเขามีโอกาสสูงที่จะเป็นแชมป์
และไม่เพียงเฉพะในไทยลีกเท่านั้น ที่พวกเขาทำผลงานได้ดี ในถ้วยเอซีแอล อย่างที่บอก สามนัดใสนรอบแบ่งกลุ่มชนะรวด เก็บ 9 แต้มเต็ม แม้จะยังไม่เป็นทางการ แต่บอกเลยว่าบียู เข้ารอบน็อคเอาท์เอซีแอล แน่นอน
ซึ่งตอนก่อนเปิดฤดูกาลผมยังจำได้ ที่ "โค้ชแบน" ให้สัมภาษณ์หลังเอาชนะบุรีรัมย์ ในไดกิ้น คัพ กุนซือบียู พูดถึงเป้าหมายในถ้วยเอเชียในการไปลงเตะครั้งแรกในปีนี้ว่า "จะพยายามทำให้ดีที่สุด และตั้งเป้าพาทีมเข้ารอบน็อคเอาท์ เป็นครั้งแรกให้ได้"
ตอนนั้นที่ผมบทสัมภาษณ์นี้ไปทางเพจขอบสนามบอลไทย มีแต่คนมากดขำ และคอมเมนต์ว่าฝันไปหรือเปล่า เพราะหลายคนไม่เชื่อว่าบียู จะทำได้ ด้วยการที่ไปเตะปีแรก คิดการใหญ่จะเข้ารอบ ไม่มีใครคิดว่าจะเป็นไปได้
แต่เชื่อว่าตอนนี้ทุกคนคงไม่คิดเช่นกัน และคงรู้แล้วละว่าที่คอมเมนต์ไปในตอนนั้นพวกเขาคิดผิด
เหมือนกับตอนนี้ที่ทุกคนยังไม่เชื่อว่า บียู มีโอกาสจะเป็นแชมป์ไทยลีก สุดท้ายคงต้องรอจบฤดูกาล ที่จะทำให้ความคิดของทุกคนเปลี่ยนไป
#ชิชาริเต่า
