เห็นแล้วต้องร้องเห้อ!! 5 ดีลแย่ๆ แห่ง "ไทยลีก" เลกแรก

1. ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร (เมืองทอง ยูไนเต็ด)

คนแรกไม่ใช่ใครที่ไหนเราขอยกให้ "เจ้ากัน" ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร กับช่วงเวลาที่ย้ายมาเล่นให้ เมืองทอง ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ แม้จะรู้อยู่แล้วว่าน้องอยู่ในช่วงเรียกความฟิตกับฟื้นฟูร่างกาย หลังได้รับบาดเจ็บหนักมาเมื่อตอนที่อยู่กับ เลสเตอร์ จากที่คิดว่าน่าจะช่วงปลายเลกแรกเราคงได้เห็นเขาลงสนาม แต่สุดท้ายรอจนจบเลกแรกก็ยังไม่มีวี่แวว แม้ก่อนหน้านี้มีการโชว์ภาพฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่ใครได้เห็นเขาในสีเสื้อเมืองทอง ดังนั้นต้องยอมรับจริงๆ ว่านี่คือดีลที่น่าผิดหวังจริงๆ

 

2. นิโคเลา คาร์โดโซ่ (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)

ยอมรับเลยว่า นิโคเลา คาร์โดโซ่ ถือเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่เข้ามาสร้างความฮือฮาได้พอสมควรกับการย้ายมาเล่นให้ทีมระดับแชมป์อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แม้จะหวือหวาและสร้างสรรค์เกมรุกได้อยู่บ้าง แต่ข้อที่ต้องยอมรับคือเขาไม่ได้ดีไปกว่า ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา อดีตแนวรุกของทีมที่ปล่อยไปเล่นที่เบลเยี่ยม เพราะในเมื่อตำแหน่งของเขาเข้ามาแทนที่การขาดหายของ แบงค์ การเปรียบเทียบมันเลยเกิดขึ้น และที่หนักกว่านั้นช่วงหลังเขาหนักไปทางเป็นตัวสำรองเป็นตัวเลือกลำดับท้ายๆ ในโควต้าต่างชาติด้วย

3. อัลวิน ฟอร์เตส (ราชบุรี เอฟซี) 

ตอนแรกที่มีการประกาศว่า อัลวิน ฟอร์เตส กลับมาเล่นให้ ราชบุรี เอฟซี อีกครั้งหลังย้ายไปตกชั้นกับ หนองบัว พิชญ เชื่อว่าแฟนๆ ราชันมังกร คาดหวังกับเขาเอาไว้พอสมควร เพราะผลงานก่อนหน้านั้นมันทำให้ชวนฝันได้เลย แต่สุดท้ายด้วยปัญหาทั้งทัศนคติส่วนตัว และการเล่นกับระบบ ราชบุรีฯ ในยุคนี้ไม่ได้ ทำให้ชื่อของเขาค่อยๆ หายเข้ากลีบเมฆไปเลย และที่หนักที่สุดคือการโดนยกเลิกสัญญาตั้งแต่ช่วงกลางเลกแรกเท่านั้น บอกเลยว่าน่าผิดหวังจริงๆ สำหรับดีลนี้ 

 

4. ยานนิค เอ็มโบเน่ (ชลบุรี เอฟซี) 

กองหลังรายนี้ถือเป็นตัวโจ๊กเกอร์สำหรับ ชลบุรี เอฟซี ในเลกแรกเลยก็ว่าได้ เพราะเขามักถูกพูดถึงในมุมที่ฟอร์มแย่ๆ กับการเล่นให้ ฉลามชล โดยเขาถือเป็นแนวรับที่แจกรางวัลให้แนวรุกคู่แข่งที่มีความไวได้อยู่เสมอ เรียกได้ว่าแต่ละเกมมักมีคอนเทนต์ให้พูดถึงตลอด แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไม ชลบุรี ถึงยังกล้าให้ลงเล่นเป็นตัวจริงบ่อยครั้งเรียกว่าเป็นตัวหลักเลยก็ว่าได้ ทั้งที่ดูแล้วไม่ได้ดีไปกว่าตัวนักเตะไทยของตัวเองเท่าไหร่เลย บอกไว้ตรงนี้เลยว่าถ้าเลกสองยังเห็นชื่อของเขาโลดแล่นอยู่กับ ชลบุรี แสดงว่าสายแข็งใช้ได้เลยล่ะ

5. ชนาธิป สรงกระสินธ์ (บีจี ปทุม)

ในรายของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ กับ บีจี ปทุม จะบอกว่าแย่เหมือนเคสด้านบนก็คงไม่ขนาดนั้น เพราะเขามีทั้งแอสซิสต์และมีทั้งประตูให้เห็นกันอยู่บ้าง แต่ความหมายแย่ในที่นี้คงมาจากความคาดหวังที่สูงมากๆ ว่า เจ ชนาธิป กับ บีจี ปทุม ต้องดีกว่านี้ ทั้งในส่วนผลงานของทีมเองและฟอร์มส่สนตัวของเจด้วย แต่ที่ว่ามาทั้งหมดมันยังทรงๆ ทรุดๆ ยกตัวอย่างง่ายๆ ภาพจำ ชนาธิป กับ บีจี ในไทยลีกไม่มีเกมไหนชัดเลย ไม่เหมือนตอนเจคุงเล่น ACL ที่เขาสามารถยกระดับการเล่นช่วย บีจี ได้ดีมากๆ อีกอย่างคือเรื่องสภาพร่างกายที่ 3 วันเล่นได้ 4 วันเจ็บอีกแล้ว ทำให้ เจ ลงสนามแบบต่อเนื่องให้ บีจี ไม่ได้เลย ดังนั้นเลกสองคงมีการบ้านให้ "เจ" ต้องทำอีกเยอะเลยกับการยกระดับตัวเองขึ้นมาให้สมกับการเป็นแข้งเบอร์ 1 ของทีม "บีจี" และของ "ไทยลีก"

 

บอลพาดู