อูไน เอเมรี่ ชายผู้มา ยกระดับ แอสตัล วิลล่า

จะมีซักกี่ครั้งกันครับที่ยอดทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมบังเหียนของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะโดนโขยกอยู่ฝั่งเดียวแบบนี้

แต่เหตุการณ์ดังกล่าวดันเกิดขึ้นในเกมที่ต้องพบกับ แอสตัน วิลล่า ที่บ้านของพวกเขาอย่าง วิลล่า พาร์ค นรกของทีมเยือนอย่างแท้จริง 

เกมในวันนี้ทีม สิงห์ผงาด เล่นได้สุดยอดมากเหลือเกิน ไม่ได้ชนะเพียงแค่ผลสกอร์เท่านั้น รูปเกมเองก็เหนือกว่าทางฝั่งทีมแชมป์เก่าอยู่หลายขุม

จากสถิติที่มีโอกาสยิงมากถึง 22 ครั้ง ส่วน แมนฯ ซิตี้ มีโอกายิงเพียง 2 ครั้งเท่านั้น ห่างกันถึง 11 เท่า แค่สถิติดังกล่าวก็บ่งชี้ให้เห็นถึงความยอดเยี่ยมของ วิลล่า ในเกมวันนี้ได้ชัดเจนมากแล้ว

แต่เท่านั้นไม่พอ แอสตัน วิลล่า ยังเข้าไปเล่นในพื้นที่สุดท้ายกับ แมนฯ ซิตี้ ได้ถึง 13 ครั้ง มากที่สุดเท่าที่ทีมคู่แข่งในการมาดวลกับ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในพรีเมียร์ลีก อีกด้วย

ส่งผลให้ แอสตัน วิลล่า ชนะเกมในบ้านเป็นนัดที่ 14 ติดต่อกันใน พรีเมียร์ลีก มากที่สุดเทียบเท่ากับสถิติสโมสรที่เคยทำไว้เมื่อปี 1903 และ 1931

ผลงานเกมในบ้านจัดได้ว่าแกร่งสุดๆ โดยในลีกเก็บคะแนนได้มากที่สุด 21 คะแนน (ร่วมกับ ลิเวอร์พูล, นิวคาสเซิ่ล) และยังไม่แพ้ใครตลอด 7 เกม ซัดไป 24 ประตู มากที่สุดเหนือทีมอื่นๆ

แต่ที่พีคไปกว่านั้นก็คือ ทีมสิงห์ผงาด ได้ถลุงตาข่ายไปแล้ว 34 ประตู มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของลีก เท่ากับ ลิเวอร์พูล และ เป็นรองเพียงแค่ แมนฯ ซิตี้ ทีมเดียวเท่านั้น

 

โดยเหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าไม่มีชายที่ชื่อ อูไน เอเมรี่ ผู้มายกระดับให้ แอสตัน วิลล่า กลายมาเป็นทีมม้ามืดในปีนี้อย่างแท้จริง 

กุนซือชาวสเปนได้เปิดเผยว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ตัวเขานั้นทำงานหนักเป็นอย่างมาก เขาวิเคราะห์เกมมากกว่า 10 ชั่วโมงต่อวัน ต่อการแข่งขันในแต่ละนัด 

หลังจากนั้น อูไน เอเมรี่ จะขอความคิดเห็นจากทีงานสต๊าฟโค้ช และอาจจะต้องใช้เวลาถึงสองวันในการวิเคระห์ข้อมูลอย่างละเอียด รวบรวมข้อมูลเก็บสถิติ รวมไปถึงจุดเด่นจุดด้อยของทีมฝั่งตรงข้าม และเขียนเป็นรายงานฉบับเต็มเกี่ยวกับผลงานของทีมในแต่ละเกมออกมา

เพื่อที่จะได้เห็นแผลหรือปัญหาของทีมว่า จะต้องแก้ไขไหนจุดไหน และพัฒนาหรือปรังปรุงต่อไปในเกมถัดไปอย่างไร  เรียกได้ว่าเก็บทุกรายละเอียดจริงๆ

นอกจากนั้น อูไน เอเมรี่ ยังต้องการยกระดับผลงานผู้เล่นให้สูงขึ้นไปอีก เพื่อที่จะพัฒนาทีมกลับสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง และกลับไปเล่นในเวทียุโรปให้ได้ แม้การแข่งขันในพรีเมียร์ลีกจะสูงมากก็ตาม

 

ส่วนแผนการเล่นของ อูไน เอเมรี่ ก็ต้องบอกได้เลยว่า “Simple is The best” จริงๆ โดยในเกมรับจะใช้แผน 4-4-2 ซึ่งแผนนี้จะทำให้มีพื้นที่ระหว่าง กองหลัง และ กองกลาง น้อยมาก ส่งผลให้คู่ต่อสู้เจาะเข้ามาลำบาก แถมปีกทั้งสองข้างยังขยับเข้ามาเล่นตรงกลางมากขึ้น ทำให้เหมือนมี มิดฟิลด์ อยู่ 4 คน

ส่วนในเกมรุก จะยืน 4-4-2 บ้าง 4-2-3-1 บ้าง โดยวิธีการเล่นเกมรุกของ เอเมรี่ จะเน้นจังหวะไม่เยอะ โจมตีรวมเร็ว อาศัยจังหวะโต้กลับเป็นไม้เด็ด โดยจะใช้ กองหน้าทั้งสองคนที่มีความเร็วจัดจ้านคอยเล่นงานคู่ต่อสู้ อย่าง โอลลี่ วัตกิ้นส์ และ มุสซ่า ดิยาบี้ ซึ่งเราก็ได้เห็นชัดดแล้วว่าแผนดังกล่าว เล่นงานยอดทีมอย่าง แมนฯ ซิตี้ ได้แค่ไหน

ทางด้านกองกลางเองก็เป็นอีกหนึ่งตัวแปลสำคัญเหมือนกัน โดยเฉพาะตำแหน่ง “ดับเบิล พิวอต” สองคนอย่าง บูบาการ์ กามาร่า และ ดักลาส หลุยซ์ ที่เป็นเหมือนฟันเฟืองสำคัญในแผงมิดฟิลด์ นอกจากนั้น ยังมี จอห์น แม็คกินน์ ที่เป็นเหมือนตัวฟรีคอย ซัพพอร์ต ทั้งเกมรุก และ เกมรับ

นอกจากนั้น แบ็กทั้งสองข้างเองก็เป็นอีกหนึ่งอาวุธเด็ดของ อูไน เอเมรี่ อีกเช่นเดียวกัน โดยจะให้ แบ็กคอยสลับกันเติมขึ้นไปครอสบอล หรือสอดขึ้นไปทำประตูก็มีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะทางฝั่ง แมตตี้ แคส ที่มักจะมีชื่อเป็นคนทำประตู หรือแอสซิสต์ อยู่บ่อยครั้ง

เหนือสิ่งอื่นใด การเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญของฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของ แอสตัน วิลล่า  โดยการไปดึงเด็กเก่าสมัยที่อูไน เอเมรี่ ยังเป็นกุนซืออยู บียาร์เรอัล อย่าง เปา ตอร์เรส เข้ามาเสริมแดนหลัง เนื่องจาก ไทรอน มิงส์ มีปัญหาอาการบาดเจ็บอยู่บ่อยครั้ง

ในฤดูกาลที่แล้วเราจะเห็นได้ชัดเลยว่า ความหวังในการทำสกอร์ของทีม สิงห์ผงาด จะขึ้นอยู่กับ โอลลี่ วัตกิ้นส์ อยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น ถ้าเกมไหน กองหน้าชาวงอังกฤษรายนี้ โชว์ฟอร์มไม่ออก ก็แทบจะไม่มีตัวเปลี่ยนเกมได้เลย

อูไน เอเมรี่ เลยไปจัด มุสซ่า ดิยาบี้ ปีกชาวฝรั่งเศส จาก เลเวอร์คูเซ่น มาร่วมทีม โดยหวังว่าจะเป็นตัวซัพพอร์ต โอลลี่ วัตกิ้นส์ ได้ และเจ้าตัวถือว่าทำผลงานได้เข้าตาเลยทีเดียว ลงสนามไปทั้งหมด 21 นัดในลีก ยิงไป 4 ประตู 5 แอสซิสต์

ยูริ ติเลอมองส์ ที่ดึงมาจาก เลสเตอร์ ซิตี้ ที่จะดูเป็นส่วนเกินของทีมในช่วงต้นฤดูกาล แต่ในช่วงหลังเจ้าตัว ก็ยกระดับฟอร์มการเล่นของตัวเองให้สูงขึ้น จนได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงอยู่บ่อยครั้ง และยังทำได้ดีมากขึ้นเรื่อยๆ

และสิ่งที่เป็นไม้เด็ดเลยก็คือ อูไน เอเมรี่ ยังปลุกปีศาจในตัวของ โอลลี่ วัตกิ้นส์ ให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง โดย ศูนย์หน้าทีมชาติอังกฤษ รายนี้โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมจริง ลงสนามไปทั้งหมด 22 นัดรวมทุกรายการ ยิงไป 13 ประตู กับอีก 8 แอสซิสต์

โดยเกมนัดถัดไปของ วิลล่า จะเป็นการเปิดบ้านรับการมาเยือนของจ่าฝูงอย่าง อาร์เซน่อล ซึ่งเป็นทีมที่พวกเขาแพ้ในบ้านเป็นเกมล่าสุดอีกด้วย ซึ่งถ้าพวกเขายังสามารถปราชัยเหนือ ทัพปืนโต ได้คงพูดได้เต็มปากเลยว่า สะเทือนถึงบัลลังค์แชมป์แน่นอน

- บีเบลล์ กูนเนอร์ -