ทำไม "เมืองทองยู ไนเต็ด" จากที่มีข่าวกับโค้ชดังๆ หลายๆ คน ถึงขนาดมีข่าวว่าสนใจเอา "มาซาทาดะ อิชิอิ" มาคุมทัพ
แต่สุดท้ายมาลงเอยกับ "มิลอส โจซิค" อดีตกุนซือคู่ของ มาริโอ ยูรอฟสกี้ นายใหญ่คนเก่าของพวกเขาที่กลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง
วันนี้ ขอบสนามบอลไทย จะลองมาวิเคราะห์ร่วมกันหน่อยว่า ทำไม ?? เพราะอะไร ?? ถึงต้องกลับมาเป็น "โจซิค" คนนี้ ??
อย่างแรกต้องยอมรับก่อนว่า ด้วยขนาดของทีม เมืองทองฯ ในเวลานี้ ด้วยศักยภาพโดยรวม ทีมยังขึ้นไปสูงกว่าที่เคยอยู่ในช่วง 2-3 ปีหลังไม่ได้ ดังนั้นในช่วงเวลานี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องทุ่มทุนสร้างเรื่องโค้ชขนาดนั้น หรือเรียกง่ายๆ ทีมรู้ตัวเองดีว่าควรใช้โค้ชประมาณไหน ทำให้ชื่อของ โจซิค กลับมาอยู่ในลิสต์นี้อีกครั้ง
อย่างที่สอง "ปัจจัยเรื่องเงินๆ ทองๆ" จากข้อมูลที่ได้รับมา มิลอส โจซิค ค่าตัวของเขาไม่ได้แพง (แสนบาทต้นๆ) ไปกว่า โค้ชมาริโอ ด้วยซ้ำ ดังนั้นเท่ากับว่า เมืองทอง ไม่ต้องใช้เงินมากกว่าเดิมในการจ้างโค้ชเพิ่มอีกสักคนให้เข้ามาช่วยทีม และเมื่อนำมาเปรียบกับ อิชิอิ ยิ่งชัดเจนว่า "ค่าเหนื่อย" ของทั้งคู่ห่างกันเยอะ
อย่างที่สาม "มิลอส" ลงตัวกับ "เมืองทอง" ดูได้จากอะไร ?? ดูได้จากการที่เขาสามารถกลับมาทำงานร่วมกันกับทีมเป็นหนที่ 3 ซึ่งน้อยครั้งมากที่จะหาคนเข้าๆ ออกๆ ทีมเดิมได้เยอะขนาดนี้ และทุกครั้งก็เป็นบทบาทของ "ผู้ช่วยโค้ช" ทั้งหมด แสดงว่าเขารู้ตัวว่าควรทำอะไรในจุดที่เขาเข้ามา ดังนั้นครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกันแม้จะไม่ใช่โค้ชใหญ่ แต่การได้เป็นโค้ชคู่กับ อุทัย บุญเหมาะ มันก็ดีและเพียงพอแล้วสำหรับคนที่ต้องการเวทีทำงานอย่าง โจซิค
อย่างที่สี่อันนี้ผมโคตรชอบนั่นคือ "โจซิค" ตะเวนทำงานด้วยการไปดูบอลในหลายๆ สนาม แน่นอนคนอาจจะมองว่าเขาว่างงานเลยไปนู้น ดูนี่ ได้บ่อยๆ แต่สำหรับผมมองว่าเขาพยายามศึกษารูปแบบและวิธีการเล่นของหลายๆ ทีม เผื่อมีโอกาสกลับมาลุยงานอีกครั้ง จนในที่สุดก็เป็นเขาที่ได้กลับมาทำงานร่วมกับ เมืองทอง อีกครั้ง
และอย่างสุดท้าย มิลอส โจซิค "รู้จักนักบอลเมืองทอง" และ "รู้จักบอลไทย" ดีมากๆ คงไม่ต้องไปบอกอะไรมากมายในเรื่องนี้ เพราะการทำงานของเขาตลอดหลายปีกับฟุตบอลไทยมันคือเครื่องพิสูจน์แล้วว่าเขาสามารถบอกได้ว่านักบอลแต่ละคนมีคาแรคเตอร์แตกต่างกันอย่างไร ซึ่งแน่นอนว่า เมืองทอง ในช่วงเวลานี้ต้องการโค้ชที่รู้จักทีมดีแบบนี้แหละเหมาะและดีที่สุดแล้ว
บอลพาดู
