5 สิ่งที่สำคัญหาก อาร์เซน่อล หวังจะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ในรอบ 20 ปี

วันก่อนก็ ลิเวอร์พูล ไปแล้ว วันนี้มาถึงคิวของ อาร์เซน่อล กันบ้างครับ อย่างที่เราทราบกันดีว่า พลพรรคเดอะกันเนอร์ส ไม่ได้ลิ้มรสชาติของแชมป์ พรีเมียร์ลีก มานานกว่า 20 ปีแล้ว อย่าว่าแต่แชมป์เลยครับ แค่การลุ้นแชมป์ก็ไม่มีฤดกูาลไหนที่ใกล้เคียงเลยเสียด้วยซ้ำ

จนกระทั่งฤดูกาลที่ผ่านมา มิเกล อาร์เตต้า ได้นำพาเหล่า กูนเนอร์ส ทุกคนกลับมายืนในเส้นทางการคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง หลังคับเขี้ยวกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาจนถึงบั่นปลายฤดูกาล แต่ด้วยความอ่อนประสบการณ์ของ อาร์เซน่อล เป็นเหตุให้พวกเขามาตกม้าตายเสียเองในท้ายที่สุด

ฤดูกาลนี้ อาร์เซน่อล เริ่มต้นมาด้วยความหวัง และหมายมั่นปั้นมือเป็นอย่างยิ่งว่า พวกเขาจะต้องกลับมาเถลิงบัลลังค์แชมป์ พรีเมียร์ลีก อีกครั้งให้ได้ หลังพลาดเป้าไปเมื่อฤดูกาลที่แล้ว 

วันนี้ขอบสนามจะพาไปดูว่ามีเหตุผลอะไรบ้างที่ อาร์เซน่อล จะกลับมาคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อีกครั้ง
 

1.) ช่วงบ็อกซิ่งเดย์ ต้องโกยแต้มให้ได้มากที่สุด

อย่างที่เราทราบกันดีว่าช่วง บ็อกซิ่งเดย์ เป็นช่วงที่หลายๆทีมต้องกรำศึกหนักเป็นพิเศษ เพราะโปรแกรมเตะจะเยอะกว่าปกติ ซึ่งถ้าทีมไหนพลาดหรือสดุดในช่วงนี้ อาจเป็นเหตุให้ชวดแชมป์เลยก็มีโอกาสเป็นได้สูงพอสมควร

ซึ่งถ้าเรามาดูจากโปรแกรมของ อาร์เซน่อล หลังจากนี้แล้ว จะมีหนักก็เพียงแค่ไปเยือน แอสตัน วิลล่า ของกุนซือเก่าอย่าง อุไน เอเมรี่ ที่ฟอร์มอยู่ในช่วงเข้าฝักสุดๆ โดยเฉพาะเกมในบ้านที่ชนะมา 15 เกมติดต่อกัน การที่ต้องบุกไปเยือน สิงห์ผงาด ในชั่วโมงนี้บอกได้เลยว่าไม่กินหมูแน่ๆ

และต้องบุกไปเยือนพวกพรี่ๆอย่าง ลิเวอร์พูล ซึ่งเป็นทีมลุ้นแชมป์เฉกเช่นเดียวกัน แต่การที่ต้องบุกไปเยือน แอนฟิลด์ นรกของทีมเยือน และหวังที่จะคว้า 3 แต้มกลับบ้าน คงเป็นเรื่องที่ยากเหมือนเข็นครกขึ้นภูเขาแน่ๆ

ขนาดฟอร์มในฤดูกาลที่แล้วของ อาร์เซน่อล ที่ไม่เป็นสองรองใครในลีก ส่วน ลิเวอร์พูล เองก็อยู่ในช่วงขาลง แต่เชื่อไหมครับว่า ลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า เกือบเอาตัวไม่รอดทั้งที่นำไปก่อนถึง 2 ประตู ยังดีที่ โม ซาลาห์ ยิงจุดโทษไม่เข้า มิเช่นนั้นบอกได้คำเดียวเลยว่า ศพไม่สวยแน่ๆ

ถ้านอกเหนือสองทีมที่กล่าวมา อาร์เซน่อล จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเก็บ 3 แต้มให้ได้ทั้งหมดในช่วงนี้ หากยังหวังที่จะลุ้นแชมป์

2.) ไม่แพ้ทีมใหญ่ เก็บแต้มทีมเล็ก

อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญที่ อาร์เซน่อล พลาดท่าต่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดกูาลที่แล้ว ก็คือ การไปแพ้ เรือใบ ไปกลับ และไม่สามารถเก็บแต้มทีมเล็กได้อย่างสม่ำเสมอ

ในฤดูกาลที่แล้ว อาร์เซน่อล ไม่สามารถเอาชนะทีมบ๊วยอย่าง เซาแฮมป์ตัน ได้เลย ทำได้เพียงแค่เสมอเท่านั้น แถมยังบุกไปแพ้ เอฟเวอร์ตัน ที่ กูดิสันพาร์ค 1-0 นี่คงเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ มิเกล อาร์เตต้า ต้องแก้ให้ได้ โดยต้องไปยัดเยียดความปราชัยให้กับทีมที่อันดับต่ำกว่า เพียงสถานเดียวเท่านั้น

แต่ในฤดูกาลนี้มีสิ่งหนึ่งที่ อาร์เซน่อล ทำได้สำเร็จก็คือการคว้าชัยเหนือ แมนฯ ซิตี้ โดยก่อนหน้านี้ ลูกทีมของ มิเกล อาร์เตต้า ไม่สามารถเอาชนะ ซิตี้ ได้เลยตลอดการพบกันที่ผ่านมาขนาดแค่เสมอยังยาก

แต่ครั้งนี้ พลพรรคปืนโต สามารถทำได้สำเร็จ นับได้ว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง และหวังว่ากุนซือชาวสเปนจะต่อยอดสิ่งเหล่านี้ ต่อไปให้ได้

แต่ที่ยากกว่านั้นคือฤดูกาลนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่ แมนฯ ซิตี้ เพียงเท่านั้นที่มาลุ้นแชมป์ ยังมี ลิเวอร์พูล และ สเปอร์ส เพราะฉนั้นแล้วการที่เก็บ 1 คะแนนกับทีมเหล่านี้ให้ได้เป็นอย่างน้อยถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ

3.) ภาวนาให้นักเตะไม่เจ็บเพิ่ม

ชื่อ ฮอสพิทัล แบนด์ ชื่อนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย เพราะอาการบาดเจ็บของผู้เล่นมักเป็นปัญหาคู่ใจของ อาร์เซน่อลมาอย่างช้านาน นับตั้งแต่ยุคของ อาร์แซน เวนเกอร์ มาจวบจนปัจจุบันก็ยังแก้ไม่หายเสียที

ปัจจุบัน มิเกล อาร์เตต้า ยังไม่สามารถจัดชุด 11 ตัวจริงที่ดีสุดของทีมได้เลย เนื่องจากปัญหาอาการบาดเจ็บของผู้เล่นตั้งแต่นัดเปิดฤดูกาล เหมือนสลับกันเจ็บสลับกันหายอยู่แทบตลอด เป็นปัญหาที่เครียดแทน พี่แกจริงๆ

แน่นอนว่าปัญหาอาการบาดเจ็บมีผลอย่างมากในการลุ้นแชมป์ระยะยาว ยิ่งปีนี้ อาร์เซน่อล มีเตะหลายถ้วย ไม่ว่าจะเป็น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือ พรีเมียร์ลีก เองก็ตาม ยิ่งในช่วง บ็อกซิ่งเดย์ ที่กำลังจะมาถึงเป็นช่วงที่นักเตะต้องกรำศึกหนักอาจส่งผลให้นักเตะบาดเจ็บได้ง่ายๆ

ดังนั้นแล้วการโลเตชั่นนักเตะถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากในการเซฟนักเตะไม่ให้มีอาการบาดเจ็บไปมากกว่านี้ โดยเฉพาะ ดีแคลน ไรซ์ ที่ลงแทบจะทุกเกม ขึ้นสุดลงสุดตลอด เพราะถ้าพี่แกเจ็บไปหละก็ บอกได้เลยว่างานหยาบแน่ๆ

นอกจากการโลเตชั่นจะสำคัญแล้ว ยังต้องภาวนาอีกด้วยว่าหลังจากนี้ ไม่ให้นักเตะตัวหลักเจ็บไปมากกว่าเดิม มิเช่นนั้นหนทางการลุ้นแชมป์อาจจะจบลงไวกว่าที่คิด

4.) ตลาดหน้าหนาวโคตรสำคัญ

อาร์เซน่อล จำเป็นที่จะต้องเสริมนักเตะอย่างน้อย 2 คนในตลาดหน้าหนาว โดยเฉพาะผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าตัวเป้า เพราะที่มีอยู่ในตอนนี้มันยังไม่พอจริงๆ

กองหน้าตัวจริงอย่าง กาเบรียล เจซุส ที่ยังมีปัญหาบาดเจ็บมาโดยตลอด ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว ส่งผลให้ฟอร์มการเล่นของตัวตัวไม่มีความสม่ำเสมอเอาเสียเลย 

เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ ยิ่งแล้วใหญ่ เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้เลยกับพี่แกในช่วงนี้ นัดไหนดีก็ดีแบบน่าใจหาย นัดไหนห่วยก็กองหน้าดาดๆดีๆนี่เอง 

กองกลางในตำแหน่งเบอร์ 8 ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้ นับตั้งแต่ มาเฟียสวิซ กรานิท ชาก้า ย้ายออกไปในช่วงซัมเมอร์ ก็ยังไม่มีใครสามารถมาทดแทนตำแหน่งของพี่แกได้เลย 

ไค ฮาแวร์ตซ์ เองก็ยังไม่ตอบโจทย์ในตำแหน่งนี้สักเท่าไหร่นัก คนอื่นๆอย่าง ฟาบิ โอวิร่า ก็เหมือนจะดีแต่ก็ยังรักษาฟอร์มเหมือนต้นฤดูกาลเอาไว้ไม่ได้

เอมิล สมิท โรว์ เองก็หวังพึ่งอะไรไม่ได้ค่อยได้ เนื่องจากเจ้าตัวเจ็บบ่อย แถมเวลาได้โอกาสลงสนามก็สร้างอิมแพคอะไรกับทีมได้ค่อยได้เท่าที่ควร

เพราะฉนั้นแล้ว มิเกล อาร์เตต้า ควรพิจารณาอย่างยิ่ง ในการเสริมทัพ ช่วงตลาดเดือนมกราโดยเฉพาะตำแหน่งกองกลาง และกองหน้าที่ยังเป็นปัญหาของทีมในตอนนี้อยู่

5.) บทเรียนอันล้ำค่า

ฤดูกาลที่ผ่านมาคงไม่มีใครคาดคิดหรอกครับว่า อาร์เซน่อล จะมีโอกาสได้ลุ้นแชมป์แต่ด้วยอะไรหลายๆอย่างมันลงล็อคพอดี แต่น่าเสียดายจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายอย่าง “ประสบการณ์” ที่เป็นเหตุทำให้ อาร์เซน่อล ยังคงไม่ถึงฝั่งฝัน 

ฤดูกาลนี้แน่นอนว่ามันยากขึ้นกว่าที่ผ่านมาแน่นอน แต่ด้วยประสบการณ์ และความผิดหวัง ในฤดูกาลก่อน อาจจะเป็นแรงผลักดันให้ อาร์เซน่อล มากขึ้นกว่าเดิม

แต่เชื่อเถอะครับว่าแฟนบอล อาร์เซน่อล ทุกคนหวังให้ทีมกลับไปอยู่ในจุดที่ควรจะเป็นอีกครั้ง แม้ไม่ได้เป็นแชมป์ แต่ขอแค่การได้ลุ้นแชมป์ไปจนถึงโค้งสุดท้าย ก็นับว่ายอดเยี่ยมแล้ว

เส้นทางของ พรีเมียร์ลีก ยังอีกยาวไกลครับ นี่คงเป็นการด่วนตัดสินเร็วเกินไปที่จะมองว่าใครจะเป็นแชมป์ในตอนนี้

บทความนี้เป็นเพียงแค่บทวิเคราะห์เท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าถ้าทำครบ 5 ข้อนี้แล้วจะเป็นแชมป์ชัวร์ๆ หรือขี้โม้โอ้อวดแต่อย่างใด สุดท้ายแล้วให้ผลงานในสนามเป็นตัวติดสินดีกว่าครับ ว่าใครจะเป็นแชมป์ในปีนี้

- บีเบลล์ กูนเนอร์ -